Page 35 - InsuranceJournal138

ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ

ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 1450/2560
เรื่อง ประกันภัยรถยนต์
ุ
ั
ี
ประเด็นข้อพิพาทมีว่า 1. เหตเกิดคร้งนเกิดจากความประมาทของผู้ขับรถ
้
ย่อค�าชี้ขาด ฝ่ายคู่กรณีฝ่ายเดียวหรือเกิดจากความประมาท
ของทั้งสองฝ่ายและไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันหรือไม่
2. ค่าเสียหายมีเพียงใด

ข้อเท็จจริงในข้อพพาทน้มว่า ผ้เสนอข้อพพาทเป็นผู้รบประกัน เช่นน้จึงรับฟังได้ว่าผู้ขับรถแต่ละฝ่ายต่างประมาท ปัญหาต่อไปมีว่า
ี
ี
ู
ิ
ั
ี
ิ
ี
ุ
์
ั
ี
ั
ู
ี
ั
้
ู
่
็
ี
ั
ภยรถยนตคนหมายเลขทะเบยนขท-7714 ชลบร คกรณเปนผรบประกน ผู้ขับรถฝ่ายใดประมาทมากกว่ากัน การท่ศาลฟังข้อเท็จจริงในส่วนคด ี
ภัยค�้าจุนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ผข-6205 ชลบุรี เมื่อวันที่ 21 อาญาว่ารถแต่ละฝ่ายต่างประมาท โดยขับมาตามถนนสุขุมวิทใน
ตุลาคม 2556 เวลา 23.20 นาฬิกา ขณะที่ผู้ขับรถคันที่ผู้เสนอข้อพิพาท ลักษณะสวนทางกันเม่อถึงสามแยกซ่งมีลักษณะเป็นทางร่วมทางแยก
ึ
ื
รับประกันภัย ขับรถมาตามถนนสุขุมวิทมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองชลบุรี จนถึง ต่างไม่ลดควมเร็ว และศาลยังฟังข้อเท็จจริงว่าการขับของแต่ละฝ่ายถึง
บริเวณแยกบางแสนพบรถคันท่คู่กรณีรับประกันภัยขับมาตามถนน บริเวณแยกท่เกิดเหตุในเวลาใกล้เคียงกันเม่อผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอ
ี
ี
ื
สุขุมวิทในทิศทางตรงข้ามกับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาท เม่อถึงท่เกิดเหต ข้อพิพาทเป็นฝ่ายขับตรงผ่านสามแยกมุ่งหน้าตัวเมืองชลบุรีแต่รถฝ่ายค ู่
ุ
ี
ื
ี
ได้เล้ยวขวาเข้าถนนอ่างศิลาตัดหน้ารถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทอย่าง กรณีขับเล้ยวขวาไปตามถนนลงหาดบางแสนเม่อข้อเท็จจริงในส่วนคด ี
ี
ื
ี
ี
กะทันหันด้วยความประมาท เป็นเหตุให้เกิดการเฉ่ยวชนกันได้รับความ อาญาไม่กล่าวถึงว่าสามแยกท่เกิดเหตุมีการเปิดสัญญาณไฟจราจรไว้
ี
ี
เสียหายท้งสองฝ่ายหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวน ได้ทาการสอบสวน หรือไม เช่นน้ต้องเช่อตามข้อเท็จจริงในคดีอาญาท่ไม่กล่าวไว้กล่าวคือ
ั
ื
�
ิ
แล้วลงความเห็นว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีเพียง ไม่มีสัญญาณไฟจราจรและไม่มีฝ่ายใดขับตามสัญญาณไฟจราจรย่งข้อ
ฝ่ายเดียว ผู้เสนอข้อพิพาทรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องค่าเสียหายจานวน เท็จจริงในคดีอาญาฟังว่ารถแต่ละฝ่ายถึงบริเวณสามแยกใกล้เคียงกัน
�
153,532 บาท โดยไม่มีข้อช้ชัดว่าฝ่ายใดขับถึงก่อนแต่เม่อพ.ร.บ.จราจรทางบกมาตรา
ี
ื
ื
คู่กรณีย่นคาคัดค้านว่าเหตุเกิดจากความประมาทของผู้ขับรถ 52 (2) (จ) บัญญัติไว้ว่าเมื่อรถอยู่ในทางร่วมทางแยกผู้ขับขี่ต้องให้รถที่
�
ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทด้วยและไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน สวนทางมาในทางเดินรถทางเดียวกันผ่านทางร่วมทางแยกไปก่อนเม่อ
ื
ี
ี
ื
่
ี
ั
ุ
อนุญาโตตลาการวินิจฉยว่า พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงทรับ เห็นว่าปลอดภัยจึงให้เล้ยวขวาไปได้ เม่อรถฝ่ายคู่กรณีเป็นฝ่ายขับเล้ยว
ั
หรือไม่โต้แย้งกัน ฟังได้ว่า มีการฟ้องคดีอาญาผู้ขับท้งสองฝ่ายต่อศาล ขวาไปทางบางแสนผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีต้องหยุดให้รถฝ่ายผู้เสนอ
�
ี
ี
ุ
�
แขวงชลบรตามคาฟ้องของพนักงานอัยการและศาลมคาพิพากษาแล้ว ข้อพิพาทขับผ่านสามแยกไปก่อนแล้วจึงเล้ยวขวาไปตามถนนทางลง
ี
ี
ิ
้
�
่
ื
ี
ี
้
ิ
ี
เช่นนการจะชขาดข้อพพาทจาต้องถอข้อเทจจรงตามทปรากฏใน บางแสน การท่ผู้เสนอข้อพิพาทขับชนรถฝ่ายคู่กรณีท่ไม่หยุดรถให้ฝ่าย
ี
็
ั
�
ี
คาพิพากษาส่วนอาญา คร้นตามสาเนาคาฟ้องปรากฏว่ามีการฟ้องผู้ขับรถ ผู้เสนอข้อพิพาทท่ขับมาทางตรงผ่านไปก่อนผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีจึงเป็น
�
�
ั
ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเป็นจ�าเลยที่ 1 ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีเป็นจ�าเลยที่ 2 ฝ่ายประมาทมากกว่าจึงให้รับผิดในความเสียหายคร้งน้ 2 ใน 3 ของ
ี
ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีรับสารภาพศาลฟังว่าผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีผิด ค่าเสียหาย
ี
ตามพ.ร.บ.จราจรทางบกมาตรา 43 (4) คงปรับ 500 บาท ศาลให้แยก อนุญาโตตุลาการช้ขาดให้คู่กรณีรับผิด 2 ใน 3 ของค่าเสียหาย
ื
ฟ้องผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเป็นคดีใหม่เม่อมีการฟ้องผู้ขับรถฝ่าย เป็นเงิน 100,697 บาทแก่ผู้เสนอข้อพิพาทพร้อมดอกเบี้ย
ผู้เสนอข้อพิพาทเป็นคดีใหม่ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทได้รับสารภาพ
ศาลฟังว่าผิดตามพ.ร.บ.จราจรมาตรา 43 (4), 157 คงปรับ 500 บาท
วารสารประกันภัย มกราคม - มีนาคม 2561 35