Page 33 - InsuranceJournal117
P. 33
ฎี ก ำ ย่ อ แ ล ะ ย่ อ ค� ำ ช้ ข ำ ด อ นุ ญ ำ โ ต ฯ
ี
ค�ำพิพำกษำศำลฎีกำที่ 3665/2550
โจทก์ บริษัท ว.ประกันภัย จ�ำกัด
จ�ำเลย บริษัท แอร์กำร์ด จ�ำกัด
ป.พ.พ. มำตรำ 880
ป.วิ.พ. มำตรำ 131, 141, 172
ี
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้รับประกันภัยรถยนต์ หมายเลขทะเบียน เอารถยนต์คันท่โจทก์รับประกันภัยไว้ไป โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้ช�าระ
8? 9964 กรุงเทพมหานคร ไว้จากนายผไทรัฐ วงษ์วิวัฒนาวุฒิ มีอายุ ค่าสินไหมทดแทนคืนทุนประกันให้แก่ผู้รับประโยชน์ตามสัญญากรมธรรม์
การคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2537 ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2538 ประกันภัยแล้วเป็นเงินจ�านวน 270,000 บาท โจทก์จึงเป็นผู้รับช่วงสิทธิ
จ�าเลยจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ากัด มีวัตถุประสงค์ในการ ที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนจากจ�าเลยผู้ท�าละเมิด เห็นว่า ตามค�าบรรยาย
รับจ้างดูแลรักษาความปลอดภัย ตลอดจนดูแลและป้องกันการขโมยทรัพย์สิน ฟ้องของโจทก์มิได้กล่าวอ้างว่าจ�าเลยได้ตกลงท�าสัญญากันนายผไทรัฐเพื่อ
ิ
ิ
ในบรเวณสถานท่หมู่บ้านอย่เจรญ แขวงตลาดบางเขน เขตดอนเมือง รับดูแลรักษารถยนต์หมายเลขทะเบียน 8? 9964 กรุงเทพมหานคร อัน
ี
ู
กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2538 เวลาประมาณ 21 นาฬิกา เป็นทรัพย์ของนายผไทรัฐตามสัญญา การท่เจ้าหน้าท่รักษาความปลอดภัย
ี
ี
ุ
นายผไทรัฐขับรถยนต์คันดังกล่าวไปจอดภายในหมู่บ้านอยู่เจริญ ณ บ้าน ลูกจ้างของจ�าเลยไม่ได้ตรวจตราและมีคนลักเอารถยนต์คนเกดเหตไปจาก
ั
ิ
�
ิ
ิ
ี
เลขที่ 24/765 ซึ่งเป็นบริเวณที่จ�าเลยได้รับการว่าจ้างให้ดูแลรักษาความ บรเวณหมู่บ้านอยู่เจรญได้ จึงไม่เป็นการกระทาท่ผดสัญญาหรอละเมิด
ื
ิ
ปลอดภัยต่อทรัพย์สินในบริเวณดังกล่าว ปรากฏว่ารถยนต์ได้ถูกโจรกรรม ต่อนายผไทรัฐ จ�าเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อนายผไทรัฐทั้งในเรื่องสัญญาและ
ั
ั
ู
ี
่
์
ู
สูญหายไป จ�าเลยมีหน้าทดแลรกษาความปลอดภัยและดแลทรพยสินภายใน ละเมิด โจทก์จึงไม่อาจรับช่วงสิทธิจากนายผไทรัฐมาเรียกร้องให้จ�าเลยรับ
หมู่บ้านมิให้สูญหาย กลับปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาภายในหมู่บ้าน ผิดในกรณีที่รถยนต์ของนายผไทรัฐสูญหายไปได้ ตามนัยค�าพิพากษาศาล
และโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ไม่ปฏิบัติตามสัญญา ปล่อยให้มีการ ฎีกาที่ 3332/2538 ระหว่างบริษัท ว. ประกันภัย จ�ากัด โจทก์ บริษัท
โจรกรรมรถยนต์คันที่โจทก์เอาประกันภัยไว้ โจทก์ผู้รับประกันภัยได้ชดใช้ แอร์การ์ด จ�ากัด จ�าเลย
ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้รับประโยชน์แล้วเป็นเงิน 270,000 บาท โจทก์ ปัญหาต้องวินิจฉัยประการต่อไปมีว่า ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
ึ
จึงเข้ารับช่วงสิทธิในค่าเสียหายดังกล่าว ซ่งจ�าเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์ โดยมิได้รับฟังพยานหลักฐานก่อนชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า เมื่อ
ั
ในค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ขอให้บังคับจ�าเลยน�ารถยนต์คันหมายเลขทะเบียน ศาลช้นต้นตรวจค�าฟ้องของโจทก์แล้วปรากฏว่าข้อกล่าวอ้างตามค�าฟ้อง
8? 9964 กรุงเทพมหานคร คืนแก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ค่าเสียหายเป็น เห็นได้ชัดแจ้งว่าจ�าเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ศาลชั้นต้นย่อมมีอ�านาจที่จะ
เงิน 432,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงิน สั่งงดสืบพยานโจทก์ จ�าเลย และพิพากษายกฟ้องไปได้เลย โดยไม่จ�าต้อง
