Page 36 - InsuranceJournal131
P. 36
สรรหามาเล่า
คนไทยครองแชมป์ช็อปออนไลน์มากที่สุดในโลก
รวบรวมโดย กองบรรณาธิการ วารสารประกันภัย
PwC เผยผลส�ารวจค้าปลีกโลก พบไทยครองแชมป์ซื้อสินค้า การตัดสินใจซ้อสินค้าของตนเอง ในขณะท่ 48% ใช้โทรศัพท์มือถือ
ี
ื
โดยตรงผ่านโซเชียลมีเดียมากที่สุดถึง 51% ขณะที่โซเชียลมีเดียเข้ามา ในการเปรียบเทียบราคาสินค้าขณะที่อยู่ในร้านค้า และ 56% พร้อมที่
มีอิทธิพลกับนักช็อปท่วโลกเกือบ 80% หลังอินเทอร์เน็ตและมือถือแพร่ จะซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกออนไลน์ในต่างประเทศหากราคาถูกกว่า
ั
หลายมากขึ้น ชี้นักช็อปไทยชื่นชอบการอ่านรีวิวและเปรียบเทียบราคา นอกจากนี้ อายุ และ ภูมิศาสตร์ ถือสองปัจจัยหลักที่ก�าหนด
ื
ั
ื
ผ่านมือถือก่อนตัดสินใจซ้อ พร้อมระบุกลุ่ม “มิลเลนเนียล” เป็น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียในการซ้อสินค้าของนักช็อปท่วโลก
ี
คนรุ่นใหม่ท่นิยมช็อปออนไลน์ผ่านมือถือมากกว่ารุ่นอ่น แนะธุรกิจค้า โดยผลสารวจพบว่า โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซ้อสินค้าของ
ื
�
ื
ี
ี
ี
ปลีกปรับตัวคิดค้นนวัตกรรมใหม่ให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคท่เปล่ยนไป ผู้บริโภคในตลาดเกิดใหม่ถึง 92% เปรียบเทียบกับตลาดท่พัฒนาแล้ว
นายศิระ อินทรกาธรชัย ประธานกรรมการบริหาร และหุ้นส่วน 66% ขณะที่ผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียล (Millennials) ซึ่งมีอายุระหว่าง
�
ี
PwC ประเทศไทย เปิดเผยถึงผลส�ารวจ PwC’s Total Retail 2016 18-34 ปี ถือเป็นกลุ่มท่มีการโต้ตอบกับร้านค้าหรือแบรนด์ท่ช่นชอบ
ื
ี
ื
�
ั
�
ื
ทาการสารวจนักช็อปออนไลน์ 23,000 รายใน 25 ประเทศท่วโลก ผ่านทางโซเชียลมีเดียมากกว่ารุ่นอ่น ๆ และยังมีพฤติกรรมการซ้อสินค้า
เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้บริโภคผ่านช่องทางค้าปลีก รวมถึงการซื้อ ออนไลน์ผ่านทางมือถือมากกว่ารุ่นอื่น ๆ โดย 24% ช�าระค่าสินค้าผ่าน
ี
่
ี
ื
สนค้าทางมอถอและโซเชยลมเดยว่า ไทยเป็นประเทศทมนกชอป มือถือขณะท่อยู่ในร้านค้า เปรียบเทียบกับรุ่นอ่นท่ไม่ใช่มิลเลนเนียล
็
ี
ั
ี
ี
ี
ี
ื
ิ
ื
ื
ออนไลน์ซ้อสินค้าโดยตรงผ่านทางโซเชียลมีเดียมากท่สุดในโลกถึง 51% เพียง 16% ขณะท่ 23% ใช้มือถือในการสะสมคะแนนเพ่อแลกของ
ื
ี
ี
รองลงมา ได้แก่ อินเดีย 32% มาเลเซีย 31% และจีน 27% ขณะที่ รางวัลกับร้านค้ามากกว่ารุ่นอื่นที่ 18%
ึ
ื
ิ
ื
ั
�
ปัจจุบันโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อการซ้อสินค้าของนักช็อปท่วโลก ในขณะท่จานวนนักช็อปออนไลน์มีแนวโน้มเพ่มข้นเร่อย ๆ
ี
