Page 27 - InsuranceJournal106
P. 27
รอบร้ประกันภัย
ู
1. ค่าอุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ หรือกำนันผู้ใหญ่บ้าน หรือบุคคลที่เป็นสมาชิกขององค์กร
ผู้มีเงินได้สามารถหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงด ปกครองส่วนท้องถิ่นในท้องที่ที่บุคคลดังกล่าวอยู่อาศัย
ู
คนพิการหรือคนทุพพลภาพได้ คนละ 60,000 บาท และ โดยหนังสือรับรองดังกล่าว ผู้รับรองต้องรับรองในปีภาษีที่
ต้องมีหลักฐานดังนี้ ขอใช้สิทธิหักลดหย่อน ตามมาตรา 47(1) (ฎ) แห่งประมวล
กรณีหักลดหย่อนคนพิการ รัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับ
(1) หนังสือรับรองการหักลดหย่อนค่าอุปการะเลี้ยงด ภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 182)
ู
คนพิการหรือคนทุพพลภาพ (แบบ ล.ย.๐๔) 2. ค่าเบี้ยประกันชีวิต
(2) ภาพถ่ายบัตรประจำตัวคนพิการตามกฎหมาย ผู้มีเงินได้สามารถหักลดหย่อนและยกเว้นภาษี
ี
ว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการของ ค่าเบี้ยประกันชีวิตได้ ตามจำนวนท่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน
บุคคลที่ผู้มีเงินได้จะใช้สิทธิหักลดหย่อน พร้อมทั้งภาพถ่าย 100,000 บาท ตามมาตรา 47(1)(ง) แห่งประมวลรัษฎากร
บัตรประจำตัวคนพิการดังกล่าวในส่วนที่แสดงว่าผู้มีเงินได้ ประกอบกับข้อ 2(61) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ.
เป็นผู้ดูแลคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและ 2509) และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้
พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (ฉบับที่ 172)
กรณีหักลดหย่อนคนทุพพลภาพ สำหรับกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ทำตั้งแต่วันที่ 1
(1) ใบรับรองแพทย์ จากแพทย์ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนรับ มกราคม 2552 เป็นต้นไป ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานจาก
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ได้ตรวจและแสดง ผู้รับประกันภัยที่พิสูจน์ได้ว่า มีการจ่ายเบี้ยประกันชีวิต
ความเห็นว่า บุคคลที่ผู้มีเงินได้จะใช้สิทธิหักลดหย่อนมี และผู้รับประกันภัยต้องระบุเพิ่มเติม หากมีกรณีดังต่อไปนี้
ภาวะจำกัดหรือขาดความสามารถในการประกอบกิจวัตร (1) กรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติม
หลักอันเป็นปกติเยี่ยงบุคคลทั่วไป อันเนื่องมาจากสาเหตุ ต้องระบุจำนวนเบี้ยประกันชีวิต และเบี้ยประกันภัยที่จ่าย
ทางปัญหาสุขภาพหรือความเจ็บป่วยที่เป็นต่อเนื่องมา สำหรับความคุ้มครองอื่นเพิ่มเติมแยกออกจากกัน และ
ไม่น้อยกว่า 180 วัน หรือทุพพลภาพมาแล้วไม่น้อยกว่า ผู้มีเงินได้ไม่สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยที่จ่ายสำหรับความ
180 วัน และใบรับรองแพทย์ดังกล่าวต้องออกในปีภาษีที่ คุ้มครองอื่นเพิ่มเติมมาหักลดหย่อนได้
ขอใช้สิทธิหักลดหย่อน (2) กรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีการรับเงินหรือผล
(2) หนังสือรับรองการเป็นผู้อุปการะเลี้ยงดูคน ประโยชน์ตอบแทนคืนในระหว่างอายุกรมธรรม์
ื
ื
ทุพพลภาพ (แบบ ล.ย.๐๔-๑) ที่รับรองว่า ผู้มีเงินได้เป็น 3. ค่าซ้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมเพ่อการเล้ยงชีพ
ี
ผู้อุปการะเลี้ยงดูบุคคลที่ผู้มีเงินได้จะใช้สิทธิหักลดหย่อน (RMF)
โดยผู้รับรองต้องเป็นสามีภริยาหรือบุตรชอบด้วยกฎหมาย ผู้มีเงินได้ได้รับยกเว้นค่าซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าวได้
หรือบุตรบุญธรรมหรือหลาน หรือบิดามารดา หรือพี่น้อง ไม่เกินร้อยละ 15 ของเงินได้พึงประเมินท่ได้รับในป ี
ี
ร่วมบิดามารดาเดียวกัน หรือพี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดา ภาษีน้น แต่ไม่เกิน 500,000 บาท (โดยรวมกับเงินสะสม
ั
เดียวกัน หรือปู่ย่าตายาย หรือลุงป้าน้าอา ของบุคคลดังกล่าว กองทุนสำรองเลี้ยงชีพหรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ
วารสารประกันภัย 25
มกราคม - มีนาคม 2553