Page 36 - InsuranceJournal139
P. 36
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 1469/2560
เรื่อง ประกันภัยรถยนต์
ั
ี
ประเด็นข้อพิพาทมีว่า 1. เหตุเกิดคร้งน้เกิดจากความประมาทของผู้ขับรถ
ย่อค�าชี้ขาด 2. ค่าเสียหายมีเพียงใดและคู่กรณีท้งสองต่างต้องรับ
ั
ี
่
ื
้
ฝายคกรณทงสองหรอไม
่
ู
่
ั
ผิดค่าเสียหายเท่าใด
ิ
ิ
ั
ู
ี
ี
ข้อเท็จจริงในข้อพพาทน้มว่า ผ้เสนอข้อพพาทเป็นผู้รบประกัน บันทึกตกลงค่าเสียหายหลังเกิดเหตุกัน 3 ฝ่าย และมีน้องสาวของผู้ขับ
ภัยรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนทะเบียน กอ-9662 ชลบุรี คู่กรณีที่ 1 รถจักรยานยนต์เรียกร้องเป็นค่ามนุษยธรรม ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีทั้งสอง
และที่ 2 เป็นผู้รับกันภัยค�้าจุนรถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 2กค-8407 ให้ตัวแทนคู่กรณีที่ 2 รับไปด�าเนินการ ส่วนคู่กรณีที่ 2 มีรายงานของ
ี
กรุงเเทพมหานคร เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 8.20 นาฬิกา พนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุของคู่กรณีท่ 2 ให้ความเห็นว่ารถฝ่ายคู่กรณ ี
ี
ึ
ขณะท่ผู้ขับรถคันท่ผู้เสนอข้อพิพาทรับประกันภัย ขับมาตามถนน ท่สองและรถจักรยานยนต์ต่างฝ่ายต่างประมาทซ่งสอดคล้องกับหลัก
ี
ี
สุขุมวิทจากอ�าเภอสัตหีบมุ่งหน้าไปเมืองพัทยาในช่องทางที่ 2 จากซ้าย ฐานของผู้เสนอข้อพิพาทเช่นกัน เมื่อปรากฏตามหลักฐานของคู่กรณีที่
โดยถนนสุขุมวิทมีช่องทางทั้งไปและกลับด้านละ 2 ช่องทาง ผู้เสนอข้อ 2 ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีทั้งสองยอมชดใช้ค่าปลงศพผู้ขับรถจักรยานยนต์ที่
ั
ี
พิพาทขับมาจอดรอเล้ยวกลับรถหน้าโรงเรียนบางเสร่มีรถคันท่คู่กรณีท้ง ตายเป็นการช่วยเหลือทาบุญร้อยวันและจ่ายค่ามนุษยธรรมแก่น้องสาว
ี
�
สองรับประกันภัยขับสวนทางมาชนรถจักรยานยนต์และทาให้รถ ของผู้ขับรถจักรยานยนต์ นอกจากน้ หากไปพิจารณาบันทึกปากคา
�
ี
�
จักรยานยนต์กระเด็นมาชนรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเสียหาย หลังเกิด ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีท้งสองตอนหน่งว่ารถจักรยานยนต์ขับตัดหน้า
ั
ึ
ี
�
ั
เหตุได้มีพนักงานสอบสวนออกตรวจสอบสถานท่เกิดเหตุและทาการ ผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีท้งสองเบรค แต่รถไม่สามารถหยุดได้ทันแสดงให้เห็น
ั
�
สอบสวนแล้ว ผู้เสนอข้อพิพาทรับช่วงสิทธิมาเรียกร้องค่าเสียหายจานวน ว่าผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีท้งสองขับมาด้วยความเร็ว เม่อด้านหน้าเป็น
ื
28,566.10 บาท จุดเลี้ยวกลับรถต้องชะลอ ตามพยานหลักฐานดังกล่าวข้างต้นประกอบ
