Page 35 - InsuranceJournal132
P. 35
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ี
ข้อเท็จจริงในข้อพิพาทน้มีว่า ผู้เสนอข้อพิพาทเป็นผู้รับประกัน กับผู้ขับหรือครอบครองรถฝ่ายคู่กรณีในขณะหรือหลังเกิดเหตุไว้
ู
ภัยรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน บบ-9577 กรุงเทพมหานคร ส่วนค่ เเม้คู่กรณีจะมีหลักฐานของคู่กรณีตาม ค.1 มาอ้างว่านายธีระพันธ์ได้
กรณีเป็นผู้รับประกันภัยค�้าจุนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน บบ-3829 เเจ้งอุบัติเหตุต่อคู่กรณีเเละให้ปากค�าต่อคู่กรณีไว้ท�านองว่าตนได้ขับรถ
ื
ี
กาฬสินธุ์ เม่อวันท่ 1 ธันวาคม 2555 เวลา 10.00 นาฬิกา ขณะ ฝ่ายคู่กรณีตามหลังรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเเละไปชนท้ายรถฝ่ายผู้เสนอ
ี
�
นายอมรได้ขับรถยนต์คันท่ผู้เสนอข้อพิพาทรับประกันภัยมาจากอาเภอ ข้อพิพาท เเต่ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทไม่ว่าอะไรจึงกลับบ้าน เม่อ
ื
ท่าคันโทมุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 129 ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีไม่กล่าวถึงว่ามีการเจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหาย
หมู่ 5 ตาบลดงมูล อาเภอหนองกรุงศรี จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ชะลอรถเพ่อ อย่างไรกับนายอมรผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทขณะน้นไว้ เช่นน ้ ี
ื
�
�
ั
�
ี
ื
ี
นารถเข้าบ้าน ได้มีบุคคลผู้มีช่อขับข่รถยนต์โดยสารคันท่คู่กรณีรับ ข้ออ้างตาม ค.1 จึงสนับสนุนข้อเท็จจริงที่วินิจฉัยไว้ข้างต้นว่า หลังเกิด
ประกันภัยขับตามหลังมาในช่องทางเดียวกันด้วยความเร็วสูงจน เหตุหรือขณะเกิดเหตุผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีไม่มีการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย
ไม่สามารถห้ามล้อเพ่อหยุดรถได้ทัน เป็นเหตุให้พุ่งชนท้ายรถฝ่ายผู้เสนอ ให้ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาท
ื
ข้อพิพาทได้รับความเสียหายเเละหลบหนีไป จากน้นผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอ คร้นเม่อรับฟังไม่ได้ว่าขณะเกิดเหตุน้นนายธีระพันธ์ผู้ขับรถ
ั
ื
ั
ั
ข้อพิพาทไปเเจ้งความไว้ตาม ส.2 พนักงานสอบสวนมีหมายเรียก ฝ่ายคู่กรณีได้มีเจรจาตกลงชดใช้ค่าเสียหายกับนายอมรผู้ขับรถฝ่าย
์
ู
้
็
่
ึ
ั
ู
้
นายธีระพนธซงเปนผต้องหาไวตาม ส.3 นายธีระพนธผ้ขบใหการยอมรบ ผู้เสนอข้อพิพาทหรือผู้ครอบครองรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทขณะหรือ
ั
้
ั
์
ั
ว่าได้ขับรถชนท้ายรถคันท่ผู้เสนอข้อพิพาทรับประกันภัยตาม ค.1 หลังเกิดเหตุไว้ เเม้ต่อมาจะได้ความตามบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหาย
ี
ึ
เเต่ภายหลังนายอมรซ่งเป็นผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทได้รับชดใช้ ตาม ค.2 ว่า ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2556 หลังเกิดเหตุ 6 เดือนเศษว่า
ี
ั
ิ
�
ี
ค่าเสยหายจากนายธระพนธ์ไปเเล้วเป็นเงนจานวน 8,000 บาท โดย นายอมรผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเเละผู้ครอบครองรถฝ่ายผู้เสนอ
นายสันติซ่งเป็นน้องชายของนายธีระพันธ์เป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าว ข้อพิพาทขณะเกิดเหตุไปตกลงกับนายสันติน้องชายนายธีระพันธ์ผู้ขับ
ึ
