Page 33 - InsuranceJournal120
P. 33

ฎี ก า ย่ อ แ ล ะ ย่ อ ค า ช ข า ด อ นุ ญ า โ ต ฯ
                                                                              �
                                                                                  ี้



               ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่      839-840/2506
               โจทก์                     นางประไพ  อุตตมะรูป (หม้าย) ในฐานะส่วนตัว และเป็นมารดาผู้ปกครอง
                                         นางสาวนภาพรและเด็กชายสุทธิศักดิ์  อุตตมะรูป บุตรซึ่งเป็นผู้เยาว์
               จ�าเลย                    นายสถิตย์  ศรีจันทร์ กับพวกรวม 5 คน และบริษัท ป.ประกันภัย จ�ากัด

                                         โดย นายอุเทน  เดชะไพบูลย์ ประธานกรรมการโจทก์
                                         นางยวงแก้ว  วงศ์สุวรรณ (หม้าย) ที่ 1 เด็กหญิงวัลลีย์  วงศ์มาลูน
                                         โดย นางยวงแก้ว  วงศ์สุวรรณ ผู้แทนเฉพาะคดี ที่ 2
               จ�าเลย                    นายสถิตย์  ศรีจันทร์
               ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง            มาตรา 172




                  คดี 2 สำานวนนี้ศาลพิจารณาพิพากษารวมกัน             ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษาแก้ให้ยกฟ้องของ
                  สำานวนแรก โจทก์ฟ้องว่า จำาเลยที่ 1 2 3 4 เป็น โจทก์เสียทั้ง 2 สำานวน กับให้ยกฟ้องแย้งจำาเลยที่ 2 นอกนั้น
            เจ้าของรถยนต์ร่วมกัน จำาเลยที่ 5 เป็นลูกจ้าง จำาเลยที่ 6  ให้เป็นไปตามคำาพิพากษาศาลชั้นต้น
                                      ี่
                                                   ั้
                                                                          ั้
            เป็นผู้รับประกันวินาศภัย จำาเลยท 5 ได้ขับรถคันนนของจำาเลย  โจทก์ทง 2 สำานวนฎีกา ขอให้จำาเลยทุกคนร่วมกันรับผิด
            ที่เป็นนายจ้างโดยประมาทเลินเล่อ  เป็นเหตุให้พันโทรณรงค์   ตามฟ้องจำาเลยท 2 ฎีกาขอให้โจทก์สำานวนแรกรับผิดตามฟ้อง
                                                                            ี่
            อุตตมะรูป กับผู้เดินทางร่วมอีกคนหนึ่งถึงแก่ความตาย และ   ศาลฎีกาพิจารณาแล้ววินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำาเลยที่ 5
            รถยนต์ของพันโทรณรงค์เสียหายใช้การไม่ได้ ขอให้ศาลบังคับ ฝ่ายเดียวขับรถยนต์โดยประมาท จำาเลยที่ 2 กับที่ 5 ต้องร่วม
            จำาเลยทั้ง 6 ร่วมกันใช้ค่าเสียหาย                  กันรับผิด ไม่ฟังว่าจำาเลยท 1 3 4 เป็นเจ้าของรถยนต์กับจำาเลย
                                                                                   ี่
                  สำานวนหลัง  โจทก์ฟ้องมีข้อความเดียวกับสำานวนแรก  ที่ 2 ด้วย โจทก์ไม่มีพยานว่าจำาเลยที่ 5 เป็นลูกจ้างของจำาเลย
                              ี้
            โดยเรียกค่าอุปการะเลยงดูและค่าการศึกษาเล่าเรียนของโจทก์ ที่ 1 3 4 และวินิจฉัยในข้อกฎหมายเกี่ยวกับตัวจำาเลยที่ 6 ว่า
            ทั้ง 2 จากจำาเลย                                   โจทก์บรรยายฟ้องสำาหรับจำาเลยนี้เพียงว่าจำาเลยที่ 6 เป็นผู้รับ
                  จำาเลยที่ 1 3 4 ให้การต่อสู้ว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของร่วม ประกันวินาศภัยต่อจำาเลยผู้เป็นเจ้าของ จึงต้องรับผิดชดใช้ค่า
