Page 35 - InsuranceJournal140

ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ

ข้อพิพาทหมายเลขแดงที่ 2595/2560
เรื่อง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ
ย่อค�าชี้ขาด ประเด็นข้อพิพาทมีว่า คู่กรณีและคู่กรณีร่วมต้องรับผิดชดใช้ค่ารักษา

พยาบาลตามค�าเสนอข้อพิพาทหรือไม่เพียงใด

ี
ี
ข้อเท็จจริงในข้อพิพาทน้มีว่า ผู้เสนอข้อพิพาทเป็นผู้รับ อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยในประเด็นท่ว่าคู่กรณีและคู่กรณีร่วม
�
ประกันภัยรถจักรยานยนต์หมายเลขตัวถัง MLHJF 3505F5189475 ต้องรับผิดชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตามคาเสนอข้อพิพาทหรือไม่ เพียงใด
ตามพรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ คู่กรณีเป็นผู้รับกันภัยรถยนต์คัน นั้น ตามข้อเท็จจริงที่ฟังได้ในข้อพิพาทว่า ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาท
หมายเลขทะเบียน ศฉ-6752 กรุงเทพมหานคร ตามพรบ.คุ้มครอง เข้ารักษาพยาบาล 2 โรงพยาบาล ได้แก่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเป็น
ผู้ประสบภัยจากรถ เม่อวันท่ 16 มีนาคม 2558 เวลา 17 นาฬิกา ผู้ขับรถ เงิน 14,736 บาท และแพทย์รังสิตเป็นเงิน 14,742 บาท รวมเป็นเงิน
ื
ี
คันท่คู่กรณีรับประกันภัยไว้ขับรถโดยประมาทเฉ่ยวชนรถจักรยานยนต์ 29,478 บาท โดยผู้เสนอข้อพิพาทได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้ว เมื่อ
ี
ี
ี
ี
ฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทล้มลงได้รับความเสียหาย ผู้ขับรถคันท่ผู้เสนอ ผู้เสนอข้อพิพาทเป็นฝ่ายถูกย่อมใช้สิทธิไล่เบ้ยเอาคืนจากคู่กรณีท่รับ
ี
ข้อพิพาทรับประกันภัยไว้ได้รับบาดเจ็บต้องเข้ารักษาตัวท่โรงพยาบาล ประกันภัยที่เป็นฝ่ายผิดได้ การที่คู่กรณีจ่ายเงินให้ผู้ประสบภัยเป็นเงิน
ี
มงกุฎวัฒนะและโรงพยาบาลแพทย์รังสิต ผู้เสนอข้อพิพาทได้จ่าย 35,264 บาท และกันเงินไว้เฉพาะที่ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเข้ารับ
ื
�
ี
ค่ารักษาพยาบาลอันเป็นค่าเสียหายเบ้องต้นตามกฎหมายให้กับ การรักษาพยาบาลท่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจานวน 14,736 บาทไว้
โรงพยาบาลแทนผู้ประสบภัยจากรถเป็นเงินจานวน 29,478 บาท คืนแก่ผู้เสนอข้อพิพาท แม้ก่อนจ่ายจะได้สอบถามผู้ประสบภัยแล้ว แต่
�
จึงขอใช้สิทธิไล่เบี้ยจากคู่กรณี เม่อไม่มีการสอบถามไปยังผู้เสนอข้อพิพาทท่มีหน้าท่จ่ายและจ่ายไปแล้ว
ื
ี
ี
ี
คู่กรณีก็หาพ้นความรับผิดท่จะต้องจ่ายคืนแก่ผู้เสนอข้อพิพาทเป็นเงิน
