Page 32 - InsuranceJournal108
P. 32
ฎ ก า ย อ แ ล ะ ย อ ค า ช ข า ด อ น ญ า โ ต ฯ
่
ำ
่
้
ี
ี
ุ
คำาพิพากษาศาลฎีกาที่ 1822/2550
โจทก์ บริษัท อ. จำากัด
จำาเลย บริษัท ม. จำากัด (มหาชน)
แพ่ง ประกันภัย กรมธรรม์ประกันภัย
(มาตรา 861, 867)
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จ�าเลย ยกเว้นความรับผิดไว้หลายประการ ซึ่ง
รถยนต์บรรทุก 10 ล้อ โจทก์ท�าสัญญา ช�าระเงิน 217,321 บาท พร้อมดอกเบี้ย ตามข้อ 2.11.4 และ 3.9.1 ไม่คุ้มครอง
้
ประกันภัยรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวไว้ ค�าขออื่นให้ยก ความรับผิดอันเกิดจากการใชลากจูงหรือ
กับจ�าเลย ต่อมา ระหว่างที่กรมธรรม์ โจทก์และจ�าเลยอุทธรณ์ ผลักดัน เว้นแต่รถที่ถูกลากจูงหรือถูก
ประกันภัยมีผลใช้บังคับ รถยนต์ที่เอา ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน ผลักดันได้ประกันภัยไว้กับบริษัท แสดง
ประกันภัยเกิดอุบัติเหตุชนการ์ดเลนคอ จ�าเลยฎีกา ให้เห็นว่า ตามกรมธรรม์ประกันภัย
์
สะพานท�าใหรถยนตที่เอาประกันภัยและ ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และ จ�าเลยไม่ประสงค์จะคุ้มครองถึงกรณีที่
้
การ์ดเลนคอสะพานได้รับความเสียหาย เศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “โจทก์น�ารถยนต์ มีการใช้รถยนต์ที่เอาประกันภัยไปลาก
โจทก์เสียค่าซ่อมการ์ดเลนคอสะพานให้ บรรทุก 10 ล้อ ประกันภัยไว้กับจ�าเลย จูงหรือผลักดัน อันท�าให้เกิดความเสี่ยง
แก่กรมทางหลวง 39,682 บาท ค่าซ่อม ในระหว่างอายุสัญญาประกันภัย ลูกจ้าง มากขึ้น ซึ่งหากผู้เอาประกันภัยประสงค์
รถยนต์บรรทุก 177,639 บาท ค่าขาด ของโจทก์ขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าว จะให้คุ้มครองถึงส่วนที่ลากจูง ก็จะต้อง
ประโยชน์ 300,000 บาท รวมเป็นเงิน โดยมีรถพ่วงอยู่ด้วย ไปเกิดอุบัติเหตุชน แจ้งความจ�านงให้ชัดเจนเพื่อผู้รับประกัน
517,321 บาท แต่จ�าเลยไม่ชดใช้ค่าเสีย การ์ดเลนคอสะพานเป็นเหตุให้การ์ดเลน ภัยจะได้ก�าหนดเบี้ยประกันให้พอเหมาะ
หายให้แก่โจทก์ตามสัญญา ขอให้บังคับ คอสะพานและรถยนต์บรรทุกมีประกัน กับความเสี่ยงที่มากขึ้นนั้น ดังนั้น การ
จ�าเลยชดใช้เงินจ�านวน 517,321 บาท ภัยไว้ได้รับความเสียหาย โดยรถยนต์ ที่โจทก์น�ารถที่เอาประกันภัยไปลากจูง
พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี บรรทุกได้รับความเสียหายที่บริเวณ รถพ่วงอีกคันหนึ่งจึงเป็นการกระท�าเข้า
นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะช�าระเสร็จ ล้อหลังส่วนหน้าข้างซ้าย มีปัญหาต้อง ข้อยกเว้นความรับผิดของจ�าเลย จ�าเลย
จ�าเลยให้การว่า จ�าเลยรับ วินิจฉัยตามฎีกาของจ�าเลยว่า จ�าเลยต้อง จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์
ประกันภัยโดยระบุลักษณะตัวรถว่าเป็น รับผิดต่อโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัย ภาค 6 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็น
แบบกระบะตั้มบรรทุก จ�าเลยมิได้รับ หรือไม่ จ�าเลยฎีกาว่า โจทก์น�ารถยนต์ พ้องด้วย ฎีกาของจ�าเลยฟังขึ้น”
ประกันภัยพ่วง ขณะเกิดเหตุรถยนต์คัน บรรทุกไปพ่วงรถพ่วงแล้วเกิดอุบัติเหตุ พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
่
่
ดังกลาวไดพวงรถพวงไปดวย ซึ่งเงื่อนไข เป็นการผิดเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกัน
้
้
่
กรมธรรม์ไม่คุ้มครองความรับผิดอันเกิด ภัย จ�าเลยจึงไม่ต้องรับผิด เห็นว่า (พีรพล พิชยวัฒน์-สุรพล
จากการใช้ลากจูงหรือผลักดัน จ�าเลยจึง สัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์ ผู้เอา เจียมจูไร-เฉลิมศักดิ์ บุญยงค์)
ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าซ่อมการ์ดเลนคอ ประกันภัยและจ�าเลย ผู้รับประกันภัย ได้ ยงยุทธ โสพิลา-ย่อ
สะพาน ทั้งไม่ต้องรับผิดชอบต่อความ ก�าหนดถึงความรับผิดไว้ในสัญญาหมวด อาทิตย์ สวาวสุ-ตรวจ
เสียหายจากการใช้รถยนต์ผิดเงื่อนไข ที่ 2 ส่วน ที่ 2 การคุ้มครองความรับผิด
นอกจากนี้ รถยนตที่จ�าเลยรับประกันภัย ต่อบุคคลภายนอก และหมวดที่ 3 การ
์
ไม่ได้เสียหาย แต่ส่วนที่เสียหายนั้นเป็น คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ตาม
รถพ่วง ขอให้ยกฟ้อง สัญญาประกันภัย แต่ก็ได้ก�าหนดข้อ
32