Page 67 - TGIA_AnnualReport2023
P. 67

Annual Report 202367
 66  สมาคมประกันวินาศภัยไทย                                                                Thai General Insurance Association
 สมาคมประกันวินาศภัยไทย
 66 รายงานประจำาป‚ 2566รายงานประจำาป‚ 2566




 39.  งาน ส ัมมนา ว ิชาก าร ด ้านการประ ก ัน ภ ัย ห ัว ข ้อ  “Societal  that  Impact  the  Insurance  Landscape”  จ ัดโดย  สมาคมนายห น ้าประ ก ัน ภ ัยไทย  ร ่วม ก ับ   โครงการชิ่วิยเหลือสังคมและกิจกรรมเพั่�อสาธารณประโยชิน์
 39. งานสัมมนาวิชาการด้านการประกันภัยหัวข้อ “Societal that Impact the Insurance Landscape” จัดโดย สมาคมนายหน้าประกันภัยไทย ร่วมกับ
 ร
 ส
 ัน
 ัว
 ิน
 อ
 ด
 ช
 ์ เ
  27
 ที่
 ม
 ีนาคม 2567 ณ โรงแรม แกรน
 อ
 มื่
 ัน
 ว
 ์
 น
 ร
 จ
 อ
 ิตยสารไทยแลน
 ์
 ์
 นิตยสารไทยแลนด์ อินชัวรันส์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2567 ณ โรงแรม แกรนด์ ฟ้อรจูน พระราม 9  ประจำาปี 2566
 ฟ้
 ์
 ูน พระราม 9
 ด
                                                                    ำ
                 สมาคมประกันวินาศภัยไทย ในฐานะองค์กรกลางภาคธุรกิจประกันวินาศภัย ได้ดาเนินนโยบายที่สาคัญในการพัฒนาและส่งเสริมสนับสนุนให้ธุรกิจ
                                                                              ำ
             ประกันวินาศภัยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมและจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ ภายใต้
                                              ึ่
                                             ั
                                                                                                       ื
                                 ิ
                              ั
                                                                ุ
                                                             ั
                                                                  ิ
                                                                           ั
             นโยบายที่สอดคล้องกบพนธกจของสมาคมประกนวินาศภยไทย ในการสนบสนนกจกรรมความรบผิดชอบต่อสงคม (CSR) สร้างความยั่งยนด้านสิ�ง
                           ั
                                                   ั
                                                                                    ั
             แวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจประกันวินาศภัยไทย และเพื่อพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้เติบโต
                                              ี
                                                                                            ำ
             ควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชวิตของคนไทยไปพร้อมกัน โดยในปี 2566 สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ดาเนินโครงการและกิจกรรม
             เพื่อสังคมที่สาคัญ ได้แก่ โครงการสร้างต้นแบบและศูนย์เรียนรู้ข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรมในการบริหารจัดการน้าใต้ดินเพื่อการเกษตรที่ครบวงจร
                      ำ
                                                                                       ำ
                                                                                          ี
                                                                                               ้
                                                                                              ี
                                                         ี
                                                                                                            ั
                                                                                   ี
                              ำ
              แก้ปัญหาการขาดแคลนน้าในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ยกระดับคุณภาพชวิตให้กับเกษตรกรมีอาชีพ มีรายได้ และมคุณภาพชวิตที่ดข้นอย่างยั่งยืน ร่วมกบ
             มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) ดังนี้
                 1. พัฒนาแหล่งนำาเพื่อการเกษตรโดยการขดบ่อธนาคารนำาใต้ดิน จำานวน 13 บ่อ ให้กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขต
                              ้
                                                         ้
                                               ุ
                                                               ำ
                                                                         ู
                                                                                   ็
                                       ึ่
                                         ี
 ณ
 2567
 ม

