Page 240 - InsuranceHandbook
P. 240
บทที่ 18 ประเภทของการประกันวินาศภัย 221
ตัวอย่างในการก่อสร้างอาคารสูงแห่งหนึ่งเพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงาน หรือเป็นอาคารชุด (Condominium) 1) ความเสียหายต่อทรพย์สินที่มีอยู่เดิม (Existing Property) ของผู้ว่าจ้าง หรือทรัพย์สินในการดูแลรกษา
ั
ั
้
ซึ่งเจ้าของโครงการได้เปิดประมูลและไดผู้รับเหมาหลัก (Main Contractor) รับผิดชอบงานทุกอย่างของโครงการ และควบคุม (Property Under Care Custody and Control) หรือเป็นของผู้เอาประกันภัย ซึ่งเป็นความเสียหาย
ั
่
ก่อสร้างนี้ ซงประกอบด้วย งานฐานราก งานก่อสร้างอาคาร งานติดตั้งเครื่องจักร ระบบไฟฟ้า ระบบดับเพลิง ระบบ ที่เกิดจาก หรือเป็นผลมาจากการก่อสร้าง และ/หรือ การติดตั้งเครองจักรซึ่งได้เอาประกันภัยไว้ ซึ่งเหมาะสำหรบ
่
ื
ึ
สุขาภิบาล และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ โดยผู้รับเหมาหลักอาจจะมีการว่าจ้างผู้รับเหมาช่วง (Subcontractor) กรณีของผู้รับเหมางานต่อเติม หรือปรับปรุงอาคารของผู้ว่าจ้างงาน หรือผู้รับเหมาที่เข้าไปทำการติดตั้งเครื่องจักรชุด
้
ี
มารับงานบางอย่างต่อก็ได้ ในการจัดทำประกันภัยเพื่อคุ้มครองการก่อสร้างอาคารสูงแห่งน บริษัทประกันภัยก็จะ ใหม่ภายในบริเวณโรงงาน ซึ่งมีเครื่องจักรและทรัพย์สินอื่นอยู่เป็นจำนวนมาก
ออกกรมธรรม์ประกันภัยการปฏิบัติงานตามสัญญาการก่อสร้าง โดยมีความคุ้มครองทั้ง 3 ส่วน คือ 2) ค่าใช้จ่ายในการขนย้ายซากทรัพย์สินที่เอาประกันภัย (Clearance of Debris) เช่น กรณีเกิดไฟไหม ้
ส่วนที่ 1: งานก่อสร้างและงานวิศวกรรมโยธา (Building and Civil Engineering Works) โรงงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง เมื่อเพลิงสงบแล้วจะมีซากทรัพย์สินที่ถูกเพลิงไหม้เสียหาย ซึ่งจำเป็นจะต้องจ้างคน
ส่วนที่ 2: การติดตั้งเครื่องจักร (Machinery Erection) มาทำการรื้อถอน และขนย้ายซากเหล่านั้นออกไปจากสถานที่เอาประกันภัย
ส่วนที่ 3: ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (Third Party Liability) 3) ค่าวิชาชีพสำหรับสถาปนิก พนักงานสำรวจ และวิศวกรที่ปรึกษา (Architects’, Surveyors’ and
ในทางปฏิบัติ เนื่องจากผู้รับเหมาแต่ละรายอาจจะได้รับเพียงบางงานของโครงการ เช่น งานก่อสร้าง Consulting Engineers’ Fees) ผู้เอาประกันภัยจำเป็นต้องจ่ายด้วยความเห็นชอบของบริษัท เพื่อสร้างขึ้นใหม่หรือ
ี
อาคาร หรืองานติดตั้งระบบลิฟต์เท่านั้น บริษัทประกันภัยก็จะรับประกันภัยเฉพาะงานที่ผู้รับเหมารายนั้นต้องการ เปลี่ยนใหม่แทนทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ซึ่งได้รับความเสยหายจากภัยที่คุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย เช่น
จะเอาประกันภัย จึงทำให้เกิดชื่อเรียกของการประกันภัยอีก 2 แบบย่อย ภายใต้การประกันภัยการปฏิบัติงาน กรณีเกิดไฟไหม้โรงงานที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จะต้องมีการว่าจ้างสถาปนิกมาทำการออกแบบใหม่ ตลอดจน