270,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าช�าระเสร็จแก่โจทก์ ให้คู่ความน�าพยานเข้าสืบก่อน
ั
ศาลชนต้นตรวจคาฟ้องแล้ววนิจฉยว่า ตามคาฟ้องของโจทก์ไม่ ปัญหาต้องวินิจฉัยประการสุดท้ายมีว่า ค�าพิพากษาของศาลช้นต้น
�
้
ิ
�
ั
ั
์
ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จ�าเลยมีนิติสัมพันธ์กับผู้เอาประกันภัยรถยนต์ซ่งโจทก ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า ศาลชั้นต้นเขียนค�าพิพากษาไว้ใน
ึ
ี
ได้รับประกันภัยไว้แต่อย่างใด อันจะท�าให้โจทก์สามารถอาศัยสิทธิของผู้เอา ค�าฟ้องหน้าแรกของโจทก์จึงเป็นค�าพิพากษาท่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมาย
ประกันภัยไปฟ้องไล่เบี้ยเอากับจ�าเลยได้ ดังนั้น โจทก์จึงไม่อาจเข้ารับช่วง วิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 141 เห็นว่า เมื่อศาลชั้นต้นท�าค�าพิพากษา
สิทธิของผู้เอาประกันภัยฟ้องให้จ�าเลยรับผิดได้ โจทก์จึงไม่มีอ�านาจฟ้อง เป็นหนังสือและมีเหตุผลแห่งค�าวินิจฉัยกับค�าวินิจฉัยของศาลในประเด็น
ี
พิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ แห่งคดีครบถ้วนแล้วย่อมเป็นค�าพิพากษาท่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธ ี
โจทก์อุทธรณ์ พิจารณาความแพ่ง มาตรา 141 จึงเป็นค�าพิพากษาที่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ แม้ว่าค�าพิพากษาดังกล่าวจะเขียนไว้ในค�าฟ้องก็ตามท่ศาลล่างท้งสอง
ั
ี
โจทก์ฎีกา พิพากษายกฟ้องมานั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย”
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้อง พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ
วินิจิฉัยตามฎีกาของโจทก์ประการแรกมีว่า โจทก์ในฐานะผู้รับช่วงสิทธิของ (อิศเรศ ชัยรัตน์-สมศักดิì เนตรมัย-วีระชาติ เอี่ยมประไพ)
ั
์
้
้
ั
ั
้
่
ิ
ู
ี
ผเอาประกนภัยมีอ�านาจฟ้องใหจ�าเลยรบผดกรณีทรถยนตของผูเอาประกน
ภัยสูญหายไปหรือไม่ โดยโจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์ได้รับประกันภัย *หมายเหตุ
่
ี
ึ
้
ี
ุ
้
รถยนต ยหอนิสสัน หมายเลขทะเบยน 8? 9964 กรงเทพมหานคร ไวจาก โจทก์ซ่งเป็นผู้รับประกันภัยจะรับช่วงสิทธิของ ต. ผู้เอาประกันภัย
์
่
นายผไทรัฐ วงษ์วิวัฒนาวุฒิ มีอายุการคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม รถยนตไวกับโจทกฟ้องจ�าเลยซงเป็นบุคคลภายนอกไดก็ต่อเมื่อวนาศภัยน้น
ั
ิ
้
ึ
้
์
์
2537 ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2538 จ�าเลยได้รับการว่าจ้างให้เป็นผู้ดูแล เกิดขึ้นจากการกระท�าของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องรับผิด
รักษาความปลอดภัยความสงบเรียบร้อยตลอดจนดูแลและป้องกันการ ต่อ ต. จ�าเลยท�าสัญญาดูแลรักษาความปลอดภัยและป้องกันการขโมย
ี
ขโมยทรัพย์สินในบริเวณสถานท่หมู่บ้านอยู่เจริญ แขวงตลาดบางเขน เขต ทรัพย์สินในหมู่บ้านอยู่เจริญ คงจะท�าสัญญากับผู้ดูแลหมู่บ้านอยู่เจริญ มิได้
ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2538 เวลาประมาณ ท�าสัญญากับ ต. ผู้อยู่ในหมู่บ้านนั้น ต. จึงเป็นบุคคลภายนอก แต่สัญญา
์
ี
21 นาฬิกา นายผไทรัฐได้น�ารถยนต์ท่เอาประกันภัยไว้กับโจทก์เข้าไปจอดท ี ่ ดังกล่าวนาจะเปนสัญญาเพื่อประโยชนของ ต. ซึ่งเปนบุคคลภายนอกตาม
็
่
็
บ้านเลขที่ 24/765 ภายในหมู่บ้านอยู่เจริญ เช้าวันรุ่งขึ้นนายผไทรัฐทราบ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 โจทก์จึงน่าจะรับช่วงสิทธ ิ
ว่ารถยนต์ของตนสูญหายไป จ�าเลยซ่งมีหน้าท่ดูแลรกษาความปลอดภัย ของ ต. ฟ้องจ�าเลยได้ตามมาตรา 374 ประกอบมาตรา 880
ั
ึ
ี
และดูแลรักษาทรัพย์สินภายในหมู่บ้านอยู่เจริญมิให้สูญหาย ได้กระท�าโดย
ประมาทปราศจากความระมัดระวังปล่อยให้บุคคลภายนอกเข้ามาโจรกรรม ไพโรจน์ วายุภาพ
33