Page 34 - InsuranceJournal143
P. 34
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ 14217/2558
ฎีกาย่อ ผู้เข้าเป็นคู่ความแทน โจทก์ บริษัท ส.ประกันภัย จ�ากัด
บริษัท อิตัลไทย มารีน จ�ากัด กับพวก
จ�าเลย
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม. 420, 425, 426, 427, 887
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ม. 172 วรรคสอง
โจทก์ได้บรรยายให้เห็นว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยเรือ พ. เคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่า ตามค�าฟ้องหากมีการสรุปถึงความเกี่ยวพัน
�
ื
�
จากบริษัท อ. จ�าเลยที่ 1 เป็นผู้ครอบครองอู่ต่อเรือ จ�าเลยที่ 2 เป็น ระหว่างโจทก์และจาเลยเพ่อให้เห็นว่าจาเลยได้กระทาการใดให้โจทก์ได้
�
ี
ผู้จัดการเรือ พ. มีหน้าท่ดูแลรักษาและซ่อมแซมเรือและเข้าร่วมซ่อมแซม รับความเสียหาย รวมท้งคาขอบังคับท่จะให้จาเลยรับผิดต่อโจทก์อย่างไร
ั
ี
�
�
ี
�
เรือกับจ�าเลยที่ 1 จ�าเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันรับจ้างซ่อมแซมเรือ พ. เพียงพอให้จาเลยเข้าใจข้อหาได้แล้วย่อมถือเป็นคาฟ้องท่ไม่เคลือบคลุม
�
จ�าเลยที่ 3 เป็นลูกจ้างของจ�าเลยที่ 1 และ/หรือเป็นบุคคลที่จ�าเลยที่ 1 ซ่งคาฟ้องของโจทก์ได้บรรยายให้เห็นว่าโจทก์เป็นผู้รับประกันภยเรอ พ.
ั
ื
ึ
�
็
้
่
ื
�
ี
ื
้
ั
้
้
ั
ู
่
�
และ/หรอจาเลยท 2 เปนผจดหาทาการวาจาง วาน ใช หรอไดรบมอบหมาย จากบริษัท อ. จ�าเลยที่ 1 เป็นผู้ครอบครองอู่ต่อเรือ จ�าเลยที่ 2 เป็น
ี
จากจ�าเลยที่ 1 และ/หรือจ�าเลยที่ 2 ให้ด�าเนินการซ่อมแซมเรือ จ�าเลย ผู้จัดการเรือ พ. มีหน้าท่ดูแลรักษาและซ่อมแซมเรือและเข้าร่วมซ่อมแซม
ทั้งสามร่วมกันท�าละเมิดต่อเจ้าของเรือ พ. โดยจ�าเลยที่ 3 กระท�าโดย เรือกับจ�าเลยที่ 1 จ�าเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันรับจ้างซ่อมแซมเรือ พ.
�
ประมาททาให้เกิดเพลิงลุกไหม้เรือ พ. จนได้รับความเสียหาย เป็นคาฟ้อง จ�าเลยที่ 3 เป็นลูกจ้างของจ�าเลยที่ 1 และ/หรือเป็นบุคคลที่จ�าเลยที่ 1
�
�
ท่แสดงโดยแจ้งชัดซ่งสภาพแห่งข้อหาท่โจทก์อาศัยเป็นหลักในการ และ/หรือจาเลยท 2 เป็นผู้จัดหาทาการว่าจ้าง วาน ใช้ หรือได้รับมอบหมาย
�
่
ี
ี
ึ
ี
�
ื
ั
กล่าวหาเพ่อขอให้บังคับจาเลยท้งสามรับผิดต่อโจทก์ ท้งโจทก์ยืนยันว่า จากจ�าเลยที่ 1 และ/หรือจ�าเลยที่ 2 ให้ด�าเนินการซ่อมแซมเรือ จ�าเลย
ั
�
ี
�
ี
�
เหตุละเมิดเกิดจากการปฏิบัติหน้าท่ของจาเลยท่ 3 ในทางการท่จ้างหรือ ท้งสามร่วมกันทาละเมิดต่อเจ้าของเรือ พ. โดยจาเลยที่ 3 กระทา
ี
ั
�
�
ได้รับมอบหมายจากจ�าเลยที่ 1 และ/หรือที่ 2 หากพิจารณาข้อเท็จจริง โดยประมาททาให้เกิดเพลิงลุกไหม้เรือ พ. จนได้รับความเสียหาย โจทก์
ิ
แล้วได้ความตามฟ้อง จ�าเลยที่ 1 และ/หรือที่ 2 ย่อมต้องร่วมรับผิดต่อ ชดใช้ค่าสนไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยแล้วจึงรับช่วงสิทธิมาฟ้อง
โจทก์ ไม่ว่าในฐานะตัวการตัวแทนหรือนายจ้างลูกจ้าง เนื่องจาก ป.พ.พ. จ�าเลยที่ 1 และที่ 2 ให้ร่วมรับผิดกับจ�าเลยที่ 3 นั้น เป็นค�าฟ้องที่แสดง
มาตรา 427 ให้นามาตรา 425 และ 426 ซ่งเป็นบทบัญญัติว่าด้วย โดยแจ้งชัดซ่งสภาพแห่งข้อหาท่โจทก์อาศัยเป็นหลักในการกล่าวหาเพ่อ
ึ
ี
ื
�
ึ
�
ั
ึ
ความรับผิดของนายจ้างเพ่อผลละเมิดของลูกจ้างซ่งกระทาไปในทางการ ขอให้บังคับจาเลยท้งสามรับผิดต่อโจทก์ ท้งโจทก์ยืนยันในฟ้องว่าเหต ุ
