Page 34 - InsuranceJournal118
P. 34

�
                    ฎี ก า ย่ อ แ ล ะ ย่ อ ค า ช้ ข า ด อ นุ ญ า โ ต ฯ
                                           ี




              ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ 1114/2512

              โจทก์                     บริษัท ส.ประกันภัย จ�ากัด
                                        โดย นายสัญญา  สหเวชชภัณฑ์

                                        กรรมการอ�านวยการ
              จ�าเลย                    บริษัท ขนส่ง จ�ากัด

                                        ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
                                        ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1), 861





                                                                                        ี
                                                                                           ี
               โจทก์ฟ้องว่า  จำาเลยนำารถยนต์  96  คัน  มาประกัน สัญญาประกันภัยท่โจทก์ฟ้องคดีน้กับท่โจทก์ฟ้องคดีแรกเป็น







                                                                            ี








                                             ี
          วินาศภัยหรืออุบัติเหตุไว้กับโจทก์โดยยอมเสียเบ้ยประกันภัยรวม กรมธรรม์สัญญาประกันภัยฉบับเดียวกัน คดีแรกเป็นเร่องโจทก์
                                                                                                      ื
          ทั้งค่าอากรด้วย เป็นเงินปีละ 726,729.60 บาท โดยจำาเลย ฟ้องเรียกร้องเอาเบ้ยประกันภัยจากจำาเลยแต่คดีนี้เป็นเร่องโจทก์
                                                                           ี
                                                                                                       ื
                        ี
          ตกลงผ่อนชำาระเบ้ยประกันภัยให้โจทก์เป็นงวดๆ  จำาเลยผ่อน ฟ้องเรียกเอาเงินค่าเคลมที่ได้ออกให้จำาเลยไป โดยมีข้อสัญญา
                                                                                              ี
          ชำาระเบี้ยประกันได้ 29 งวด ยังไม่ครบ 1 ปี ก็ได้มีหนังสือ ตามกรมธรรม์ประกันภัยว่า  เมื่อขาดส่งเบ้ยประกันภัยจำาเลย
                                                      ่
          บอกเลิกสัญญากรมธรรม์ประกันภัยกับโจทก์ต้งแต่งวดท  29  ต้องคืนเงินค่าเคลม เป็นประเด็นคนละเร่องกันจึงไม่เป็นฟ้องซา
                                                                                            ื
                                              ั
                                                                                                            ้
                                                                                                            ำ
                                                      ี
          จึงเป็นการผิดสัญญาท่ได้ตกลงไว้ในเง่อนไขพิเศษตามใบแทรก   ตามเงื่อนไขแนบกรมธรรม์สัญญาประกันภัยมีข้อความ
                                       ื
                           ี
                                         ้
                                            ิ
                                                     ึ
                                      ี
                     ั
                                                          ์
          กรมธรรม์ประกนภัย โจทก์จึงมีสิทธิเรยกรองเงนค่าเคลมซ่งโจทก ว่า  “กรมธรรม์ฉบับนี้ต้องชำาระเงินเบี้ยประกันภัยให้กับบริษัท
                                                                                                      ี
          ได้จ่ายไปแล้ว 78,763 บาท กลับคืนได้ทั้งหมดตามสัญญาจึง ครบอาย 1 ปี แต่ทางบริษัทอนุโลมให้ผ่อนชำาระเงินเบ้ยประกัน
                                                                   ุ
          ขอให้ศาลพิพากษาให้จำาเลยชำาระค่าเคลมคืนให้โจทก์    ภัยได้ ทั้งนี้ ต้องชำาระเบี้ยประกันภัยทุกๆ งวด โดยไม่ต้องมี
                                              ื
               จำาเลยให้การว่า  ไม่ได้ผิดสัญญา  มีเง่อนไขระบุไว้ใน  การพักกรมธรรม์ หากผู้เอาประกันไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้ ผู้
                                                                                            ึ
                                                ้
                                                          ์
                          ้
                           ำ
          กรมธรรม์วา หากมิไดชาระเบยประกนในงวดใดกใหยกกรมธรรม เอาประกันยินดีให้เรียกร้องเงินค่าเคลมซ่งบริษัทได้จ่ายไปนั้นๆ
                  ่
                                              ็
                                     ั
                                ี
                                ้
                                                                                                  ี
          โดยไม่ต้องคุ้มครองในงวดนั้น และผู้เอาประกันไม่มีสิทธิเรียก คืนท้งหมด”  ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำาเลยส่งเบ้ยประกันเพียง
                                                                ั





















                                              ี
                                                      ั
          ร้องค่าเสียหายใดๆ ท้งสิ้น เมื่อจำาเลยไม่ชำาระเบ้ยประกันต้งแต่ 29 งวด มิได้ส่งจนครบอายุ 1 ปี จำาเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา
                          ั

                                                                                                      ื
          งวดที่  29  ตลอดมาจึงถือได้ว่ากรมธรรม์เลิกกันแล้ว  จำาเลย จึงต้องรบผิดคืนเงินค่าเคลมทโจทก์ได้จ่ายไปตามเง่อนไขใน
                                                                                     ่
                                                                   ั
                                                                                     ี
          ให้การต่อสู้อีกว่า โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเบี้ยประกันที่ค้างชำาระ กรมธรรม์ประกันภัย  แม้ว่ากรมธรรม์สัญญาประกันภัยจะได้
          ต่อศาลแพ่งครั้งหนึ่งแล้วจะมาฟ้องเรียกเงินค่าเคลมนี้อีกไม่ได้  เลิกกันไปแล้วก็ตาม
          เป็นการฟ้องซำา โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าเคลมคดีนี้เกินกว่า 2 ปี   โจทก์เป็นบริษัทรับประกันภัยไม่ได้ทำาการค้าขายอย่าง
                     ้
          คดีโจทก์ขาดอายุความ                                ใด ไม่ใช่พ่อค้า การที่โจทก์ฟ้องเรียกเอาเงินค่าเคลมที่จ่ายไป
                    ั
               ศาลช้นต้นวินิจฉัยว่า  สัญญากรมธรรม์ยังไม่เลิกฟ้อง คืนจากจำาเลยตามเงื่อนไขในกรมธรรม์สัญญาประกันภัย ไม่ใช่
          โจทก์ไม่เป็นฟ้องซา คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ จำาเลยต้องรับ การเรียกเอาค่าท่ได้ส่งมอบของ  แต่เรียกเอาในฐานะท่จำาเลย
                                                                          ี
                        ้
                                                                                                        ี
                        ำ
          ผิดชำาระเงินค่าเคลมท่บริษัทโจทก์ได้จ่ายไป พิพากษาให้จำาเลย เป็นฝ่ายผิดสัญญาประกันภัย จึงไม่จำาต้องฟ้องภายในอายุความ
                           ี
          ชำาระเงินค่าเคลม 78,763 บาท ให้โจทก์               2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165(1)
               จำาเลยอุทธรณ์                                 คดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ
               ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน                               พิพากษายืน
               จำาเลยฎีกา
               ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า  โจทก์กับจำาเลยได้ทำา
                                    ี
          กรมธรรม์สัญญาประกันภัยฉบับท่โจทก์นำามาฟ้อง  และโจทก์
          ได้จ่ายเงินค่าเคลมไปแล้วเป็นจำานวน 78,763 บาท กรมธรรม์  (อาจิต  ไชยาคำา - โกวิท  ถิระวัฒน์ - จำารูญ  โชติรัต)
     34
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39