Page 34 - InsuranceJournal125
P. 34
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตฯ
�
ดังกล่าว ทาให้สินค้าของโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงิน 236,250 บาท ที่ 3 หลุดพ้นจากความรับผิดตามฟ้อง จ�าเลยที่ 3 ก็สามารถต่อสู้คดีได้
�
ี
ี
�
ั
ั
ี
ี
ั
ู
จาเลยท 3 ในฐานะผ้รบประกนภยรถยนต์กระบะหมายเลขทะเบยน โดยไม่ยาก กรณีน้โจทก์หาจาต้องบรรยายฟ้องอีกว่าจ�าเลยท่ 3 รับ
่
�
ภ-9438 นครปฐม ต้องร่วมรับผิดกับจ�าเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ค่าเสียหาย ประกนภัยไว้จากใคร ดังที่จาเลยท่ 3 ให้การต่อสู้ ฟ้องโจทก์นอกจาก
ั
ี
�
ั
ี
ั
ื
ั
ึ
พร้อมดอกเบ้ยแก่โจทก์ ขอให้บงคับจาเลยท้งสามร่วมกนหรอแทนกัน จะแจ้งชัดซ่งสภาพแห่งข้อหาดังกล่าวยังได้แสดงโดยแจ้งชัดซ่งข้ออ้างท ่ ี
ึ
�
ี
�
ั
่
ั
ชาระเงินจานวน 253,726 บาท พร้อมดอกเบ้ยแก่โจทก์ คาฟ้องดังกล่าว อาศยเป็นหลกแห่งข้อหาและข้อบังคบครบถ้วนตามท กฎหมายบญญต ิ
ี
�
ั
ั
ั
ึ
ได้โดยแสดงโดยแจ้งชัดซ่งสภาพแห่งข้อหา ของโจทก์ต่อจาเลยท่ 3 แล้ว ไว้ด้วย ฟ้องโจทก์ส�าหรับจ�าเลยที่ 3 จึงไม่เคลือบคลุม ฎีกาของโจทก์ข้อ
�
ี
กล่าวคือ โจทก์ฟ้องจ�าเลยที่ 3 ให้รับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาประกันภัย นี้ฟังขึ้น”
รถยนต์ กรมธรรม์เลขท่ 98-005682/3 ซ่งจาเลยท่ 3 ก็มิได้ให้การปฏิเสธ พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จ�าเลยที่ 3 ร่วมกับจ�าเลยที่ 1 ช�าระเงิน
ึ
�
ี
ี
ถึงความมีอยู่ของกรมธรรม์ฉบับดังกล่าวของจาเลยท่ 3 และตาม จ�านวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วัน
�
ี
ี
�
ี
ั
กรมธรรม์ดังกล่าวน้นเอง มีรายละเอียดต่างๆ ท่จาเลยท่ 3 สามารถทราบ ที่ 7 มีนาคม 2541 จนกว่าจะช�าระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็น
ข้อเท็จจริงได้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ว่าเป็น ไปตามค�าพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3
ใคร จาเลยท่ 3 ย่อมต้องเข้าใจข้อหาได้เป็นอย่างดี หากมีเหตุทาให้จาเลย (ภคพงศ์ วงศ์ศรีภูมิเทศ - ประชา ประสงค์จรรยา - องอาจ โรจนสุพจน์)
�
�
�
ี
ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 4710/2555
เรื่อง
ย่อค�าชี้ขาด ประเด็นข้อพิพาทมีว่า ประกันภัยรถยนต์
รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทประมาทด้วยหรือไม่ และ
ิ
เกิดจากความประมาทของฝ่ายใดย่งหย่อนกว่ากัน
ข้อเท็จจริงในข้อพิพาทน้มีว่า ผู้เสนอข้อพิพาทเป็นผู้รับประกันภย อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่รับฟังได้ยุติในเบื้องต้น
ี
ั
รถยนต์ คันหมายเลขทะเบียน ฮค-2066 กท. คู่กรณีเป็นผู้รับประกันภัย ว่า วันเกิดเหตุรถท้งสองฝ่ายต่างขับสวนทางกันและขับถึงสามแยก
ั
้
่
ี
คาจุนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ฮง-5934 กรุงเทพมหานคร ประเภท ได้ชนกน สาหรับปัญหาตามประเดนทเหลอให้วนิจฉยข้อเดยวทว่ารถ
�
็
ั
�
ั
ิ
ี
ี
่
ื
ชดใช้ค่าเสียหายโดยส้นเชิง ส่วนคู่กรณีเป็นผู้รับประกันภัยคาจุนรถยนต์ ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทประมาทด้วยหรือไม่ และเกิดจากความประมาท
ิ
้
�
บรรทุกพ่วงคันหัวลากหมายเลขทะเบียน 82-8645 สระบุรี ตัวพ่วงคัน ของฝ่ายใดยิ่งหย่อนกว่ากัน เห็นว่า เมื่อได้ความตามส�าเนาค�าพิพากษา
