Page 124 - InsuranceHandbook
P. 124
บทที่ 8 คนกลางประกันภัย 105
นายหน้าประกันภัยต่อ จะได้รับค่าบำเหน็จประกันภัยต่อจากบริษัทรับประกันภัยต่อที่รับความเสี่ยงภัย แต ่ 3. หน้าที่ของนายหน้าประกันภัย
อัตราค่าบำเหน็จประกันภัยต่อนี้ไม่มีการกำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกจ 1. ให้คำปรึกษาในการจัดสรรกรมธรรม์ประกันภัยที่มีความคุ้มครอง และให้ประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เอาประกันภัย
ิ
ประกันภัย (คปภ.) แต่จะขึ้นอยู่กับข้อตกลงของบริษัทเอาประกันภัยต่อตามประเภทกรมธรรม์ และปัจจัยอื่น ๆ 2. ให้การดูแลต่อรองอัตราค่าเบี้ยประกันภัยในราคาที่เหมาะสมและดีที่สุด
3. ให้คำปรึกษา และดูแลในกรณีที่เกิดความเสียหาย ตลอดจนการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน
สิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่จะซื้อประกันภัยผ่านคนกลาง ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนหรือนายหน้าประกันภัย จะต้องตรวจดูให้ 4. ติดตาม ดูแล ต่อรอง จำนวนการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเมื่อเกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยตลอดจน
มั่นใจว่า คนกลางนั้นมีใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันวินาศภัย หรือใบอนุญาตเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยที่ออกโดย การรับเงินค่าสินไหมทดแทน
ั
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกนภัย (คปภ.) และเป็นใบอนุญาตที่ยังไม่หมดอาย ุ 5. แจ้งข่าวสารในกรณีที่เกิดเหตุความเสียหายในสังคม ซึ่งอาจจะมีผลโดยตรงหรือโดยอ้อมต่อผู้เอาประกันภัย
เท่านั้น 6. คัดสรรบริษัทประกันภัยซึ่ง
6.1 มีความมั่นคงทางการเงิน
2. บทบาทของนายหน้าประกันภัย (The Role of Insurance Broker) 6.2 มีความชำนาญในประเภทกรมธรรม์ประกันภัยนั้น ๆ
็
นายหน้าประกันภัย เป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเรื่องประกันภัยซึ่งเป็นธุรกิจเฉพาะเรื่องการประกันภัยเปน 6.3 มีเครือข่ายในการให้บริการอย่างทั่วถึงและครบวงจร
ั
อย่างดี เช่น ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันภัยประเภทต่าง ๆ อัตราค่าเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม บริษัทประกนภัยที่ 6.4 มประเภทกรมธรรมประกันภัยในความคุ้มครองที่ครบถ้วน เหมาะสม ตามลักษณะธุรกิจของผู้เอาประกันภัย
์
ี
มีความมั่นคงทางการเงินในอุตสาหกรรมประกันภัย และความเสี่ยงภัยต่าง ๆ ที่ผู้เอาประกันภัยจำเป็นต้องทราบ เพราะ 6.5 มีอัตราค่าเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม
สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อภาคธุรกิจประกันภัย และระบบเศรษฐกิจทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ หาก 6.6 มีทีมงานให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ภาคธุรกิจไม่ได้รับความคุ้มครองต่อความเสี่ยงภัยจากการประกันภัยแล้ว การขยายตัวทางเศรษฐกิจกจะไม่สามารถ 6.7 มีความยุติธรรมในการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน
็
เจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นไปอย่างล่าช้า 7. มีความเป็นมืออาชีพ
ี
