Page 33 - InsuranceJournal105
P. 33
ฎีกาย่อ
ทะเบียน 81-0707 ขอนแก่นของโจทก์ได้รับความเสียหายเป็น จึงฟ้องร้องบังคับคดีได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
เงิน 250,000 บาท เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2535 รถยนต์หมายเลข มาตรา 867 วรรคแรก ดังนี้ เห็นว่าสัญญาประกันภัยนั้น
ทะเบียน 80-9320 ขอนแก่นประสบอุบัติเหตุชนกับรถยนต์ กฎหมายมิได้กำหนดแบบแห่งนิติกรรมไว้ เพียงแต่บังคับให้มี
หมายเลขทะเบียน 82-0230 ชลบุรี ได้รับความเสียหายเป็นเงิน หลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้อง
111,219 บาท โจทก์แจ้งให้จำเลยชำระค่าเสียหายดังกล่าว แต่ รับผิดหรือตัวแทนเป็นสำคัญ มิฉะนั้นจะฟ้องร้องให้บังคับคดี
จำเลยเพิกเฉย โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 776,219 มิได้ ดังนั้น สัญญาประกันภัยจึงเกิดขึ้นเมื่อมีการแสดงเจตนา
บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 776,219 บาท พร้อมดอกเบี้ย ทำคำเสนอคำสนองถูกต้องตรงกัน ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏจาก
อัตราร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ การนำสืบของโจทก์ว่า นายสมนึกเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจทำ
โจทก์ สัญญาประกันภัยแทนจำเลย กลับปรากฏจากคำเบิกความของ
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเนื่องจากจำเลยมี นายสมนึกพยานโจทก์เองที่เบิกความตอบคำถามค้านทนาย
ภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพมหานคร และโจทก์ไม่มีส่วนได้เสียใน จำเลยว่าพยานไม่มีอำนาจรับประกันภัย ต้องส่งเรื่องไปให้
รถยนต์หมายเลขทะเบียน 81-0707 ขอนแก่น และ 80-9320 บริษัทจำเลยสำนักงานใหญ่เป็นผู้ออกกรมธรรม์ประกันภัยให้
ขอนแก่น หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีเป็นหนังสือปลอม ซึ่งนายสัมพันธ์ เปรมปฐมกิจ ผู้จัดการแผนกกฎหมายของ
จำเลยไม่ได้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน 81-0707 จำเลยก็มาเบิกความเป็นพยานจำเลยยืนยันว่า ตามปกติผู้เอา
ขอนแก่น และ 80-9320 ขอนแก่น จากโจทก์ โจทก์ไม่เคยชำระ ประกันภัยต้องมายื่นคำขอเอาประกันภัยต่อบริษัทจำเลยหรือ
เบี้ยประกันภัยรถยนต์ทั้งสองคันแก่จำเลย นายสมนึก แจ้งคง ตัวแทนของจำเลย และต้องนำรถที่จะเอาประกันภัยมาตรวจ
ไม่ได้เป็นตัวแทนรับมอบอำนาจจากจำเลยให้ทำสัญญา สภาพรถด้วย เมื่อตัวแทนของจำเลยได้รับคำขอเอาประกันภัย
ประกันภัยกับโจทก์ โจทก์ไม่ได้เป็นผู้รับช่วงสิทธิในค่าเสียหาย แล้วต้องส่งให้สำนักงานใหญ่ทราบโดยทางโทรสาร เพื่อให้
ของรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 80-5421 กรุงเทพมหานคร บริษัทรับการประกันภัยและคุ้มครองรถ ฝ่ายรับประกันภัยของ
และ 2ว-0142 กรุงเทพมหานคร ส่วนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บริษัทก็มีหน้าที่ตรวจดูเอกสารต่างๆ ว่าเข้าเงื่อนไขในการ
80-0707 ขอนแก่น (ที่ถูก 81-0707 ขอนแก่น) และ 80-9320 รับประกันภัยหรือไม่ หากถูกต้องก็จะออกกรมธรรม์ประกันภัย
ขอนแก่น ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย ค่าซ่อมไม่เกินคันละ ให้แก่ผู้เอาประกันภัยต่อไป สำหรับรถยนต์บรรทุกคันพิพาท
30,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง บริษัทจำเลยสำนักงานใหญ่ได้รับคำขอเอาประกันภัยเมื่อวันที่