ื
ี
หมายเลขทะเบียน 70-6680 เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2552 เวลา 16.40 ตาม ส.5 ว่า พนักงานอัยการได้ฟ้องผู้ขับท้งสองฝ่ายในเร่องน้เป็นคด ี
ั
ิ
ี
ี
้
ั
ู
ั
นาฬิกา ขณะนายทนงค์ได้ขับรถคันท่ผู้เสนอข้อพิพาทรับประกันภัย อาญาและศาลพพากษาว่า ผ้ขบทงสองฝ่ายมความผิดตาม พ.ร.บ. จราจร
�
�
มาตามถนนสาย 331 จากด้านอาเภอกบินทร์บุรีมุ่งหน้าไปอาเภอสัตหีบ ทางบก มาตรา 43(4) 157 ให้ปรับคนละ 1,000 บาท ถือได้ว่าผู้ขับ
ี
ื
ในช่องทางขวาสุด เม่อขับถึงท่เกิดเหตุสามแยกไฟแดงทางเข้านิคม แต่ละฝ่ายต่างประมาท ปัญหาต่อไปมีว่าเหตุเกิดจากความประมาทของ
อุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ได้มีรถคันท่คู่กรณีรับประกันภัยขับ ฝ่ายใดย่งหย่อนกว่ากัน เห็นว่า การท่ศาลวินิจฉัยถึงพฤติการณ์แห่ง
ี
ี
ิ
สวนทางมา แต่ด้านท่รถฝ่ายคู่กรณีขับมาเป็นสัญญาณไฟแดง รถคู่กรณ การกระท�าของผู้ขับรถทั้งสองฝ่ายแล้วฟังได้ท�านองว่า รถฝ่ายคู่กรณีได้
ี
ี
ได้เล้ยวขวาเข้านิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ดโดยฝ่าไฟแดงมาอย่าง ขับมาตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 เมื่อขับถึงสามแยกเข้านิคม
ี
ี
กะทันหัน ขณะด้านท่รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทขับมาได้รับสัญญาณไฟ อุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด รถฝ่ายคู่กรณีจะเล้ยวขวาเข้านิคม
ี
เขียวได้ขับตรงไป ทาให้รถทั้งสองคันชนกันได้รับความเสียหาย พนักงาน อุตสาหกรรม ในเวลาเดียวกันมีรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทขับมาตามถนน
�
ี
ี
ี
ื
�
ี
สอบสวนออกตรวจท่เกิดเหตุและทาแผนท่เกิดเหตุไว้ ต่อมาได้สรุป ดังกล่าวแล่นผ่านสามแยกแล้วเฉ่ยวชนกัน โดยศาลไม่เช่อตามท่ผู้ขับ
�
สานวนส่งให้พนักงานอัยการฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา และ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ แต่ศาลรับฟังตามพยานหลักฐานของโจทก์ คือ อัยการ
ั
�
�
�
ี
ศาลพิพากษาแล้ว ต่อมาผู้เสนอข้อพิพาทนารถคันท่รับประกันภัยไป นาสืบไว้ทานองว่า ผู้ขับท้งสองฝ่ายขับผ่านสามแยกด้วยความเร็วสูง
จัดซ่อมเป็นเงิน 119,993 บาท และจ่ายค่าซ่อมแล้ว จึงรับช่วงสิทธิมา ขณะขับผ่านสามแยกซ่งฝนตกถนนล่น การจราจรหนาแน่น เป็นเหตุให้
ื
ึ
เรียกร้องเงินดังกล่าวจากคู่กรณี ขอให้ชี้ขาดให้คู่กรณีช�าระเงินดังกล่าว ชนกันโดยไม่กล่าวถึงสัญญาณไฟแดง แต่การที่ พ.ร.บ. จราจรทางบก
้
้
่
ี
ู
่
ื
่
ั
ู
�
ิ
้
พรอมดอกเบย คกรณียนคาคดค้านวา เกดเหตครงนผขับรถฝายผเสนอ มาตรา 51 (2)(จ) บัญญัติไว้ว่า เมื่อรถฝ่ายคู่กรณีเป็นฝ่ายขับเลี้ยวขวา
้
้
ู
ี
ุ
่
้
ั
ี
ข้อพิพาทมีส่วนประมาทด้วยและไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ขณะท่รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทขับมาทางตรง จึงต้องให้รถฝ่ายผู้เสนอ
ข้อพิพาทผ่านไปก่อน รถฝ่ายคู่กรณีจึงเลี้ยวขวาเช่นนี้ถือว่าผู้ขับรถฝ่าย
คู่กรณีเป็นฝ่ายประมาทมากกว่า
อนุญาโตตุลาการช้ขาดให้รับผิดค่าเสียหายจานวน 119,993 บาท
�
ี
34 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 125 2 ใน 3 เป็นเงิน 79,995 บาท พร้อมดอกเบี้ย