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งถึง 78% ส่งสาคัญท่ผู้บริโภคต้องการจากผู้ประกอบการ นอกเหนือไปจากการได้
�
ี
ิ
ี
“วันน้ผู้บริโภคไทยกาลังก้าวเข้าสู่ยุคท่โซเชียลมีอิทธิพล รับสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิก เช่น ส่วนลด คะแนนสะสม หรือ การจัดส่ง
�
ี
ี
่
ั
ต่อพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าและบริการมากกว่าแต่ก่อน ในขณะท สินค้าฟรี ผ่านโปรแกรมการสร้างความภักดีระหว่างลูกค้ากับแบรนด์น้น
ึ
ี
ี
โทรศัพท์มือถือกลายมาเป็นเคร่องมือท่ช่วยในการช็อปปิ้งของลูกค้า คือ การเป็นส่วนหน่งของชุมชน (Community) ท่ผู้ประกอบการค้าปลีก
ื
ั
ี
ึ
้
้
ั
ิ
่
ิ
เช่นกัน เร่มต้งแต่การหาข้อมูลของสินค้าและร้านค้าก่อนซ้อ เปรียบ จดขนผ่านโปรแกรมการตลาดทสร้างสรรค์ทงในแบบดงเดมและ
ั
ื
ั
้
เทียบราคา อ่านรีวิวของลูกค้าคนอื่น หรือแม้กระทั่งถ่ายรูปสินค้าขึ้นโซ ออนไลน์ เช่น การได้รับบริการเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า
ื
ื
เชียลเน็ตเวิร์ก เพ่อขอความเห็นจากเพ่อนหรือญาติสนิท และอ่น ๆ โดย การรีวิวสินค้าผ่านบล็อกระหว่างลูกค้าด้วยกัน หรือแม้กระท่งการเข้า
ื
ั
ี
เราพบว่า พฤติกรรมการช็อปปิ้งผ่านมือถือยังเป็นท่นิยมมากของหมู่นัก ร่วมงานที่จัดขึ้นเฉพาะลูกค้า เป็นต้น
ี
ช็อปในตลาดเกิดใหม่ โดย 35% ซื้อสินค้าผ่านมือถืออย่างน้อยเดือนละ นายศิระกล่าวว่า ด้วยวิวัฒนาการของค้าปลีกออนไลน์ท่ยัง
ครั้ง เปรียบเทียบกับนักช็อปในตลาดพัฒนาแล้วเพียง 22%” คงเติบโตอย่างต่อเนอง ส่งผลให้ผ้ประกอบการต้องเร่งลงทนและ
ุ
ู
ื
่
ท้งน้ จากข้อมูลของ We Are Social พบว่า ณ มกราคม 2559 พัฒนานวัตกรรมท่เข้าถึงและตอบโจทย์ โดยเน้นการสร้างประสบการณ์
ี
ั
ี
ี
มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียในไทยถึง 38 ล้านคน และ ท่ดีให้กับลูกค้า ผ่านช่องทางการช็อปปิ้งท่หลากหลายและครอบคลุม
ี
มผ้ใช้งานโซเชยลมเดยผ่านมอถือ 34 ล้านคน จากจานวนประชากร ท้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ นอกเหนือ
ี
ื
ี
ั
ี
�
ี
ู
ทั้งสิ้นราว 68.05 ล้านคน จากการให้บริการผ่านร้านค้าทั่วไป
ผลสารวจของ PwC ยังพบว่า สาเหตุหลักของการตัดสินใจ
�
ื
ซ้อสินค้าออนไลน์ของนักช็อปไทยในปัจจุบันเป็นเพราะความสะดวก ที่มาข้อมูล:
ื
สบาย โดยนักช็อปไทยกว่า 51% ซ้อสินค้าออนไลน์เพราะเหตุผล • https://www.pwc.com/gx/en/retail-consumer/
ดังกล่าว และอีก 38% เพราะราคา นอกจากนี้ นักช็อปไทยถึง 53% publications/assets/total-retail-global-report.pdf
ื
ระบุว่า รีวิวและความคิดเห็นของลูกค้ารายอ่น ๆ มีอิทธิพลต่อ • http://thaipublica.org/2016/04/pwc-18-4-2559/
36 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 131