้
ั
ี
ี
ี
ิ
ี
้
็
่
ิ
�
้
คกรณย่นคารองขอใหเรยก บรษท ท. เขามาเปนคกรณรวม 29,478 บาทตามทผู้เสนอข้อพพาทจ่ายไปไม่ แม้การทคู่กรณจ่ายไปเป็น
ู
ี
่
่
่
่
ู
ี
ื
ิ
ี
คู่กรณีย่นคาคัดค้านว่า คู่กรณียอมรับว่าเป็นฝ่ายประมาท เงน 35,264 บาท เมอรวมกบยอดเงนทผู้เสนอข้อพิพาทต้องจ่ายไป
�
ื
่
ื
่
ั
ิ
คู่กรณีรับประกันภัยตามกรมธรรม์พรบ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถและ 29,478 บาทจะเกินยอดเงินตามกรมธรรม์ของคู่กรณีท่คุ้มครองเพียง
ี
ี
คู่กรณีได้ชาระค่าอนามัยให้ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทเป็นเงิน 50,000 บาทก็ตาม ส่วนคู่กรณีร่วมจะต้องรับผิดในส่วนท่คู่กรณีจ่ายเกิน
�
ึ
�
35,264 บาท คู่กรณีจึงสามารถช�าระค่าเสียหายให้แก่ผู้เสนอข้อพิพาท ไป 14,742 บาทหรือไม่ พยานซ่งเป็นผู้อานวยการส่วนคดี 3/1 ให้
ได้อีกเพียง 14,736 บาท จ�านวนที่เหลืออีกจ�านวนหนึ่ง 14,742 บาท ความเห็นว่า คู่กรณีร่วมรับประกันภัยภาคสมัครใจกรมธรรม์นี้คุ้มครอง
ึ
ต้องให้คู่กรณีร่วมซ่งรับประกันภัยตามกรมธรรม์ภาคสมัครใจรับผิดชอบ คู่กรณีร่วมรับผิดต่อบุคคลภายนอกคือผู้ประสบภัย หมายถึงมิใช่คู่กรณี
คู่กรณีร่วมย่นคาคัดค้านว่าคู่กรณีร่วมรับประกันภัยภาคสมัคร ขอให้เรียกคู่กรณีร่วมเข้ามาและให้ผู้เสนอข้อพิพาทและคู่กรณีใช้สิทธ ิ
�
ื
ิ
ื
ี
ใจ ผู้เสนอข้อพิพาทไม่มีสิทธิเรียกเอากับคู่กรณีร่วมและคู่กรณีก็ไม่มีสิทธ เอากับคู่กรณีร่วมได้ แต่เป็นเร่องท่ผู้ขับรถฝ่ายผู้เสนอข้อพิพาทไปใช้สิทธ ิ
ื
ี
ู
ึ
ู
ี
ี
ี
ู
้
เรยกให้ค่กรณร่วมเข้ามาเป็นค่ความในข้อพพาทนเนองจากค่กรณจ่าย เอากับคู่กรณีร่วมเอง ซ่งตามเน้อหาท่พยานให้การและมีความเห็นไว้
ี
ื
่
ิ
ค่าสินไหมทดแทนไปตามอาเภอใจโดยไม่สอบถามผู้เสนอข้อพิพาทก่อน ยิ่งสนับสนุนความเห็นที่อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยให้มีน�้าหนักขึ้น
�
�
�
และคู่กรณีมีหน้าท่กันเงินไว้สาหรับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนคืนแก่ผู้เสนอ อนุญาโตตุลาการช้ขาดให้คู่กรณีชาระเงินจานวน 29,478 บาท
ี
ี
�
ข้อพพาทซ่งเป็นฝ่ายถก กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับให้ แก่ผู้เสนอข้อพิพาทพร้อมดอกเบี้ย และให้ยกค�าร้องของคู่กรณีในส่วน
ึ
ิ
ู
�
ความคุ้มครองผู้ประสบภัยซ่งได้รับบาดเจ็บจานวน 50,000 บาท ของคู่กรณีร่วม
ึ
ู
ซงคู่กรณยงมิได้ชดใช้ค่าสนไหมทดแทนให้แก่ผ้ประสบภยจนเตม
็
ึ
่
ั
ี
ั
ิ
ความคุ้มครองกรมธรรม์
วารสารประกันภัย กรกฎาคม - กันยายน 2561 35