Page 35 - InsuranceJournal145
P. 35
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
�
ี
ี
โดยศาลฎีกาจาต้องถือข้อเท็จจริงตามท่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 ได้วินิจฉัย รับผิดชอบค่าซ่อมรถยนต์ให้แก่โจทก์จนมีการร้องเรยนขอความเป็น
จากพยานหลักฐานในสานวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ธรรมต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ.
ี
�
�
ี
ึ
มาตรา 238 ประกอบมาตรา 247 (เดิม) ซ่งศาลอุทธรณ์ภาค 2 ฟัง 2535 และในการฟ้องคดีน้โจทก์บรรยายคาฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ครอบครอง
ข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 9476 รถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 9476 ฉะเชิงเทรา โดยโจทก์ให้นาย
ฉะเชิงเทรา โดยโจทก์ให้นายประสงค์ ทาสัญญาเช่าซ้อรถยนต์คัน ประสงค์ทาสัญญาเช่าซ้อแทน ซ่งโจทก์เป็นผู้ชาระเงินดาวน์และเป็น
ึ
ื
�
ื
�
�
�
ื
ี
ื
ดังกล่าวกับธนาคารธนชาต จ�ากัด (มหาชน) แทนโจทก์ ซึ่งเป็นตัวการ ผู้ผ่อนชาระค่าเช่าซ้อ ดังน้ ถือได้ว่าโจทก์เป็นตัวการไม่เปิดเผยช่อได้
ี
ื
�
ท่ไม่เปิดเผยช่อ ในวันเวลาเกิดเหตุตามฟ้อง นายชาญ ขับรถยนต์ แสดงตนแล้ว จึงมิได้เป็นดังท่จาเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่เคยแสดงตนและ
ี
หมายเลขทะเบียน บท 3511 ฉะเชิงเทรา ที่เอาประกันภัยไว้กับจ�าเลย เข้ารับประโยชน์ตามสัญญาเช่าซื้อ และกรณีตัวการที่ไม่เปิดเผยชื่อเช่น
ั
ี
เฉี่ยวชนรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 9476 ฉะเชิงเทรา ที่โจทก์เป็น โจทก์ก็ไม่อยู่ในบังคับท่ต้องต้งตัวแทนเป็นหนังสือตามบทบัญญัต ิ
่
ี
ผู้ขับอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดจากความประมาทของนายชาญฝ่ายเดียวท ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 798 ตามท่ศาลอุทธรณ์
ี
ี
�
�
ขับรถลาเข้าไปในช่องเดินรถของโจทก์ นายชาญ ผู้ขับรถยนต์ท่จาเลย ภาค 2 วินิจฉัยแสดงเหตุผลไว้โดยชัดแจ้งแล้ว ซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
้
�
เป็นผู้รับประกันภัยทาละเมิดต่อโจทก์ จาเลยในฐานะผู้รับประกันภัย โจทก์จึงมีอ�านาจฟ้อง ฎีกาของจ�าเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
�
�
้
คาจุนจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์เป็นค่าซ่อมรถ 93,900 บาท ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจ�าเลยข้อสุดท้ายว่า ฟ้องโจทก์
และค่าเสื่อมราคา 20,000 บาท คดีนี้เป็นฟ้องซ้อนกับคดีที่นายประสงค์ฟ้องจ�าเลยหรือไม่ เห็นว่า ตาม
ี
�
�
คดีมีปัญหาท่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจาเลยข้อแรกว่า คาฟ้อง คดีหมายเลขแดงที่ 337/2554 ของศาลชั้นต้น นายประสงค์เป็นโจทก์
โจทก์เคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวอ้างว่า จ�าเลย ฟ้องนายชาญและจ�าเลยคดีนี้เป็นจ�าเลยที่ 1 และที่ 2 ตามล�าดับ แม้คดี
เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน บท 3511 ฉะเชิงเทรา ซ่ง ดังกล่าวเป็นเรื่องละเมิดและประกันภัยมูลกรณีเดียวกับคดีนี้ก็ตาม แต่
ึ
�
่
�
ื
�
นายชาญ ผู้เป็นเจ้าของเอาประกันภัยไว้กับจาเลย ในระหว่างอายุสัญญา โจทก์ดาเนินคดีดังกล่าวในฐานะผู้รับมอบอานาจจากนายประสงค์เมอ
ี
ประกันภัยนายชาญขับรถยนต์คันดังกล่าวด้วยความประมาท เป็นเหตุ โจทก์มาฟ้องเป็นคดีน้ โจทก์กล่าวอ้างว่าตนเป็นผู้ครอบครองรถยนต์ท ี ่