ให้ เเละหลังจากน้นพนักงานอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้เป็นโจทก์ย่นฟ้อง รถฝ่ายคู่กรณี โดยนายสันติยอมชดใช้ค่าเสียหายให้นายอมรผู้ขับรถ
ื
ั
นายธีระพันธ์เป็นจาเลยต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เเละได้เเนบบันทึกตกลง ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเเทนพ่ชายไป 8,000 บาท โดยนายอมรไม่ประสงค์
�
ี
ชดใช้ค่าเสียหายท่จาเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้เเก่นายอมรผู้ขับรถ จะฟ้องร้องคดีกับนายธีระพันธ์ผู้ต้องหา เเต่เม่อบันทึกตกลงชดใช้
�
ี
ื
�
�
ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทไว้ ศาลได้มีคาพิพากษาลงโทษจาคุกจาเลย 1 เดือน ค่าเสียหายฉบับน้ไม่มีนายธีระพันธ์ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีเป็นผู้มาตกลง
ี
�
ปรับ 2,500 บาท โทษจ�าคุกรอการลงโทษไว้ 2 ปีตาม ค.3 ด้วย จึงไม่เป็นบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหายระหว่างนายอมรผู้ขับรถ
ี
อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า เม่อดูหลักฐานท่เเต่ละฝ่าย ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทหรือผู้ครอบครองรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทกับ
ื
อ้างประกอบ เเม้จะปรากฏตามรายงานประจ�าวัน ส.2 ว่า หลังเกิดเหตุ นายธีระพันธ์ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีหรือผู้ครอบครองรถฝ่ายคู่กรณีขณะ
นายอมรผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเป็นฝ่ายไปเเจ้งความต่อพนักงาน เกิดเหตุ เเม้นายอมรผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทหรือผู้ครอบครองรถ
ี
�
สอบสวนโดยระบุหมายเลขทะเบียนรถท่มาชนท้ายรถฝ่ายผู้เสนอ ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทสามารถทาบันทึกตกลงชดใช้ค่าเสียหายได้ ก็หา
ี
ู
ู
ข้อพิพาทได้ เเต่ไม่ทราบหมวดจังหวัด การท่พนักงานสอบสวนออกตรวจ ถือว่าผ้ขับหรอผ้ครอบครองรถฝ่ายค่กรณีชดใช้ค่าสินไหมทดเเทนให้เเก่
ู
ื
ึ
ี
ี
�
ท่เกิดเหตุหลังรับเเจ้งพบเเต่รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาท เเต่ไม่พบรถฝ่าย บุคคลซ่งเป็นผู้ครอบครองทรัพย์ขณะท่ทาให้บุบสลายน้นเเล้วไม่
ั
ั
ี
ุ
ั
่
คู่กรณีเเสดงว่ารถท่ชนหลบหนี เเต่การท่พนักงานสอบสวนสามารถเเจ้ง อนจะถอได้ว่าเป็นอนหลดพ้นไปเพราะการทได้ใช้ให้เช่นนน
ั
้
ี
ื
ี
ข้อกล่าวหานายธีระพันธ์ว่าเป็นผู้ต้องหาได้เเละเเจ้งข้อกล่าวหาว่าขับรถ ตามประมวลกฎหมายเเพ่งเเละพาณชย์ มาตรา 441 บญญตไว้
ิ
ิ
ั
ั
ี
ในทางโดยประมาทเป็นเหตุให้ชนรถผู้อ่นเสียหาย ไม่หยุดช่วยเหลือหรือ เม่อผู้เสนอข้อพิพาทซ่งเป็นรับประกันภัยรถคันท่นายอมรเป็นผู้ขับหรือ
ึ
ื
ื
เเจ้งเหตุ เเสดงว่าต้องสอบสวนจนรู้ข้อเท็จจริงเเล้วจึงเเจ้งข้อกล่าวหาเเก่ ผู้ครอบครองได้ชดใช้ค่าเสียหายคร้งน้โดยจัดซ่อมให้เเละชดใช้ค่าซ่อม
ั
ี
นายธีระพันธ์ได้ เมื่อนายอมรผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเพิ่งมาทราบ ไปเเล้ว ย่อมรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องจากคู่กรณีได้
ึ
ภายหลังว่านายธีระพันธ์ เป็นผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีไปชนเเล้วหลบหนี ดังน อนุญาโตตุลาการช้ขาดให้คู่กรณีรับผิดชดใช้ค่าซ่อมซ่งถือเป็น
ี
ี
้
ี
ั
นายอมรผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทต้องไม่มีการเจรจาค่าเสียหาย ค่าเสียหายคร้งน้เป็นเงิน 23,413 บาทเเก่ผู้เสนอข้อพิพาทพร้อมดอกเบ้ย
ี
วารสารประกันภัย เดือนกรกฎาคม-กันยายน 2559 35