            กับจำาเลยที่ 2 ทั้งไม่ได้จ้างจำาเลยที่ 5           เสียหายให้โจทก์ทุกประเภทจนครบ หาได้บรรยายแสดงให้แจ้ง
                                                                                                 ั้
                                                                                                                ี่
                                                                   ึ่
                        ี่
                  จำาเลยท 2 รับว่าเป็นเจ้าของรถยนต์คนเดียว และจำาเลย ชัดซงสภาพแห่งข้อหาว่าสัญญาประกันภัยนนได้ระบุให้จำาเลยท
            ที่ 5 เป็นลูกจ้างของตน แต่จำาเลยท 5 ไม่ได้ขับรถโดยประมาท  6 จะต้องรับผิดถึงความเสียหายของบุคคลภายนอก คือ โจทก์
                                        ี่
            ฯลฯ และฟ้องแย้งให้โจทก์กับพวกใช้ค่าเสียหายแก่จำาเลยที่ 2  ไว้ทั้งคำาขอที่จะให้บังคับจำาเลยที่ 6 ในลักษณะอย่างไรก็ไม่ได้
                  จำาเลยที่ 6 ต่อสู้หลายประการ ข้อสำาคัญก็คือ จำาเลย กล่าวถึง ซึ่งเป็นข้ออ้างที่จะอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น
            ที่ 6 ไม่ต้องรับผิด                                แต่ประการใดไม่ ฟ้องโจทก์สำานวนแรกสำาหรับจำาเลยที่ 6 จึง
                                                    ั้
                                 ื่
                        ี่
                  จำาเลยท 5 ขาดนัดยนคำาให้การและขาดนัดชนพิจารณา   เป็นการเคลือบคลุม ดังที่ศาลทั้งสองวินิจฉัย
                  ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำาเลยที่ 1 ถึง 5   พิพากษาแก้คำาพิพากษาศาลอุทธรณ์  โดยพิพากษาให้
            ร่วมกันรับผิดใช้ค่าอุปการะเลยงด ค่าการศึกษาบุตร ค่าปลงศพ  จำาเลยที่ 2 5 ร่วมรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่นางประไพกับพวก
                                      ู
                                   ี้
            และค่ารถยนต์แก่โจทก์สำานวนแรก สำาหรับสำานวนหลังให้ร่วมกัน โจทก์สำานวนแรก และร่วมกันรับผิดใช้เงินแก่โจทก์สำานวนหลัง
            ใช้ค่าอุปการะเลยงดูแก่นางยวงแก้วโจทก์ท 1 ค่าอุปการะและ คือ โจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 2 และใช้ค่าธรรมเนียมทั้งสิ้นแก่โจทก์
                                              ี่
                         ี้
            ค่าการศึกษาแก่เด็กหญิงวัลลีย์โจทก์ที่ 2 กับให้จำาเลยดังกล่าว ทั้ง 2 สำานวน ส่วนค่าทนายความ 3 ศาล ให้จำาเลยที่ 2 กับ
            ใช้ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายแทนโจทก์ด้วย ส่วนที่จำาเลยที่  ที่ 5 ร่วมกันใช้ให้โจทก์สำานวนแรกและให้จำาเลยที่ 2 กับที่ 5
            2 ฟ้องแย้งนางประไพกับพวกโจทก์ และโจทก์ทั้งสองสำานวน ใช้ค่าทนายความสำานวนหลัง 3 ศาล สำาหรับจำาเลยอื่นเป็นพับ
            ฟ้องจำาเลยที่ 6 นั้น ให้ยกเสียฯ                    ไป นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำาพิพากษาศาลอุทธรณ์
                  นางประไพกับพวก โจทก์สำานวนแรกอุทธรณ์ว่า ฟ้อง
            โจทก์สำาหรับจำาเลยที่ 6 ไม่เคลือบคลุม
                  จำาเลยที่ 1 2 3 4 อุทธรณ์หลายประการ              (สำาราญ  ศิริพันธ์ - ชวน  สิงหลกะ - คร้าม  สิวายะวิโรจน์)


                                                                                                                  33
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38