 หา
 ว

 ม
 22
 ม

 น
 ที่
 า
 ค
 น
 ี
 ี
 า
 ย
 ั
 ั
 โ
 ล
 โ
 น
 ค
 เ
 ท
 ิ
 ิ
 ร
 ี
 ท
 ล
 า
 ย
 ี
 ย
 ั
 ยี่
 40.
 เ
 น
 ที่
 ช
 ม
 ม
 ย
 น
 ำ
 ำ
 ใ
 ด
 ต
 ง
 พื้
 40. ลงพื้นที่เยี่ยมชมตนแบบการบรหารจดการน้าใตดนเพื่อการเกษตร ในพื้นที่ทุ่งกลารองไห เมื่อวนที่ 22 มนาคม 2567 ณ มหาวทยาลยเทคโนโลยราช ช  ร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ ซึ่งมพื้นที่ประมาณ 1,700 ไร่ ตั้งอยู่ที่อาเภอสุวรรณภมิ จังหวัดร้อยเอด
 ้า
 ล
 หา
 ิ
 า
 ร
 ิ
 ั
 ั
 ดก
 ร
 จ
 ร
 ้
 น
 ต
 ้
 ร
 บ
 กา
 แ
 บบ
 า
 ุ
 ร
 อง
 ้
 ง
 ทุ่
 ก
 ล
 ุ
 ้
 มื่
 เ
 อ
 ั
 ว
 ห
 ไ

