Page 8 - InsuranceJournal146
P. 8
เรื่องเด่น
คาดการณ์ว่ายอดจ�าหน่ายรถยนต์ในประเทศอาจลดลงถึง 50% เหลือเพียง 500,000 คัน ซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจประกันภัยรถยนต์
อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ส�านักงาน คปภ. ได้ท�าการปรับเพิ่มความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตของการประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับจาก 300,000 บาท
�
ั
�
่
ี
ิ
ิ
ั
เป็น 500,000 บาท โดยไม่มีการเพ่มเบ้ยประกันภัย อีกท้งยังปรับเพ่มความคุ้มครองข้นตากรณีเสียชีวิตสาหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
ภาคสมัครใจเป็น 500,000 บาท โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 เมษายน 2563 ซึ่งแม้ว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนเป็นอย่างมาก แต่คาดว่า
บริษัทประกันภัยก็จะเริ่มทยอยปรับเพิ่มเบี้ยประกันภัยเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้นด้วย จะเห็นได้ว่าปี 2563 เป็นปีที่น่าจับตามองว่า
ธุรกิจประกันภัยรถยนต์จะมีอัตราการเติบโตของเบ้ยประกันภัยติดลบเป็นปีแรกหรือไม่ บริษัทประกันภัยจะมีกลยุทธ์ใดนามาพลิกแพลงให้เข้ากับ
�
ี
สถานการณ์เศรษฐกิจที่ย�่าแย่และยอดจ�าหน่ายรถยนต์ที่คาดว่าจะลดลงอย่างมาก
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ในอดีตท่ผ่านมาผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นส่วนหน่งท่ช่วยเยียวยาผลขาดทุนจากการรับประกันภัยสาหรับหลายบริษัท นอกจากน ี ้
�
ี
ึ
ี
�
ื
ิ
�
ี
ี
ยังเป็นตัวช่วยเพ่มกาไรให้กับบริษัทประกันภัยท่มีกาไรจากการรับประกันภัยอยู่แล้ว แต่จากการปรับลดอัตราดอกเบ้ยนโยบายอย่างต่อเน่อง
โดยเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ลดลงจาก 1.25% มาอยู่ที่ 1.00% ต่อปี วันที่ 25 มีนาคม 2563 ปรับลดเป็น 0.75% ต่อปี และมีมติให้ปรับ
ลดลงอีกคร้งเม่อวันท่ 20 พฤษภาคม 2563 เป็น 0.5% ต่อปี ซ่งตาสุดเป็นประวัติศาสตร์ บริษัทประกันภัยคงต้องพิจารณาอย่างถ่ถ้วนว่าจะปรับปรุง
ื
�
่
ี
ึ
ั
ี
นโยบายการลงทุนอย่างไร ในขณะที่ตลาดทุน เช่น หุ้น หน่วยลงทุน ก็ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและโรค COVID-19 เช่นกัน และคงเป็น
ื
ิ
เร่องยากข้นท่จะคาดหวังให้ผลตอบแทนจากการลงทุนมาชดเชยผลขาดทุนจากการรับประกันภัย บริษัทประกันภัยคงต้องเพ่มประสิทธิภาพและ
ี
ึ
ความแข็งแกร่งในด้านการรับประกันภัยให้มากขึ้น
คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
มีผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้น
�
คาดว่าจะมีการคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ท่ยังไม่เคยมีขายมาก่อน หรือนาเอาผลิตภัณฑ์เดิมท่ขายอยู่แล้วมาปรับเพ่มหรือลดความคุ้มครอง
ิ
ี
ี
ี
ึ
�
ึ
ึ
ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหน่งมากข้น ซ่งจะเป็นการขยายฐานลูกค้าให้กว้างข้นกว่าเดิม ท่สาคัญคือผลิตภัณฑ์
ึ
ื
ี
�
ี
ึ
ท่ทาข้นมาใหม่นั้นต้องดีและโดน สามารถลดความกังวลใจต่อสถานการณ์ความเส่ยงในขณะนั้น ๆ ของผู้ซ้อได้ และสินค้าราคาถูกไม่ใช่ปัจจัยเดียว
ที่ท�าให้ผู้ซื้อตัดสินใจซื้อสินค้านั้นอีกต่อไป
ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น
ี
�
ในยุคท่มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดังยุคปัจจุบัน บริษัทประกันภัยคงจะต้องปรับตัวโดยนาเอาเทคโนโลยีท่มีมาใช้ให้
ี
เกิดประโยชน์ในการท�าธุรกิจให้สูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการซื้อ-ขายกรมธรรม์ออนไลน์ การทดลองติดตั้งอุปกรณ์ในรถยนต์เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรม
ี
ั
ื
ื
การขับข่ของผู้เอาประกันภัย การใช้ Chatbot ในการสนทนากับลูกค้าเบ้องต้นตลอด 24 ช่วโมง เพ่อลดต้นทุนในการจัดสรรกาลังคน การม ี
�
Application เอาไว้ให้ลูกค้าแจ้งเคลมด้วยตัวเอง การใช้ GPS ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ Survey ที่ออกพบลูกค้า และ
ยังมี IoT (Internet of Things) ที่ช่วยศึกษาวิถีชีวิตและการตอบสนองต่อสินค้าและบริการได้ และอื่น ๆ อีกมากมายตามแต่ละบริษัทจะน�ามา
ประยุกต์ใช้ มีทั้งเทคโนโลยีที่ใช้ฟรีและบางครั้งก็มีต้นทุน ซึ่งคงต้องค�านวณถึงความคุ้มค่าในระยะยาวว่าควรลงทุนหรือไม่
8 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 146