Page 28 - InsuranceJournal130

รอบรู้ประกันภัย

ถึงแม้ว่าตัวอุปกรณ์ Wearable Device จะมีขนาดเล็ก
แต่ก็อัดแน่นไปด้วยความ “อัจฉริยะ” ท่ไม่แพ้อุปกรณ์ท่มีขนาดใหญ่
ี
ี
�
เลย ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ท่มีความสามารถในด้านการวัดจานวนก้าว
ี
เดิน จ�านวน Calories ที่ใช้ไป ตลอดจนถึงระยะทางที่เดิน เป็นต้น
ค่าต่าง ๆ จะถูกวัดโดย Sensor ที่ถูกฝังอยู่ในอุปกรณ์ โดยอุปกรณ์
บางชนิดยังได้เพ่มความสุดยอดอัจฉริยะเข้าไปอีก ไม่ว่าจะเป็นความ
ิ
สามารถทางด้านการบันทึกพิกัดและเส้นทางการเดินทางของผู้ใช้

งานแบบ Real Time ผ่าน GPS ที่อยู่ในอุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งวัด
อัตราการเต้นของหวใจโดยผ่าน Heart Rate Monitor Sensor โดย
ั
ี
ี
ข้อมูลต่าง ๆ ท่วัดได้น้จะถูกส่งไปยัง Smartphone หรือคอมพิวเตอร์
ผ่าน Bluetooth (หรืออุปกรณ์บางตัวอาจมีหน้าจอแสดงผลเป็นของ
ตัวเอง จึงไม่จ�าเป็นส่งข้อมูลไปยังโทรศัพท์) เพื่อแสดงผลให้ผู้ใช้งาน
ี
ได้รับทราบแบบ Real Time บนโปรแกรมท่ผู้ผลิต Wearable
Device ได้ออกแบบไว้ (รูปที่ 4)
จากการประมาณการของ IDC (รูปท่ 5) ซ่งเป็นบริษัทวิจัย
ี
ึ
การตลาดท่เช่ยวชาญด้านการศึกษากลมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ พบว่า
ี
ุ่
ี
�
ในปี ค.ศ. 2015 Wearable Device มีการจาหน่ายท่วโลกสูงถึง
ั
45.7 ล้านเครื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี ค.ศ. 2014 ถึง 157 เปอร์เซ็นต์
และในอีก 4 ปีข้างหน้า (ปี ค.ศ. 2019) ยอดจ�าหน่ายอุปกรณ์ดัง
กล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 126.1 ล้านเครื่อง หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น
ถึง 175 เปอร์เซ็นต์ สิ่งที่น่าสนใจก็คือ Wearable Device ที่ได้รับ
ื
ี
ความนิยมในอนาคตยังคงเป็นอุปกรณ์ในกลุ่มท่สวมใส่บนข้อมอ
เนื่องจากผู้ใช้อาจยังมีความคุ้นชินกับการใส่นาฬิกาข้อมือ

รูปที่ 4: การแสดงผลของโปรแกรม (Source: Fitbit)

ข้อจ�ากัดส�าคัญของ Wearable Device ในปัจจุบัน คงหนีไม่พ้นเรื่องอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ที่อยู่ได้ไม่คงทนเท่านาฬิกาข้อมือ ซึ่ง
ส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์จะท�างานอยู่ได้ประมาณ 5-10 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (มีบางอุปกรณ์ที่อาจจะท�างานอยู่ได้นานกว่านั้น หากไม่มีฟังก์ชั่น
การนาเสนอผ่านหน้าจอ) และมีอีกส่งท่หลายคนกังวลก็คือ ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลท่ถูกเก็บไว้ไม่ว่าจะอยู่ในตัว Wearable Device เอง
ี
ิ
ี
�
หรือใน Smartphone หรือบน Cloud Server ของผู้ผลิตแต่ละราย ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้ใช้บางคนยังอาจไม่มั่นใจว่าข้อมูลของพวกเขาจะถูกน�าไป
ี
ี
ใช้ไปในทางท่ไม่ดีหรือไม่ ถึงแม้ผู้ผลิตหลายรายออกมายืนยันว่าข้อมูลท่ถูกเก็บไว้มีความปลอดภัยแน่นอนแล้วก็ตาม ซ่งก็คงต้องติดตามดูกันต่อไป
ึ
สิ่งที่ส�าคัญคือข้อมูลที่ถูกเก็บไว้เป็นจ�านวนมหาศาล ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถที่จะน�ามาใช้ออกแบบแผนพัฒนาสุขภาพให้มีความเหมาะ
สมกับผู้สวมใส่อุปกรณ์ หรือยังเป็นประโยชน์ในแง่ที่ท�าให้ทราบถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละคน ซึ่งประโยชน์อย่างหลังนี้เองที่ธุรกิจประกันภัย
ในต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจและน�าไปต่อยอดเพื่อให้เกิดผลในเชิงธุรกิจ

28 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 130