 ้
 ้
 ที่
 พื่
 เ
 อกา
 เ
 ร
 ้
 ้
 น
 ิ
 ิ
 กษ
 น
 พื้

 ใ
 ต
 ร
 น
                                                                     ่
                                                              ้
                                                                                             ้
                                                                                     ้
                                                                                                     ี
                                                                                               ี
                                         ้
                      ั
 มงคล อ ีสาน (มทร. อ ีสาน)  ว ิทยาเขต ร ้อยเ อ ็ด ณ  ทุ่ ง ก ุลา ร ้องไ ห ้ ้  2. ต้งศูนย์การเรียนรู้การจัดการนำาครบวงจรด้วยระบบธนาคารนำาใต้ดิน เพือเป็นต้นแบบการจัดการนำาใต้ดินในพืนท่แห้งแล้งท่อยู่นอกเขต
 มงคลอีสาน (มทร.อีสาน) วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห
                     ชลประทานและเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเพาะปลูกข้าวหอมมะลคุณภาพสูงและพืชผลนอกฤดูกาลในภาคอีสาน เพื่อให้เกษตรกรได้
                                                                  ิ
                                           ำ
                                                                                              ี
                     เข้ามาศึกษาและขยายผลวิธีการทาเกษตรกรรมสมัยใหม่ให้เกิดการพัฒนาและสร้างความยั่งยืนในการประกอบอาชพ
                                                                                   ่
                                                   ้
                                                                                                   ้
                                                               ่
                 3. จัดทำาชลประทานระบบท่อซึ่ึงเป็นระบบการให้นำาทางการเกษตรทีมีประสทธิภาพ เหมาะกับพืนทีทุ่งกุลาร้องไห้ทีมีแหล่งนำาจำากด โดยให้
                                       ่
                                                                                                       ั
                                                                                             ่
                                                                    ิ
                                                                                 ้
                     เกษตรกรเข้ามาเรียนรู้การวางระบบด้วย
                 4. โครงการศูนย์การเรียนรู้ผสมผสานพืชอาหารและการเล้ยงสัตว์ด้วยระบบพลังงานทดแทน ภายใต้ BCG model สร้างโรงเร่อนเลี้ยงสัตว์
                                                         ี
                     เช่น ไก่ไข่ แพะ บนนาข้าวมีแปลงหญ้าอาหารสัตว์ ระบบหมักอาหารสัตว์ ระบบควบคุมฟ้าร์มอัตโนมติ ระบบปรับสภาพน้าด้วยชีวภาพ โดย
                                                                                    ั
                                                                                                 ำ
                     การนาพลังงานทดแทนเป็นแหล่งพลังงานในการใช้ในระบบฟ้าร์ม เพื่อให้เกษตรกรเข้ามาเรียนรู้และเป็นแปลงสาธิตแก่เกษตรกรตามหลัก
                         ำ
                     วิชาการ
                 จากการดาเนินโครงการต่าง ๆ ทั้งหมด มทร.อีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ ได้เริ�มเปิดให้เกษตรกรและหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาเยี่ยม
                        ำ
              ชมและศึกษาดูงาน พร้อมทั้งได้จัดสรรพื้นที่ให้เกษตรกรเข้ามาประกอบอาชีพเสริมตามหลักวิชาการ ช่วยเหลือด้านการตลาด จนกระทั่งเกิดความชำานาญ
              และประสบการณ์ก่อให้เกิดอาชีพเสริมและรายได้เพ่�มข้น มีการวางแผนการเพาะปลูกพืชชนิดต่าง ๆ โดยการใช้ระบบน้าในการปลูกพืชภายใต้โครงการ
                                                                                        ำ
                                                ้
              พัฒนาแหล่งน้าเพื่อการเกษตรที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมประกันวินาศภัยไทย (เริ�มปลูกตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566) ซึ่ึ่งสามารถทาให้เกิดการ
                                                                                                     ำ
                       ำ
              จ้างงานและเกิดรายได้กับเกษตรกรในพื้นที่โดยสรุป ดังนี้
                 1. พืนท่เพาะปลูกจำานวน 149 ไร่ ท่ได้รับประโยชน์จากธนาคารนาใต้ดินและการทำาระบบท่อส่งนำา ้
                      ้
                        ี
                                                            ำ
                                                            ้
                                          ี
                                                                                                         ้
                                                                                       ่
                                                                                                         ี
                                                                                 ิ
                 2. พืชผักผลไม้ที่ทำาการเพาะปลูกในโครงการรวม 8 ชนิด ได้แก่ 1. มะเขอเทศ 2. แตงกวา 3. พรก 4. มะเขอเปราะ 5. แตงโม 6. มะระขนก 7.
                                                                 ่
                     ถั่วฝักยาว 8. ข้าวโพดเมล็ดพันธุ์
                 3. เกิดการจ้างงานแรงงานในพื้นท่ 4 อำาเภอ ได้แก่ 1. สุวรรณภูมิ 2. เกษตรวสัย 3. ปทุมรัตต์ 4. โพนทราย จำานวน 130 ครัวเรอน
                                                                                                    ่
                                         ี
                                                                    ิ
                                                                                 ี
                 4. มีการจ้างงานเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ คือ ค่าแรงวันละ 300 บาททุกวัน เกิดรายได้หมุนเวยนจ้างแรงงานจำานวน 800,000 บาท
                                                                                                         ำ
                                                                                                    ั
                                                                                     ำ
                        ำ
                                                                ำ
                 จากการดาเนินโครงการศูนย์เรียนรู้ในข้างต้น มทร.อีสาน ตั้งเป้าหมายจานวนผู้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และนาความรู้ไปต่อยอดปฏิิบติจริงจานวน
                                                                 ำ
             1,000 คน ซึ่ึ่งจากข้อมูลตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม 2566 มีหน่วยงานต่าง ๆ นาเกษตรกรเข้ามารับการอบรมความรู้ เยี่ยมชมและศึกษาดูงานที่ศูนย์
             เรียนรู้ภายใน มทร.อีสาน วิทยาเขตร้อยเอ็ด ณ ทุ่งกุลาร้องไห้ มจานวนสะสมแล้วกว่า 690 คน ได้แก่ ผู้ใหญ่บ้าน กานัน องค์การบริหารส่วนตาบลเกษตร
                                                                                                      ำ
                                                                                     ำ
                                                      ำ
                                                     ี
                                                                                                            ู
                                                                                                   ำ
                           ำ
                                        ำ
             อาเภอ เป็นต้น โดยในจานวนนี้มีเกษตรกรจานวน 50 คน ที่นาความรู้ที่ไดรับไปปฏิิบติจริงในแปลงตัวอย่างในพื้นที่ของ อบต. ห้วยหินลาด อาเภอสุวรรณภม ิ
              ำ
                                                  ำ
                                                                ั
                                                          ้
             แล้ว
                 มทร.อีสาน ถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ใกลชิดกับชุมชนมากที่สุด รวมถึงเป็นแหล่งสร้างนวัตกรรมที่มีการผสมผสานทั้งเทคโนโลยีและปราชญ์ชาวบ้าน ได้
                                         ้
             อย่างกลมกลืน ในขณะที่สมาคมฯ เป็นหน่วยงานภาคเอกชนที่เข้าไปช่วยส่งเสริมให้เกิดการบริหารความเสี่ยงในการทาการเกษตรเพื่อยกระดับคุณภาพ
                                                                                       ำ
                                                                                        ้
              ี
             ชวิตของเกษตรกร การร่วมมือและสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยพัฒนาองค์ความรู้เพื่อให้เกษตรกรสามารถปลูกพืชผักผลไมที่เหมาะสมกับฤดูกาล สภาพพื้นที่
             และความต้องการของตลาดได้ ถือเป็นการสร้างเกษตรกรมืออาชีพ (Smart Farmer) ที่จะสามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างยั่งยืน
   62   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72