Page 33 - InsuranceJournal140
P. 33
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ 8518/2555
โจทก์ นางพเยาว์ อินทร์วาด กับพวก
จ�าเลย บริษัท ว.ประกันภัย จ�ากัด ฎีกาย่อ
ป.พ.พ. มาตรา 861
พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 5, 7 วรรคสอง
ี
ี
ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ 11 (พ.ศ. 2540) ท่ออกตาม จ�าเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ความใน พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ข้อ 3 มีข้อความ ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จ�าเลยช�าระเงิน 80,000 บาท พร้อม
ี
ี
่
ี
ว่า ในกรณีท่ผู้ประสบภัยเป็นผู้ขับข่และผู้ขับข่ท่ประสบภัยเป็นฝ่ายท ดอกเบ้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันท่ 16 สิงหาคม
ี
ี
ี
ี
่
ี
ี
ต้องรับผิดตามกฎหมาย หรือไม่มีผู้ใดรับผิดตามกฎหมายต่อผู้ขับข่ท 2544) เป็นต้นไปจนกว่าจะช�าระเสร็จแก่โจทก์ทั้งห้า กับให้จ�าเลยใช้ค่า
�
ประสบภัย จานวนเงินเอาประกันภัยให้ลดลงเป็นจานวนเงินค่าเสียหาย ฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งห้าโดยก�าหนดค่าทนายความ 4,000 บาท
�
�
ื
ี
เบ้องต้นตามท่กาหนดในกฎกระทรวง และในกรมธรรม์คุ้มครอง
ผู้ประสบภัยจากรถ ข้อ 2.3 มีข้อความว่า กรณีผู้ประสบภัยเป็นผู้ขับขี่ จ�าเลยอุทธรณ์
ี
ั
ี
�
รถคันท่เอาประกันภัยและเป็นฝ่ายท่ต้องรับผิดต่ออุบัติเหตุหรือไม่มีผู้ใด ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จาเลยใช้ค่าทนายความในช้น
ี
ี
ต้องรับผิดตามกฎหมายต่อผู้ขับข่ท่เป็นผู้ประสบภัย บริษัทจะรับผิดจ่าย อุทธรณ์ 2,000 บาท แทนโจทก์
ื
ั
ค่าสินไหมทดแทนไม่เกินค่าเสียหายเบ้องต้นเท่าน้น... ข้อความใน
กฎกระทรวงและในกรมธรรม์ดังกล่าว จึงเป็นกรณีท่ผู้ประสบภัยเป็น จ�าเลยฎีกา
ี
ผู้ขับข่และผู้ประสบภัยน้นเองเป็นฝ่ายต้องรับผิดตามกฎหมายใน ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริง
ั
ี
ี
อุบัติเหตุท่เกิดข้นหรือไม่มีฝ่ายใดต้องรับผิดตามกฎหมาย เม่อข้อเท็จจริง ท่คู่ความมิได้โต้เถียงกันในช้นน้รับฟังเป็นยุติได้ว่า โจทก์ท้งห้าเป็น
ึ
ื
ี
ี
ั
ั
รับฟังยุติว่า ผู้ตายซึ่งเป็นผู้ประสบภัยและเป็นผู้ขับขี่มิได้เป็นฝ่ายที่ต้อง ทายาทของนายบัว ผู้ตาย ผู้ตายเป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ หมายเลข
รับผิดและมีผู้ต้องรับผิดต่อผู้ตายตามกฎหมายแล้ว เพียงแต่เจ้าพนักงาน ทะเบียน กรุงเทพมหานคร 3 ฟ - 4725 ผู้ตายเอาประกันภัยคุ้มครอง
�
�
ี
�
ตารวจยังไม่สามารถติดตามผู้ท่ต้องรับผิดมาดาเนินคดีตามกฎหมายได้ ผู้ประสบภัยจากรถจักรยานยนต์ดังกล่าวไว้กับจาเลย ระยะเวลาประกัน
่
ิ
่
ั
เทานน จงไมใชกรณทไมมฝายใดทตองรบผดตามกฎหมายตอผประสบภย 1 ปี นับแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2543 ถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2544
้
่
ู
ี
ั
้
่
่
่
ี
่
ึ
ี
ั
ี
่
้
ั
ื
ี
ื
ท้งไม่อาจตีความข้อความตามเง่อนไขในกรมธรรม์ดังกล่าวให้ ตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เม่อวันท่ 24 กุมภาพันธ์ 2544
หมายความรวมถึงกรณียังไม่อาจติดตามผู้ต้องรับผิดมาได้ เน่องจาก เวลาประมาณ 21 นาฬิกา ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์ที่เอาประกันภัยไว้
ื
�
ข้อความดังกล่าวมีความชัดเจนอยู่ในตัวแล้วว่าจะต้องไม่มีผู้ท่ต้องรับผิด กับจาเลยมาตามถนนกรุงเทพฯ - นนทบุรี แล้วเกิดอุบัติเหตุถูกรถ
ี
�
ตามกฎหมายเท่าน้น จาเลยในฐานะผู้รับประกันภัยจึงต้องรับผิดใช้ โดยสารประจาทางและรถยนต์แท็กซ่เฉ่ยวชนเป็นเหตุให้ผู้ตายได้รับ
ี
�
ั
ี
ี
ค่าสินไหมทดแทนเต็มจานวนท่คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถกรณีเสียชีวิต บาดเจ็บและถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา โดยเหตุดังกล่าวเกิดจากความ
�
ี
ตามกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ประมาทของผู้ขับรถโดยสารประจาทางและผู้ขับรถยนต์แท็กซ่ ภายหลัง
�
�
�
เกิดเหตุโจทก์ท่ 1 ขอรับค่าสินไหมทดแทนจากจาเลยตามจานวนเงิน
ี
โจทก์ทั้งห้าฟ้องขอให้บังคับจ�าเลยช�าระเงิน 85,621.91 บาท คุ้มครองสูงสุดท่ระบุไว้ในกรมธรรม์คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ กรณ ี
ี
พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ของต้นเงิน 80,000 บาท นับแต่ เสียชีวิตจ�านวน 80,000 บาท แต่จ�าเลยอ้างว่า จ�าเลยต้องจ่ายเพียงค่า
วันถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะช�าระเสร็จแก่โจทก์ สินไหมทดแทนไม่เกินค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นค่ารักษาพยาบาลจ�านวน
6,994 บาท กับกรณีเสียชีวิตจ�านวน 15,000 บาท เท่านั้น
วารสารประกันภัย กรกฎาคม - กันยายน 2561 33