Page 34 - InsuranceJournal116
P. 34

ย่อค�ำชี้ขำด



                                                        อนุญำโตตุลำกำร

                                                        สมำคมประกันวินำศภัยไทย











                   ข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่   454/2555

                   เรื่อง                      พระรำชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจำกรถ

                   ประเด็นข้อพิพำทมีว่ำ    คู่กรณีต้องรับผิดชดใช้ค่ำเสียหำยครั้งนี้หรือไม่




               ข้อเท็จจริงในข้อพิพาทนี้มีว่า  ผู้เสนอข้อพิพาทและคู่  อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า  เมื่อรายงานประจาวัน
                                                                                                         �
          กรณีเป็นผู้รับประกันภัยตาม พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจาก ตาม ส.1 พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาว่าผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณี
          รถ โดยผู้เสนอข้อพิพาทเป็นผู้รับประกันภัยจักรยานยนต์ คัน ประมาทด้วย ยิ่งผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีทราบผลการสอบสวนเมื่อ

















                                                              ู



                                                                                              ุ
                                                                                                            ุ
                                                                                          ี
                                                                        ็
                                                                                    ึ












          หมายเลขทะเบียน ขมม-693 อุดรธานี คู่กรณีเป็นผู้รับประกันภัย  ถกแจ้งข้อหากรับสารภาพ  จงเป็นอกเหตผลหนึ่งว่าสาเหตที่


          รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน นข-1839 อุดรธานี เมื่อวันที่ 2  ท�าให้รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทล้มไถลมาชนรถฝ่ายคู่กรณี  ก ็
          ธันวาคม 2552 เวลา 20.10 นาฬิกา ขณะนาย ส. ได้ขับรถ เพราะสาเหตุรถฝ่ายคู่กรณีขับล�้าช่องและยอมให้เปรียบเทียบ
          จักรยานยนต์คันที่ผู้เสนอข้อพิพาทรับประกันภัยโดยมีเด็กชาย  ปรับ ซึ่งถือว่าคดีอาญาเลิกกัน ยิ่งไปกว่านั้นหลังเปรียบเทียบ
                                                                         ั
          ช. นั่งซ้อนท้ายมาตามถนนอุดร-หนองใส โดยมุ่งหน้าไปบ้าน ปรับทง 2 ฝ่ายยงตกลงซ่อมรถของตนเองและไม่ตดใจเรยกรอง
                                                                 ั้
                                                                                                        ี
                                                                                                   ิ
                                                                                                           ้
          หนองใส เมื่อขับถึงที่เกิดเหตุได้มีนางสาว พ. ขับรถยนต์คันที่ ค่าเสียหาย ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่แสดงว่าต่างฝ่ายรู้อยู่ว่าต่าง
          คู่กรณีรับประกันภัยไว้คร่อมเส้นกึ่งกลางถนนมา  เป็นเหตุให้ ฝ่ายต่างประมาท ดังนั้น ตามเหตุผลที่กล่าวมาพอได้รับฟังได้
          รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเสียหลักล้มไถลไปชนกับรถยนต์ฝ่าย ว่า ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีประมาทในครั้งนี้ด้วย และที่คู่กรณีอ้าง
          คู่กรณี  ทาให้รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเสียหายและผู้นั่งซ้อน ว่าข้อตกลงที่ต่างฝ่ายต่างซ่อมรถตนเองและไม่ติดใจเรียกร้อง
                  �
          ท้ายมากับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทได้รับบาดเจ็บ  หลังเกิดเหต ทางแพ่งและอาญาต่อกันนั้น  ถือเป็นสัญญาประนีประนอม
                                                          ุ
          พนักงานสอบสวนได้สอบสวนแล้วลงความเห็นว่า เหตุเกิดจาก ยอมความ  ผู้เสนอข้อพิพาทจึงไม่มีสิทธิมาเรียกร้องค่ารักษา
          ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทและผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณี ได้แจ้งข้อ พยาบาลของผู้นงซ้อนท้ายมากับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทได้ แต่
                                                                         ั่
          กล่าวหาแก่ผู้ขับรถทั้งสองฝ่ายและมีการเปรียบเทียบปรับเป็น เมื่อเป็นข้อตกลงกันเองไม่มีผลผูกพันบุคคลภายนอก เมื่อต่าง
                                                                                                        ั่
          เงิน  400  บาทแล้ว  ต่อมาผู้เสนอข้อพิพาทได้ชดใช้ค่ารักษา ฝ่ายต่างประมาทก็ต้องร่วมรับผิดต่อบุคคลภายนอกคือผู้นงซ้อน
          พยาบาลของผู้นั่งซ้อนท้ายมากับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเป็น ท้ายมากับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทอย่างลูกหนร่วม การทผู้เสนอ
                                                                                               ี้
                                                                                                       ี่
                                                              ้
                                                                                                  �
          เงินจ�านวน 15,000 บาท จึงขอใช้สิทธิไล่เบี้ยเงินดังกล่าวจาก ขอพิพาทจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนไปก่อนเต็มจานวน 15,000
                 ึ่
                    ึ่
                                                       �
                                           ี้
          คู่กรณีครงหนงเป็นเงิน 7,500 บาท ขอให้ชขาดให้คู่กรณีชาระ บาท ย่อมมาเรียกร้องให้คู่กรณีรับผิดครั้งนี้ได้ครึ่งหนึ่งเป็นเงิน
          เงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย                          จ�านวน 7,500 พร้อมดอกเบี้ย แต่เมื่อไม่ปรากฏว่าผู้เสนอข้อ
                                                             พิพาททวงถามให้คู่กรณีชาระหนี้เมื่อใด  ยังถือไม่ได้ว่าคู่กรณ ี
                                                                                 �
                                         ั
                                           ี้
                        �
               คู่กรณียนคาคัดค้านว่า เหตุเกิดคร้งนไม่ได้เกิดจากความ ผิดนัดมาก่อนที่ผู้เสนอข้อพิพาทจะเสนอข้อพิพาท จึงให้รับผิด
                     ื่
                                                          ี
          ประมาทของผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณี  และการที่ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณ ดอกเบี้ยตั้งแต่วันเสนอข้อพิพาทเป็นต้นไป
          ได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้บาดเจ็บแล้วถือว่าเป็นการทาสัญญา
                                                   �

          ประนีประนอมยอมความกัน  ผู้เสนอข้อพิพาทจึงไม่สามารถ      อนุญาโตตุลาการชี้ขาดให้คู่กรณีช�าระเงินแก่ผู้เสนอข้อ
          ใช้สิทธิเรียกร้องจากคู่กรณีได้                     พิพาทตามค�าเสนอข้อพิพาท
     34
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39