Page 27 - InsuranceJournal112
P. 27
มารดาแล้ว มีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดู
ี
บุตรในขณะท่ยังเป็นผู้เยาว์ คือ ยังไม่
บรรลุนิติภาวะ ซ่งในทางกฎหมายแล้ว
ึ
บุคคลจะบรรลุนิติภาวะท่ถือว่าพ้นสภาพ
ี
ของผู้เยาว์มีได้ 2 กรณี คือ อายุครบ 20
�
ื
�
ปีบริบูรณ์ หรือเม่อทาการสมรส สาหรับ
�
กรณีของบุตรน้นเคยมีคาพิพากษาฎีกา
ั
ี
วินิจฉัยไว้ว่ากรณีท่บุตรถึงแก่ความตาย
�
เพราะถูกทาละเมิดถือได้ว่าบิดามารดา
ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายแล้ว จึง
ี
ชอบท่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนโดยไม่
�
ต้องคานึงว่าบิดามารดาจะมีฐานะยากด ี
ี
ั
มีจนอย่างไร และบุตรท่ตายไปน้นจะได้
อุปการะอยู่ก่อนหรือไม่ ดังน้น ความหมาย
ั
ของการขาดไร้อุปการะตามกฎหมายจึงน่า วรรคหนึ่ง และค่าศึกษาแล้ว บิดาก็ไม่ต้องรับผิดใน
จะพิจารณาตามหลักกฎหมายท่บัญญัติไว้ มำตรำ 1564 วรรคหน่ง บัญญัต ค่าอุปการะเล้ยงดูและการศึกษาของ
ิ
ึ
ี
ี
โดยยังไม่ต้องไปคานึงถึงข้อเท็จจริงว่าจะ ว่า “บิดามารดาจาต้องอุปการะเล้ยงด บุตรนั้น
�
�
ี
ู
ั
ึ
มีการอุปการะเล้ยงดูกันอย่างไร ซ่งน่าจะ และให้การศึกษาตามสมควรแก่บุตรใน ประเดนตวอย่างของปัญหาข้อ
็
ี
�
ี
�
ทาให้การพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ระหว่างที่เป็นผู้เยาว์” เท็จจริงเหล่าน้หากนามาเป็นข้ออ้างอิง
ี
ิ
ั
ตามคาส่งฉบับน้มีผลอันเป็นประโยชน์ ดังนั้น ผู้ปกครองเท่านั้นที่มีหน้า ในการพจารณาสาหรบประเดนการชดใช้
�
็
ั
�
ิ
ี
แก่ผู้เสียชีวิตอันเน่องมาจากการใช้รถ ท่ต้องอุปการะเล้ยงดูผู้อยู่ในปกครอง ค่าสนไหมทดแทนในเร่องขาดไร้อุปการะ
ื
ื
ี
มากยิ่งขึ้น ในระหว่างที่เป็นผู้เยาว์ ซึ่งต่างจากการ ตามกฎหมายตามคาส่งของนายทะเบียน
ั
�
ี
�
3. ผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตร อุปการะเล้ยงดูของบิดามารดาท่มีต่อ ประกันวินาศภัยฉบับน้น่าจะทาให้เกิด
ี
ี
ู
ั
ี
ึ
ุ
่
บุญธรรม ประมวลกฎหมำยแพ่งและ บตรทถงแม้ว่าจะพ้นภาวะผ้เยาว์แล้ว ปัญหาโต้แย้งกันมากมาย ดังน้น หาก
พำณิชย์ แต่หากเป็นผู้ทุพพลภาพ บิดามารดาก็ยัง ธุรกิจประกันภัยจะยึดหลักของการอุปการะ
ี
�
ี
มำตรำ 1598/28 บัญญัติว่า คงมีหน้าที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูต่อไป แต่ เล้ยงดูกันตามท่กฎหมายกาหนดไว้เป็น
�
“บุตรบุญธรรมย่อมมีฐานะอย่างเดียว สาหรับผู้ปกครองคงมีหน้าท่ต้องอุปการะ แนวทางในการพิจารณาชดใช้ค่าสินไหม
ี
�
ื
ี
ี
กับบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตร เล้ยงดูผู้อยู่ในปกครองเฉพาะในขณะท ทดแทนน่าจะเป็นเร่องท่ทาให้ภาพพจน์
่
ี
บุญธรรมนั้น” เป็นผู้เยาว์เท่านั้น ของธุรกิจประกันภัยน่าศรัทธามากขึ้น
ดังน้น บุคคลผู้ได้ช่อว่าเป็นผู้รับ สาหรับผู้อยู่ในปกครองไม่มีกฎหมาย อย่างไรก็ตามเน่องจากการปรับปรุง
ื
ั
�
ื
บุตรบุญธรรมและผู้เป็นบุตรบุญธรรมตาม กาหนดให้ต้องอุปการะเล้ยงดูผู้ปกครอง ความคุ้มครองตามคาส่งฉบับน ไม่ได้ม ี
้
ี
ั
�
�
ี
ี
ี
กฎหมายย่อมมีหน้าท่อุปการะเล้ยงดูต่อ แต่อย่างใด ดังนั้น หากผู้อยู่ในปกครอง การพิจารณาปรับปรุงอัตราเบ้ยประกัน
ี
ึ
ิ
ื
ี
ี
ู
กันเช่นเดียวกับบิดามารดาและบุตร เม่อ เสยชวต ผ้ปกครองจงไม่สามารถเรยกค่า ภัยพื้นฐานส�าหรับการประกันภัยรถยนต์
ี
ึ
ฝ่ายใดฝ่ายหน่งเสียชีวิตในช่วงระยะเวลา ขาดไร้อุปการะได้แต่อย่างใด ภาคสมัครใจเอาไว้ด้วย ดังน้น ธุรกิจ
ั
ี
ี
ื
ท่ต้องอุปการะเล้ยงดูกันตามกฎหมาย อีก ในการพิจารณาเร่องหน้าท่การ ประกันภัย และหน่วยงานท่เก่ยวข้อง
ี
ี
ี
ั
ึ
ฝ่ายหน่งย่อมถือได้ว่าเป็นผู้ขาดไร้อุปการะ อุปการะเลี้ยงดูนั้น มีปัญหาข้อเท็จจริงที่ กับสถิติของการประกันภัยท้งในภาครัฐ
ึ
ตามกฎหมายแล้ว ศาลฎีกาเคยวินิจฉัยไว้หลายประการ ซ่ง และธุรกิจคงจะต้องเฝ้าระวังอัตราส่วน
ั
่
4. ผู้ปกครองและผู้อยู่ในปกครอง เป็นการนาพยานหลกฐานมาแสดงเพอ ค่าสินไหมทดแทนต่อเบ้ยประกันภัยรับ
ื
ี
�
ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ โต้แย้งข้อกฎหมายที่ก�าหนดไว้ ตัวอย่าง ที่จะเกิดขึ้นต่อไป
�
มำตรำ 1598/2 บัญญัติว่า “ผู้ เช่นคาพากษาฎีกาท 1393/2495 ท่วินิจฉัย
่
ี
ี
ปกครองมีสิทธิและหน้าท่เช่นเดียวกับ ไว้ว่าหากบุตรมีทรัพย์สินซ่งมีราคามาก
ึ
ี
�
ผู้ใช้อานาจปกครองตามมาตรา 1564 หารายได้เป็นจานวนท่วมท้นค่าเล้ยงด
�
ี
ู
27