Page 35 - InsuranceJournal139
P. 35
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ของจ�าเลยที่ 4 เป็นการขนส่งในเงื่อนไขแบบ CFS/CFS ซึ่งหมายความ แก่ผู้เอาประกันภัย แสดงให้เห็นว่าจ�าเลยที่ 1 ได้รับบ�าเหน็จค่าระวาง
ี
ั
ี
ึ
ว่าจาเลยท่ 4 เป็นผู้บรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ท่ท่าเรือต้นทางน้น เรืออันเน่องมาจากตกลงรับจ้างจัดการขนส่งสินค้าตามฟ้องซ่งรวมการ
ื
�
ึ
เป็นข้อเท็จจริงท่มิได้ยกข้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลทรัพย์สินทาง ขนส่งด้วย จ�าเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลอันมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการ
ี
ปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ต้องห้ามมิให้คู่ความยกข้น ขนส่งประเภทไม่มีเรือเป็นของตนเอง ท้งในการตกลงรับจ้างจัดการ
ึ
ั
ั
อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดต้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้า ขนส่งสินค้าตามฟ้อง จ�าเลยที่ 1 ก็มิได้แสดงให้ผู้เอาประกันภัยได้ทราบ
ี
ระหว่างประเทศและวธพจารณาคดทรพย์สนทางปัญญาและการค้า ว่าจ�าเลยที่ 1 เป็นตัวแทนของจ�าเลยที่ 2 หรือผู้ขนส่งรายใด พฤติการณ์
ิ
ั
ี
ิ
ิ
�
ี
�
ระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 38 ประกอบประมวลกฎหมายวิธี ของจาเลยท่ 1 ฟังได้ว่า จาเลยท่ 1 เข้าร่วมเป็นผู้ขนส่งด้วย ท่ศาล
ี
ี
พิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สิน ทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางฟังว่าจาเลยท่ 1
ี
�
ทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัย ส่วนใบตราส่งตาม เป็นผู้ขนส่งร่วมกับจาเลยท่ 2 น้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญา
ั
�
ี
เอกสารหมาย จ.14 ที่จ�าเลยที่ 4 ออกให้แก่จ�าเลยที่ 3 นั้น โจทก์เป็นผู้ และการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจาเลยท่ 1
ี
�
�
อ้างสาเนาใบตราส่งดังกล่าวเป็นพยานของตน และไม่มีคู่ความโต้แย้ง ฟังไม่ขึ้น
�
ความไม่ถูกต้องของสาเนาเอกสารดังกล่าว โจทก์จึงไม่อาจยกข้นอุทธรณ์ มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เป็นข้อสุดทายว่า
้
ึ
�
ว่าเอกสารหมาย จ.14 เป็นเพียงส�าเนา ศาลไม่ควรรับฟัง ความสูญหายของสินค้าตามฟ้องเกิดจากการที่จ�าเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3
ี
�
มีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปตามอุทธรณ์ของจาเลยท่ 1 ว่า หรือตัวแทนหรือลูกจ้างของจ�าเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ได้กระท�าหรืองด
ี
ั
�
จ�าเลยที่ 1 เป็นผู้ร่วมขนส่งกับจ�าเลยที่ 2 หรือไม่ ข้อเท็จจริงได้ความว่า เว้นกระทาการโดยละเลยหรือไม่เอาใจใส่ท้งท่รู้ว่าการสูญหายน้นอาจ
ั
ี
�
ึ
ผู้เอาประกันภัยว่าจ้างให้จ�าเลยที่ 1 จัดการขนส่งสินค้าจ�านวน 5 กล่อง เกิดข้นได้หรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่า จาเลยท่ 3 รับสินค้า
ที่ผู้เอาประกันภัยสั่งซื้อจากบริษัท ดองยิง (ฮ่องกง) ลาเบล จ�ากัด ที่เขต จ�านวน 5 กล่องตามฟ้องมาจากจ�าเลยที่ 2 แล้วตามใบตราส่งเอกสาร
บริหารพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน จ�าเลยที่ 1 ได้มอบหมาย หมาย จ.13
ี
ั
ี
จ�าเลยที่ 2 ติดต่อขอรับสินค้าทั้ง 5 กล่องจากผู้ขาย โดยจ�าเลยที่ 2 ได้ และจ�าเลยท่ 3 มีหน้าท่นาสินค้าท้ง 5 กล่องบรรจุเข้าตู้
�
ออกใบตราส่งตามเอกสารหมาย จ.12 อันเป็นหลักฐานแห่งสัญญารับ คอนเทนเนอร์ปิดตู้ผนึกซีลกากับด้วยหมายเลข นาตู้คอนเทนเนอร์ไปส่ง
�
�
�
ขนของทางทะเล โดยระบุช่อผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับตราส่ง จาเลยท มอบแก่จ�าเลยที่ 4 บรรทุกขึ้นเรือเดินทางมาถึงท่าเรือกรุงเทพท่าปลาย
ี
่
ื
ี
2 จึงเป็นผู้ขนส่ง หลังจากนั้นจ�าเลยที่ 2 ได้ว่าจ้างจ�าเลยที่ 3 ให้ขนส่ง ทาง ไม่ปรากฏมีร่องรอยการเปิดตู้คอนเทนเนอร์มาก่อนหน้าน้ เม่อเปิด
ื
ั
ี
�
สินค้าท้ง 5 กล่องดังกล่าว จาเลยท่ 3 รับขนส่งและได้ออกใบตราส่ง ตู้คอนเทนเนอร์พบว่า สินค้าตามฟ้องมีเพียง 3 กล่อง แสดงว่าสินค้า 2
ี
ั
เอกสารหมาย จ.13 ให้แก่จ�าเลยที่ 2 โดยระบุชื่อจ�าเลยที่ 1 เป็นผู้รับ กล่องท่สูญหายไปน้นมิได้ถูกบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์มาต้งแต่แรก
ั
ู
ิ
ู
ิ
ตราส่ง แต่จาเลยท่ 3 ไม่มีเรือจึงว่าจ้างให้จาเลยท่ 4 เป็นผู้ขนส่ง เง่อนไข แสดงว่าสนค้า 2 กล่องได้สญหายไปในระหว่างสนค้าอย่ในความดแล
�
�
ี
ี
ู
ื
การขนส่งแบบ FCL/FCL โดยจาเลยท 3 รับต้คอนเทนเนอร์ไปบรรจ ของจ�าเลยที่ 3 แต่โจทก์ก็ไม่มีพยานมาน�าสืบให้เห็นว่า จ�าเลยที่ 3 หรือ
่
ี
�
ุ
ู
�
�
�
�
ื
สินค้าตามฟ้องรวมท้งสินค้าอ่นเข้าตู้คอนเทนเนอร์ ปิดผนึกตู้และนาตู้ ตัวแทนหรือลูกจ้างของจาเลยท่ 3 กระทาการหรืองดเว้นกระทาการ
ั
ี
ดังกล่าวไปส่งมอบให้แก่จ�าเลยที่ 4 ซึ่งจ�าเลยที่ 4 ได้ออกใบตราส่งตาม อย่างใดในลักษณะละเลยหรือไม่เอาใจใส่ อาจมีคนร้ายมาลักเอาสินค้า
�
ี
่
ื
เอกสารหมาย จ.14 ให้แก่จ�าเลยที่ 3 โดยระบุชื่อจ�าเลยที่ 3 เป็นผู้รับ 2 กล่องไปก่อนปิดต้คอนเทนเนอร์ โดยจาเลยท 3 หรอตวแทนหรอ
ั
ู
ื
ตราส่ง จาเลยท่ 3 และท่ 4 จึงอยู่ในสถานะเป็นผู้ขนส่งอ่น การท ลูกจ้างของจาเลยท่ 3 ไม่ทราบก็เป็นได้ ข้อเท็จจริงจึงยังฟังไม่ได้ว่า ความ
�
่
ี
ี
ี
ื
ี
�
ื
่
ใบตราส่งเอกสารหมาย จ.12 และ จ. 14 ระบุหมายเหตุว่า FREIGHT สญหายของสนคาตามฟองเกดขนเพราะความละเลยหรอไมเอาใจใสของ
ิ
้
่
้
ิ
ึ
ู
้
�
ี
ี
ี
ี
COLLECT ย่อมหมายความว่า ค่าระวางขนส่งให้เรียกเก็บท่ท่าปลาย จาเลยท่ 3 หรือตัวแทนหรือลูกจ้างของจาเลยท่ 3 ท้งท่รู้ว่าความสูญหาย
�
ั
ทางและใบตราส่ง เอกสารหมาย จ.12 ที่จ�าเลยที่ 2 ออกให้แก่ผู้ซื้อระบุ ของสินค้าอาจเกิดขึ้นได้ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่าง
ช่อผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับตราส่ง แต่ก็มีข้อความด้านล่างระบุว่า เฉพาะ ประเทศกลางนาข้อจากัดความรับผิดของผู้ขนส่งมาบังคับแก่ความรับ
�
ื
�
ี
การติดต่อขอรับสินค้าให้ติดต่อกับจาเลยท่ 1 และตามข้อเท็จจริงได้ ผิดของจ�าเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 นั้น ชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้
�
ความว่า เมื่อจ�าเลยที่ 4 ขนส่งสินค้าตามฟ้องมาถึงท่าเรือกรุงเทพแล้ว ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
ั
จ�าเลยที่ 1 เป็นผู้แจ้งการมาถึงของสินค้าให้ผู้เอาประกันภัยทราบ ให้ผู้ พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความช้นอุทธรณ์ 1,500 บาท
�
เอาประกันภัยมาติดต่อกับจาเลยท่ 1 และจ่ายค่าระวางเรือให้แก่จาเลย แทนจ�าเลยที่ 4 ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์นอกจากนี้ให้เป็นพับ
ี
�
ที่ 1 โดยจ�าเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อกับจ�าเลยที่ 4 ให้ออกใบปล่อยสินค้าให้ (สุวัฒน์ วรรธนะหทัย - อร่าม เสนามนตรี - สมศักดิ์ เนตรมัย)
วารสารประกันภัย เมษายน - มิถุนายน 2561 35