ื
ให้ชนกับรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 9476 ฉะเชิงเทรา ของโจทก์ซึ่ง ได้รับความเสียหายโดยให้นายประสงค์ท�าสัญญาเช่าซ้อรถยนต์แทน
ี
ี
โจทก์เป็นผู้ขับได้รับความเสียหาย โจทก์ติดต่อให้จาเลยในฐานะผู้รับ โจทก์จึงฟ้องคดีน้ในฐานะส่วนตัว ต่างจากคดีเดิมท่โจทก์เป็นผู้รับมอบ
�
ี
ประกันภัยรถยนต์ท่นายชาญขับและนายชาญยอมรับว่าเป็นผู้ประมาท อ�านาจ โจทก์คดีนี้จึงมิใช่โจทก์คนเดียวกันกับโจทก์ในคดีหมายเลขแดง
รับผิดค่าซ่อมรถยนต์ แต่จ�าเลยเพิกเฉย จ�าเลยในฐานะผู้รับประกันภัย ที่ 337/2554 ของศาลชั้นต้น ฟ้องโจทก์คดีนี้หาได้เป็นฟ้องซ้อนกับคดี
คาจุนรถยนต์ซ่งนายชาญผู้กระทาละเมิดต่อโจทก์เป็นผู้เอาประกันภัย ดังกล่าวไม่ ส่วนท่จาเลยฎีกาในทานองว่า หากจาเลยในคดีน้ซ่งเป็น
�
�
ี
�
�
ึ
ี
้
ึ
�
�
ี
�
�
ไว้กับจาเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายจากการละเมิดให้แก่โจทก์ ตาม จาเลยท่ 2 ในคดีเดิมใช้สิทธิฎีกาคาพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ท ่ ี
ค�าบรรยายฟ้องดังกล่าว โจทก์แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาและ อนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องคดีเดิม แล้วศาลฎีกาพิพากษากลับให้ศาลชั้น
ข้ออ้างท่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาในการขอบังคับให้จาเลยชดใช้ค่าเสีย ต้นดาเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์และจาเลยแล้วให้วินิจฉัยใหม่
ี
�
�
�
ี
หายให้แก่โจทก์ ในฐานะที่จ�าเลยเป็นผู้รับประกันภัยค�้าจุนที่ต้องรับผิด มีผลเท่ากับจาเลยถูกเรียกค่าเสียหายในค่าซ่อมรถอันเป็นหน้เดียวกันท้ง ั
�
ั
ในการกระทาละเมิดของนายชาญท่เกิดมาจากการขับรถยนต์คันท สองคดี ซ่งขัดต่อความเป็นธรรมน้น ข้อเท็จจริงปรากฏต่อศาลฎีกาว่า
ึ
่
ี
�
ี
ั
ี
�
จาเลยรับประกันภัย อีกท้งตามสาเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยเอกสาร จาเลยคดีน้ซึ่งเป็นจาเลยท่ 2 ในคดีหมายเลขแดงท่ 337/2554 ของศาล
ี
ี
�
�
�
ท้ายคาฟ้องซ่งเป็นส่วนหน่งของคาฟ้องก็สนับสนุนข้ออ้างท่โจทก์ ชั้นต้น มิได้ยื่นฎีกาคัดค้านค�าพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ที่อนุญาตให้
ึ
ึ
�
ี
�
ี
ั
�
บรรยายฟ้องให้เห็นเป็นประจกษ์ เช่นน้ คาฟ้องโจทก์จึงชอบด้วย โจทก์ในคดีดังกล่าวถอนฟ้อง ดังนั้น คดีเรื่องเดิมจึงยุติไปด้วยการถอน
�
ี
้
ี
�
ี
ี
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 วรรคสอง แล้ว ที่ ฟ้องของโจทก์แล้ว กรณหาได้มีการดาเนินคดต่อจาเลยในหนเดยวกัน
�
ั
ศาลล่างท้งสองวินิจฉัยว่าคาฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุมน้น ศาลฎีกาเห็น ทั้งสองคดีไม่ ฎีกาของจ�าเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้นอีกเช่นกัน
ั
�
ั
พ้องด้วย ฎีกาของจ�าเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ให้จาเลยใช้ค่าทนายความช้นฎีกา 2,000 บาท
ี
ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจาเลยข้อต่อไปว่า โจทก์ม แทนโจทก์
�
ู
็
อานาจฟ้องหรอไม่ เหนว่า โจทก์อย่ในฐานะตวการไม่เปิดเผยชอทให้ (พีรศักดิ์ ไวกาสี-เกษม เกษมปัญญา-ประสิทธิ์ สนามชวด)
่
ื
่
ั
�
ี
ื
�
ื
นายประสงค์ทาสัญญาเช่าซ้อรถยนต์หมายเลขทะเบียน บธ 9476
ฉะเชิงเทรา แทน เมื่อได้ความว่า หลังเกิดเหตุโจทก์เรียกร้องให้จ�าเลย
วารสารประกันภัย ฉบับที่ 145 35