คู่กรณีที่ 1 ยื่นค�าคัดค้านว่า ตามกรมธรรม์รถคันที่คู่กรณีที่ 1 หลักฐานของคู่กรณีที่ 2 พอให้รับฟังได้ว่าผู้ขับรถฝ่ายคู่กรณีทั้งสองกับ
รับประกันภัยมีความคุ้มครองภายหลังคู่กรณีท่สองซ่งกรมธรรม์คู่กรณ ผู้ขับรถจักรยานยนต์ต่างฝ่ายต่างประมาท คู่กรณีท้งสองและผู้ขับรถ
ี
ี
ึ
ั
ี
ที่ 2 คุ้มครองก่อนจึงต้องให้คู่กรณีที่ 2 รับผิดจนเต็มกรมธรรม์ก่อนจาก จักรยานยนต์จึงต้องรับผิดต่อผู้เสนอข้อพิพาทอย่างลูกหน้ร่วมซ่งเป็น
ึ
นั้นคู่กรณีที่ 1 จึงจะต้องรับผิด แต่ความเสียหายในข้อพิพาทนี้ยังไม่เกิน บุคคลภายนอก
ความคุ้มครองของคู่กรณีที่ 2 คู่กรณีที่ 1 จึงไม่ต้องรับผิดชอบ ปัญหาต่อไปที่ว่าคู่กรณีท้งสองได้รับค่าเสียหายเพียงใด กล่าว
ั
ี
ั
ื
่
คู่กรณท่ 2 ยนคาคัดค้านว่าเหตุในคร้งน้ไม่ได้เกิดจากความ โดยสรุปว่ารถคู่กรณีมประกนภัยภาคสมครใจและพ.ร.บ.ค้มครอง
�
ี
ุ
ั
ี
ั
ี
ี
ประมาทของรถยนต์คันที่คู่กรณีที่ 2 รับประกันภัย ผู้ประสบภัยจากรถกับคู่กรณีท่สองโดยเกิดความคุ้มครองก่อนคู่กรณีท่ 1
ี
ั
อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยตามประเด็นข้อท่ 1 ว่า สาหรับ ย่อมฟังได้ว่ารถฝ่ายคู่กรณีท้งสองท่เป็นฝ่ายประมาทคร้งน้ต่างรับประกันภัย
ั
ี
ี
ี
�
�
รายงานประจาวันน้นได้ความว่าหลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนออก เป็น 2 ราย สืบเนื่องเป็นล�าดับกัน การที่คู่กรณีที่ 2 เป็นผู้รับประกันภัย
ั
ื
ตรวจท่เกิดเหตุสอบสวนเบ้องต้นได้ความว่ารถฝ่ายคู่กรณีท้งสองว่งออก คนแรกจึงต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายต่อผู้เสนอข้อพิพาทก่อน เม่อ
ิ
ี
ื
ั
จากไฟแดงบางเสร่มุ่งหน้าอาเภอสัตหีบ เม่อถึงท่เกิดเหตุได้มีรถ ปรากฏว่าค่าเสียหายคร้งน้คุ้มวินาศภัยคู่กรณีท่ 1 หาต้องรับผิดไม่
ี
ื
�
ี
ั
ี
ื
ี
ึ
ี
จักรยานยนต์ซ่งขับในช่องทางด้านซ้ายได้เล้ยวเพ่อไปท่จุดกลับรถเป็น ผู้เสนอข้อพิพาทเรียกร้องให้คู่กรณีที่ 2 ชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดได้เมื่อ
เหตุให้รถท้งสองคันเฉ่ยวชน เป็นเหตุให้รถจักรยานยนต์กระเด็นไปชน คู่กรณีที่ 2 จ่ายค่าเสียหายไปทั้งหมดแล้วย่อมไปว่ากล่าวเอากับผู้ขับรถ
ั
ี
รถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทซึ่งจอดรอกลับรถอยู่ในทิศทางตรงข้าม ผู้ขับรถ จักรยานยนต์ที่เป็นฝ่ายประมาทโดยได้ครึ่งหนึ่ง
ี
จักรยานยนต์บาดเจ็บและทราบว่าเสียชีวิตท่โรงพยาบาลซ่งรายงาน อนุญาโตตุลาการช้ขาดให้คู่กรณีท่ 2 ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน
ี
ึ
ี
�
ประจาวันมีเน้อหาทานองเดียวกับท่ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทให้ 26,937 บาทแก่ผู้เสนอข้อพิพาทพร้อมดอกเบี้ย
ี
�
ื
ี
�
�
�
ปากคาและแผนท่เกิดเหตุท่ผู้เสนอข้อพิพาททาไว้ โดยเฉพาะมีการทา
ี
36 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 139