ั
�
ื
ที่จ้างบังคับแก่กรณีตัวการตัวแทนโดยอนุโลม ทั้งจ�าเลยที่ 1 และ/หรือ ละเมิดเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของจ�าเลยที่ 3 ในทางการที่จ้างหรือได้
ที่ 2 อาจต้องร่วมรับผิดทั้งการกระท�าละเมิดและการกระท�าผิดสัญญา รับมอบหมายจากจาเลยท่ 1 และ/หรือที่ 2 หากพิจารณาข้อเท็จจริง
ี
�
ั
ี
ื
จ้างซ่อมแซมเรอทก่อให้เกดความเสยหายแก่โจทก์ในคราวเดยวกน แล้วได้ความตามฟ้อง จ�าเลยที่ 1 และ/หรือที่ 2 ย่อมต้องร่วมรับผิดต่อ
่
ิ
ี
ี
ทโจทก์บรรยายฟ้องมาจงไม่ได้ขดแย้งกน ฟ้องของโจทก์จงชอบด้วย โจทก์ ไม่ว่าในฐานะตัวการตัวแทนหรือนายจ้างลูกจ้างเนื่องจากประมวล
ั
ั
ึ
่
ี
ึ
ป.วิ.พ.มาตรา 172 วรรคสอง กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427 ให้น�ามาตรา 425 และ 426 ซึ่ง
�
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคาฟ้องขอให้บังคับจาเลยท้งสามร่วมกัน เป็นบทบัญญัติว่าด้วยความรับผิดของนายจ้างเพื่อผลละเมิดของลูกจ้าง
�
ั
�
ี
ช�าระเงิน 23,996,760.60 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของ ซ่งกระทาไปในทางการท่จ้างบังคับแก่กรณีตัวการตัวแทนโดยอนุโลม
ึ
ต้นเงิน 26,370,390.80 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปถึงวันที่ 29 ท้งจาเลยท่ 1 และที่ 2 อาจต้องร่วมรับผิดท้งการกระทาละเมดและ
ั
ี
�
ิ
�
ั
ี
ี
�
กันยายน 2540 และให้ชาระดอกเบ้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน การกระทาผิดสัญญาจ้างซ่อมแซมเรือท่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์
�
22,820,390.80 บาท นับแต่วันที่ 30 กันยายน 2540 เป็นต้นไปจนกว่า ในคราวเดียวกัน ข้อเท็จจริงตามท่โจทก์บรรยายฟ้องมาจึงไม่ได้ขัดแย้งกัน
ี
จะช�าระเสร็จแก่โจทก์ ฟ้องของโจทก์จงชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธพิจารณาความแพ่ง
ี
ึ
จ�าเลยทั้งสามให้การขอให้ยกฟ้อง มาตรา 172 วรรคสอง แล้ว ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็น
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ พ้องด้วย ฎีกาของจ�าเลยที่ 1 และที่ 3 ฟังไม่ขึ้น
�
ี
ี
โจทก์อุทธรณ์ พิพากษากลับเป็นว่า ให้จาเลยท่ 1 และท่ 3 ร่วมกันชดใช้
ั
�
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคาพิพากษาของศาลช้นต้น ให้ศาล ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์เป็นเงิน 21,450,000 บาท พร้อมดอกเบี้ย
ั
ช้นต้นวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทท่ยังไม่ได้วินิจฉัย แล้วพิพากษาใหม่ตาม ในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 23 กันยายน 2539 เป็นต้นไป
ี
ี
ึ
รูปคดี คืนค่าข้นศาลท่ชาระเกินมาในช้นน้ให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียม จนกว่าจะช�าระเสร็จ ยกฟ้องโจทก์ส�าหรับจ�าเลยที่ 2 ค่าฤชาธรรมเนียม
ี
ั
�
นอกจากที่สั่งคืนให้เป็นพับ ทั้งสามศาลให้เป็นพับ
จ�าเลยที่ 1 และที่ 3 ฎีกา (วัชรินทร์ สุขเกื้อ-เกษม เกษมปัญญา-จรูญ ชีวิตโสภณ)
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อ
ี
ี
�
กฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจาเลยท่ 1 และท่ 3 ว่า ฟ้องโจทก์
34 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 143