ดังนั้นบทบาทของนายหน้าประกันภัยจึงมส่วนช่วยธุรกิจ ดังนี้ 7.1 มีความซื่อสัตย์ (Integrity)
1. ส่งเสริมการตลาดแบบสร้างสรรค์ (Innovative marketing) บทบาทนายหน้าประกันภัยทำให้ประชาชน 7.1.1 ต่อลูกค้า เช่น แจ้งเงื่อนไขความคุ้มครองของกรมธรรมประกันภัย ความมั่นคงของ
์
รวมทั้งผู้ประกอบการตระหนักถึงประโยชน์ของการประกันภัยรวมถึงความต้องการของตลาดประกันภัย บริษัทประกันภัย รักษาความลับของลูกค้า
2. ส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลไปยังผู้บริโภค (Dissemination of Information to Customers) นายหน้า 7.1.2 ต่อบริษัทรับประกันภัย เช่น แจ้งลักษณะภัยของผู้เอาประกันภัยตามความเป็นจริง
ประกันภัยจะจัดหาข้อมูลที่สำคัญให้แกผู้เอาประกันภัย ทำหน้าที่เปรียบเสมือน “ฝ่ายจัดซื้อ” เช่น หาความคุ้มครองท ่ ี 7.1.3 ต่ออาชีพ เช่น ศึกษาหาความรู้และพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา
่
จำเป็นสำหรับผู้เอาประกันภัย หาเงื่อนไขและทางเลือกต่าง ๆ รวมถึงอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสม 7.2 มีความรับผิดชอบ (Accountability) ดูแลและให้บริการลูกค้าตลอดอายุกรมธรรม์ประกันภัย
3. ส่งเสริมการเผยแพร่ข้อมูลไปยังตลาดประกันภัย (Dissemination of Information to The Marketplace) 7.3 มีความยุติธรรม (Fairness) ต่อผู้เอาประกันภัย บริษัทประกันภัย และสังคมส่วนรวม
นายหน้าประกันภัยทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลความต้องการของผู้เอาประกันภัยให้แก่บริษัทประกันภัย เพื่อจัดทำสัญญา 7.4 มีความโปร่งใส (Transparency) ตรวจสอบได้โดยผู้สอบบัญชี (Auditor) มีการจัดทำสมุดบัญชีแยก
ประกันภัยที่มีความคุ้มครองที่เหมาะสมตามความจำเป็น และความต้องการของผู้เอาประกันภัย เป็นการช่วยกระตุ้นให้ ประเภทเฉพาะ 2 เล่ม คือ Trust Account และ Non-Trust Account ตามที่ได้อธิบายข้างต้น
เกิดการพัฒนา และขยายตัวของธุรกิจประกันภัยให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
4. ส่งเสริมการแข่งขันที่ดี (Sound Competition) การให้ความรู้การประกันภัยแก่ผู้เอาประกันภัยและ
ประชาชนเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดความต้องการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการผลิตกรมธรรม์ประกนภัยและ
ั
์
ิ
การบริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด สร้างบรรยากาศแห่งการแข่งขันในเชิงสร้างสรรค ส่งเสรม
การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ั
5. ส่งเสริมการกระจายความเสี่ยงภัยให้กับบริษัทประกันภัย (Spread Insurer’s risks) การที่บริษท
รับประกันภัยรับเอาความเสี่ยงด้านประกันภัย (Insurance Risk) จากผู้เอาประกันภัยต่าง ๆ บริษัทจะต้องกระจาย
ความเสี่ยงภัยให้เหมาะสม ไม่มีการกระจุกตัวของภัยใดภัยหนึ่งมากเกินความสามารถในการรับประกันภัย อันจะมีผลต่อ
ความสามารถในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพคล่องของบริษัทประกันภัยเอง นายหน้า
ประกันภัยจะช่วยทำหน้าที่กระจายภัยให้กับบริษัทประกันภัยหลาย ๆ บริษัท และรวมถึงการกระจายความเสี่ยงภัยด้วย
การจัดการประกันภัยต่อตามบทบาทของนายหน้าประกันภัยต่อ
ิ
ั
ํ
้
ิ
ิ
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ั
ิ
์