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง 24 เมษายน 2535 เวลา 13.55 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาหลังจากที่
่
ิ
ั
ุ
ั
่
ั
ั
็
ั
์
โจทก์อุทธรณ์ รถยนตคนดงกลาวเกดอบตเหตแลว เหนวา คำขอเอาประกนภย
้
ุ
ิ
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน รถยนต์เอกสารหมาย จ.3 เป็นเพียงคำเสนอขอเอาประกันภัย
โจทก์ฎีกา รถยนต์บรรทุกคันพิพาทที่โจทก์เสนอต่อจำเลยเท่านั้น การ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติ ที่นายสมนึกผู้จัดการจำเลย สาขาขอนแก่น รับคำขอเอา
โดยคู่ความมิได้ฎีกาโต้แย้งว่า เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2535 เวลา ประกันภัยดังกล่าวไว้จากโจทก์ก็เพียงแต่เพื่อส่งให้แก่บริษัท
ประมาณ 7 นาฬิกา โจทก์โดยนายสำราญ ลักษมีเศรษฐ ผู้ จำเลยสำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพมหานครพิจารณาว่าจะรับ
รับมอบอำนาจโจทก์ขอเอาประกันภัยรถยนต์บรรทุกหมายเลข ประกันภัยได้หรือไม่เท่านั้น หากพิจารณาแล้วรับประกันภัยได้
ทะเบียน 81-0707 ขอนแก่น 80-9320 ขอนแก่น และรถพ่วง บริษัทจำเลยสำนักงานใหญ่ก็จะออกกรมธรรม์ประกันภัยให้
ี
ึ
้
่
หมายเลขทะเบยน 82-0311 นครราชสมา ไวแก นายสมนก แจงคง ผู้เอาประกันภัยต่อไป การที่นายสมนึกรับคำขอเอาประกันภัย
ี
้
ผู้จัดการจำเลย สาขาขอนแก่น ต่อมาเวลาประมาณ 9 นาฬิกา เอกสารหมาย จ.3 ไว้เพื่อส่งให้แก่บริษัทจำเลยสำนักงานใหญ่
รถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน 81-0707 ขอนแก่น ประสบ ดังกล่าวจึงมิใช่เป็นคำสนองรับประกันภัยของจำเลยแต่เป็น
อุบัติเหตุชนกับรถยนต์บรรทุกคันอื่นเสียหาย ปัญหาที่ต้อง เพียงการรับคำเสนอของโจทก์เพื่อส่งไปให้บริษัทจำเลย
วินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่าจำเลยรับประกันภัยรถยนต์ สำนักงานใหญ่พิจารณาว่าจะรับประกันภัยรถยนต์บรรทุกคัน
บรรทุกหมายเลขทะเบียน 81-0707 ขอนแก่น จากโจทก์หรือไม่ พิพาทได้หรือไม่เท่านั้น ซึ่งปรากฏว่าคำเสนอดังกล่าวนั้นบริษัท
โจทก์มีตัวโจทก์ ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ และนายสมนึก ผู้จัดการ จำเลยสำนักงานใหญ่ เพิ่งได้รับเมื่อเวลา 13.55 นาฬิกา ตาม
ิ
่
จำเลยสาขาขอนแกน มาเบกความยนยนวา เมอวนท 24 เมษายน เอกสารหมาย จ.3 แผ่นที่ 2 อันเป็นเวลาหลังจากที่รถยนต์
ื
ั
ื
่
่
ั
่
ี
2535 เวลาประมาณ 7 นาฬิกา ผู้รับมอบอำนาจโจทก์โทรศัพท์ บรรทุกคันพิพาทได้เกิดเหตุไปแล้วเมื่อเวลาประมาณ 9 นาฬิกา
แจ้งแก่นายสมนึกขอเอาประกันภัยรถยนต์บรรทุก 2 คัน และ ทั้งไม่ปรากฏจากการนำสืบของโจทก์ว่าจำเลยได้มีคำสนองตอบ
รถพ่วง 1 คัน นายสมนึกรับแจ้งการขอเอาประกันภัยและส่ง รับประกันภัยรถยนต์บรรทุกคันพิพาทเมื่อใด กรณีจึงฟังไม่ได้ว่า
หลักฐานไปยังบริษัทจำเลย สำนักงานใหญ่ตามเอกสารหมาย ขณะที่รถยนต์บรรทุกคันพิพาทเกิดอุบัติเหตุนั้น จำเลยได้รับ
จ.3 ซึ่งโจทก์ฎีกาว่า นายสมนึกเป็นตัวแทนกระทำการแทน ประกันภัยรถยนต์คันดังกล่าวไว้แล้ว อันจะต้องรับผิดชดใช้ค่า
จำเลย สัญญาประกันภัยจึงเกิดนับแต่นายสมนึกรับแจ้งคำขอ สินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษา
เอาประกันภัยและเอกสารหมาย จ.3 ดังกล่าวเป็นหลักฐาน ยกฟ้องโจทก์นั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
หนังสือซึ่งลงลายมือชื่อของนายสมนึกตัวแทนของจำเลย โจทก์
วารสารประกันภัย 33
ตุลาคม - ธันวาคม 2552