Page 34 - InsuranceJournal127
P. 34
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ 10421/2551
โจทก์ บริษัท ว. จ�ากัด (มหาชน)
จ�าเลย ตีความการแสดงเจตนา ผู้มีส่วนได้เสียในการประกันภัย ผู้รับ ฎีกาย่อ
บริษัท ริเวอร์โฮเต็ล (ปฐม) จ�ากัด
แพ่ง
ประกันภัย รับช่วงสิทธิ (มาตรา 171, 863, 880 วรรคหนึ่ง)
�
โจทก์ฟ้องขอให้จาเลยคืนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บฉ 5529 ผู้รับประโยชน์ จึงเป็นกรณีที่โจทก์เชื่อว่านาย พ. เป็นผู้เช่าซื้อและมีส่วน
ประจวบคีรีขันธ์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคา 253,130 บาท แก่โจทก์พร้อม ได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยขณะท�าสัญญาจึงเข้าท�าสัญญาด้วย เพราะ
ดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี จากต้นเงิน 250,000 บาท นับถัด หากโจทก์ไม่เชื่อเช่นนั้นก็คงไม่เข้าท�าสัญญาด้วยเนื่องจากนาย พ. อาจ
จากวันฟ้องจนกว่าจะช�าระเสร็จ ปฏิเสธไม่ส่งเบี้ยประกันภัยโดยอ้างว่าสัญญาดังกล่าวไม่ผูกพันนาย พ.
จ�าเลยให้การและแก้ไขค�าให้การ ขอให้ยกฟ้อง ในภายหลังได้ เมื่อนาย พ. ผู้เช่าซื้อประสงค์จะผูกพันตามสัญญา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จาเลยคืนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บฉ ประกันภัย โจทก์ก็เจตนาจะเข้ารับเสี่ยงภัยตามสัญญาประกันภัย และ
�
�
�
5529 ประจวบคีรีขันธ์ แก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้เงินจานวน 250,000 บริษัท มิตซูประจวบ จากัด ผู้ให้เช่าซื้อก็ประสงค์จะได้รับประโยชน์จาก
ุ
ั
บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 7 เมษายน สัญญาประกันภัยในฐานะเป็นผู้รับประโยชน์ แสดงให้เห็นว่าวตถประสงค์
ั
ั
ั
ั
�
ั
2543 เป็นต้นไปจนกว่าจะชาระเสร็จ ดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง (วันที่ 19 แห่งสัญญาประกนภยย่อมมุ่งประสงค์ไปที่การประกนภยรถยนต์คนที่
มิถุนายน 2543) ไม่เกิน 3,130 บาท เท่าที่โจทก์ขอ กับให้จ�าเลยใช้ค่า นาย พ. เป็นผู้เช่าซื้อตลอดระยะเวลาที่เช่าซื้อเป็นส�าคัญยิ่งกว่าวันเริ่มต้น
ฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยก�าหนดค่าทนายความ 2,000 บาท แห่งสัญญาประกันภัยทพิมพ์เป็นตัวอักษร แม้สัญญาเช่าซอช่วงจะระบุวน
ื้
ั
ี่
ั
ิ่
ิ่
ี
ั
ั
จ�าเลยอุทธรณ์ เรมต้นของสัญญาหลังวันเรมต้นของสัญญาประกนภย การตความวนท�า
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน ให้จ�าเลยใช้ค่าทนายความชั้น สัญญาประกันภัยดังกล่าวย่อมต้องเพ่งเล็งถึงเจตนาอันแท้จริงของคู่
�
อุทธรณ์ 1,500 บาท แทนโจทก์ สัญญายิ่งกว่าถ้อยคาส�านวนหรือตัวอักษรดังที่บัญญัติไว้ในประมวล
จ�าเลยฎีกา กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 171 จึงถือได้ว่า นาย พ. ผู้เอาประกัน
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า “...รถยนต์ ภัยเป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยขณะท�าสัญญาประกันภัยกับ
หมายเลขทะเบียน บฉ 5529 ประจวบคีรีขันธ์ เป็นบริษัทของบริษัทมิตซ โจทก์แล้ว เมื่อโจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยได้จ่ายค่าสินไหมทดแทนให้
ู
ประจวบ จ�ากัด ได้ให้นาย พ. เช่าซื้อตามหนังสือสัญญาเช่าซื้อช่วง นาย แก่ผู้รับประโยชน์ไปตามสัญญาประกันภัยแล้วย่อมได้รับช่วงสิทธิมา
พ. น�ารถยนต์คันดังกล่าวประกันภัยไว้กับโจทก์วงเงิน 250,000 บาท เรียกร้องจากจ�าเลยได้ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกา
โดยบริษัท มิตซูประจวบ จากัด เป็นผู้รับประโยชน์ตามตารางกรมธรรม์ ของจ�าเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จ�าเลยฎีกาต่อไปว่า นาย พ. น�ารถยนต์
�
ุ
ั
และรายการค้มครองตามกรมธรรม์ ต่อมาวนที่ 16 มิถนายน 2542 ที่เอาประกันภัยไปรับจ้างหรือให้เช่าเป็นการผิดสัญญาหรือไม่ เห็นว่า
ุ
รถยนต์คันดังกล่าวสูญหายไป โจทก์ใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บริษัท ศาลอุทธรณ์ภาค 7 วินิจฉัยว่า ปัญหาดังกล่าวจ�าเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้
�
�
มิตซูประจวบ จากัด จานวน 250,000 บาท คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตาม ในค�าให้การ เพิ่งยกขึ้นอ้างในชั้นอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ จึงไม่รับ
�
ฎีกาของจ�าเลยว่า โจทก์มีอ�านาจฟ้องหรือไม่ โดยจ�าเลยฎีกาว่า สัญญา วินิจฉัย ดังนั้น เมื่อเนื้อหาของฎีกาจาเลยทั้งสองข้อดังกล่าวคัดลอก
เช่าซื้อช่วงระบุวันเริ่มต้นแห่งสัญญาหลังวันเริ่มต้นแห่งวันท�าสัญญา ข้อความในอุทธรณ์มาเป็นฎีกา โดยไม่ได้โต้แย้งคาพิพากษาของศาล
�
ึ
ั
ประกนภย ขณะท�าสัญญาประกนภยนาย พ. จงยงไม่มีส่วนได้เสยใน อุทธรณ์ภาค 7 ว่าไม่ถูกต้องหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ฎีกาทั้ง
ั
ั
ั
ี
ั
รถยนต์ที่เอาประกันภัย และเมื่อพยานเอกสารรับฟังได้โดยชัดแจ้งถึง สองข้อดังกล่าวจึงเป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้งไม่ชอบด้วยกฎหมายวิธีพิจารณา
�
ก�าหนดระยะเวลาที่ลงไว้ในสัญญาแล้วก็ไม่จาต้องตีความให้เป็นคุณแก่ ความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย แต่ที่ศาลล่าง
ผู้ใดนั้น เห็นว่า ตารางกรมธรรม์และรายการคุ้มครองตามกรมธรรม์ระบ ทั้งสองให้จาเลยคืนรถยนต์กระบะคันเกิดเหตุหมายเลขทะเบียน บฉ
ุ
�
ี
ี
ื
�
ั
ึ
�
ว่า นาย พ. เป็นผู้เอาประกันภัย และบริษัท มิตซูประจวบ จ�ากัด เป็น 5529 ประจวบครขนธ์ แก่โจทก์ร่วมก่อน หากคนไม่ได้จงให้จาเลยชาระ
3434 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 127