ตามสัญญาการก่อสร้าง คือ ว่าจ้างวิศวกรที่ปรึกษาเพื่อมาให้คำปรึกษาในส่วนของเครื่องจักรซึ่งถูกไฟไหม้เสียหายและจำเป็นต้องเปลี่ยนใหม ่
1) การประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิดของผู้รับเหมา (Contractor’s All Risks Insurance: CAR.) เป็นต้น
ในกรณีที่เป็นผู้รับเหมาในส่วนของงานก่อสร้างฐานราก ตัวอาคาร งานโครงสร้าง และ/หรือ ตัวอย่างความเสียหายจากงานก่อสร้าง หรืองานติดตั้งเครื่องจักรที่ได้รับการคุ้มครอง เช่น การเกิดไฟไหม ้
งานสถาปัตยกรรมเท่านั้น บริษัทประกันภัยก็จะออกกรมธรรม์ประกันภัยการปฏิบัติงานตามสัญญาการก่อสร้าง โดย ภายในสถานที่ก่อสร้าง การโจรกรรมวัสดุก่อสร้างซึ่งเก็บอยู่ในคลังเก็บวัสดุ การเกิดน้ำท่วม การเกิดอุบัติเหตุจาก
ื่
มีความคุ้มครอง ส่วนที่ 1: งานก่อสร้างและงานวิศวกรรมโยธา และ ส่วนที่ 3: ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ความประมาทเลินเล่อของคนงานซึ่งกำลังก่อสร้างอาคารสูง และทำวัสดุก่อสร้างหล่นใส่หลังคาบ้านของผู้อนที่อยู่ติด
2) การประกันภัยการเสี่ยงภัยทุกชนิดในการติดตั้งเครื่องจักร (Erection All Risks Insurance: EAR.) กับสถานที่ก่อสร้างเสียหาย เป็นต้น
้
ในกรณีที่เป็นผู้รับเหมาในส่วนของงานติดตั้งเครื่องจักร งานติดตั้งระบบลิฟต์ ระบบบันไดเลื่อน ระบบไฟฟา การประกันภัยนเหมาะสำหรับเจ้าของโครงการก่อสร้าง ผู้ว่าจ้าง ผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ซึ่งเป็น
ี
้
ั
ระบบดับเพลิง ระบบสุขาภิบาล และ/หรือ ระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เท่านั้น บริษัทประกันภัยก็จะออกกรมธรรม ์ ผู้รับเหมาหลัก ผู้รับเหมาในโครงการ ผู้ซื้อเครื่องจักร ผู้ผลิตเครื่องจักร ผู้จำหน่ายเครื่องจักร บริษัทที่ได้รบ
ประกันภัยการปฏิบัติงานตามสัญญาการก่อสร้าง โดยมีความคุ้มครอง ส่วนที่ 2: การติดตั้งเครื่องจักร และ ส่วนที่ 3: มอบหมายให้ติดตั้งเครื่องจักร
ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก
ความคุ้มครอง 4.2.2 การประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิดของเครื่องมือและเครื่องจักรของผู้รับเหมา
ั
่
ทั้งในส่วนของงานก่อสร้าง และงานวิศวกรรมโยธา และการติดตั้งเครืองจกร ให้การคุ้มครองความเสียหาย (Contractor Plant & Machinery Insurance: CPM)
ั
ี
่
ื
ต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัยตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยแบบสรรพภัย (All Risks Basis) จากอุบัติเหตุหรอ เป็นการประกันภัยทคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายของเครื่องมือและเครื่องจักรอน
เหตุการณ์อันไม่อาจคาดหมายได้ หรือด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ไม่ได้ระบุในข้อยกเว้นซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างระยะเวลา เนื่องมาจากอุบัติเหตุในระหว่างการทำงาน ระหว่างการหยุดพัก ระหว่างการถอดออกเพื่อทำความสะอาด การยก
เอาประกันภัย เครื่องหรือการประกอบเข้าที่ หรือระหว่างการเคลื่อนย้ายภายในสถานที่เอาประกันภัย เช่น ไฟไหม้ ฟ้าผ่า การชน
สำหรับความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ให้การคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายต่อการบาดเจ็บทาง กัน การพลิกคว่ำ โจรกรรม รวมถึงภัยธรรมชาติและภัยต่าง ๆ ที่มิได้ระบุเป็นข้อยกเว้นในกรมธรรม์ประกันภัย
ี
่
์
ร่างกาย การเสียชีวิต หรือความเจ็บป่วย ตลอดจนความสูญเสียหรือความเสียหายต่อทรัพยสินของบุคคลภายนอก ตัวอย่างเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งแบบเคลื่อนที่หรือติดตั้งอยู่กับทที่สามารถจะ
ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างระยะเวลาเอาประกันภัย โดยมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการปฏิบัติงานตามสัญญาว่าจ้างที่ได ้ เอาประกนภัยน เช่น ปั้นจั่นหอสูง (Tower Crane) ปั้นจั่นเคลื่อนที่ได้ (Mobile Crane) รถปั้นจั่นตีนตะขาบ (Crawler
ั
้
ี
เอาประกันภัยไว้ และเกิดขึ้น ณ สถานที่เอาประกันภัย หรือในบริเวณที่ติดกันกับสถานที่ดังกล่าว Crane) รถตัก (Loader) รถขุด (Excavator) รถยก (Forklift) โรงงานผสมคอนกรีต (Concrete Batching Plant)
การกำหนดจำนวนเงินเอาประกันภัยสำหรับ ส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2
ส่วนที่ 1: งานก่อสร้างและงานวิศวกรรมโยธา สำหรับงานก่อสร้าง และวัสดุหรือสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งผู้ว่าจ้าง การประกันภัยนเหมาะสำหรับเจ้าของ หรือผู้ให้เช่าเครื่องมือและเครื่องจักรที่ใช้รับเหมา หรือใช้
้
ี
งานจัดหาให้ กำหนดจากมูลค่าเต็มของงานตามสัญญา ณ เวลาที่ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยรวมถึงวัสดุ ค่าจ้าง ในการก่อสร้างตามสถานที่ต่าง ๆ
แรงงาน ค่าขนส่ง ค่าภาษีศุลกากร และมูลค่าวัสดุหรือสิ่งของต่าง ๆ ซึ่งผู้เป็นเจ้าของงานจัดหาให้
ส่วนที่ 2: การติดตั้งเครื่องจักร ทรัพย์สินที่จะทำการติดตั้ง กำหนดจากมูลค่าเต็มของงานตามสัญญา 4.2.3 การประกันภัยเครื่องจักร (Machinery Breakdown Insurance: MB)
่
ณ เวลาที่ได้ติดตั้งเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซงรวมทั้งค่าระวางขนส่ง ค่าภาษีศุลกากร และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตลอดจน เป็นการประกันภัยทคุ้มครองความสูญเสียหรือความเสียหายแก่เครื่องจักร และอุปกรณ์ที่ได้ระบุไว้ใน
ี
่
ึ
ิ
ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง กรมธรรม์ประกันภัย เช่น เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิต เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ติดตั้งในอาคาร เช่น เครื่องกำเนด
นอกเหนือจากการเอาประกันภัยงานตามสัญญาว่าจ้างที่ได้อธิบายข้างต้นแล้ว ผู้เอาประกันภัยยังสามารถ ไฟฟ้า โดยคุ้มครองแบบสรรพภัย (All Risks Basis) สำหรับเครื่องจักรที่ได้ติดตั้งเรียบร้อย และผ่านการทดสอบ
ื่
่
ึ
จะเอาประกันภัยหรือขยายความคุ้มครองดังต่อไปนี้ เดินเครื่องแล้วโดยสมบูรณ์ ซงผู้เอาประกันภัยได้ใช้งานอยู่ หรือพักงาน หรือขณะถอดเพอทำความสะอาด ปรับปรุง
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
์
ิ
ิ
ั
้
ํ
ิ
ั
ิ