Page 33 - InsuranceJournal137
P. 33
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ในสภาพเรียบร้อย บริษัทยูเนี่ยน นิฟโก้ จ�ากัด ผู้เอาประกันภัย ได้ว่า เป็นคดีนี้ จึงไม่มีข้อสงสัยว่าคดีนี้อยู่ในอ�านาจศาลทรัพย์สินทางปัญญา
ี
ี
จ้างจ�าเลยท่ 1 เป็นผู้ขนส่งสินค้าของผู้เอาประกันภัยจากท่าเรือกรุงเทพ และการค้าระหว่างประเทศ ท่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้า
ื
ั
ี
ั
ไปยังโรงงานของผู้เอาประกันภัยรวมท้งการยกสินค้าเคร่องอัดฉีด ระหว่างประเทศกลางรับพิจารณาพิพากษาคดีน้มาน้นชอบแล้ว อุทธรณ์
ั
พลาสติกเข้าติดต้งในโรงงาน วันท่ 18 สิงหาคม 2547 จาเลยท่ 1 ของจ�าเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
ี
ี
�
ี
�
ี
ได้ทาการขนสินค้าท่โจทก์รับประกันภัยไว้จากท่าเรือกรุงเทพถึงโรงงาน ปัญหาท่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจาเลยท่ 1 ในข้อต่อไป
�
ี
ิ
ั
ั
ของผู้เอาประกันภย และในการยกสนค้าจากรถยนต์บรรทุกเข้าติดต้ง ว่า จ�าเลยที่ 1 ต้องรับผิดในความเสียหายของสินค้าหรือไม่ โดยในส่วน
�
�
ี
ในโรงงาน จาเลยท่ 1 ได้ตกลงเช่ารถยนต์ฟอร์คลิฟท์ของจาเลยท่ 2 ของจ�าเลยที่ 2 ซึ่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ี
พร้อมพนักงานขับรถ และขณะกาลังยกสินค้าลงจากรถยนต์บรรทุกเพ่อ กลางวนิจฉัยว่าสนค้าเสยหายจากการกระทาด้วยความประมาทเลินเล่อ
ิ
ิ
�
�
ื
ี
ั
�
ยกเข้าติดต้งในโรงงานด้วยความประมาทของพนักงานขับรถของจาเลย ของจ�าเลยที่ 2 ที่จ�าเลยที่ 2 ต้องรับผิด จ�าเลยที่ 2 ไม่อุทธรณ์ คดีในส่วน
ี
�
ท่ 2 ผู้ขับรถฟอร์คลิฟท์ทาให้สินค้าตกลงสู่พ้นได้รับความเสียหาย ของจ�าเลยที่ 2 จึงเป็นอันยุติไปตามค�าพิพากษาดังกล่าว ส่วนความรับ
ื
ื
จานวน 1 เคร่อง ผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้โจทก์ทราบ โจทก์ได้ให้ ผิดของจ�าเลยที่ 1 นั้น จ�าเลยที่ 1 อุทธรณ์ว่า จ�าเลยที่ 1 ว่าจ้างบริษัท
�
�
ี
�
ื
ื
�
�
บริษัท เทคนิคัล อินดิเพนเด้นท์ เซอร์เวย์ จากัด เข้าทาการสารวจ รถเครนและจาเลยท่ 2 เพ่อเคล่อนย้ายสินค้าจากตู้คอนเทนเนอร์เข้าไป
ความเสยหายของสินค้าท้งหมด ต่อมาบริษัท เทคนิคัล อินดิเนเด้นท์ ติดต้งในโรงงานของผู้เอาประกันภัย แต่บริษัทรถเครนและจาเลยท่ 2
ี
ั
ั
�
ี
�
เซอร์เวย์ จากัด ได้รายงานว่าสินค้าได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ทาให้ เดินทางไปถึงจุดที่ตั้งของสินค้าก่อนก�าหนดที่นัดหมายไว้กับจ�าเลยที่ 1
�
อุปกรณ์ภายในและภายนอกได้รับความเสียหายและไม่สามารถซ่อมแซม โดยจ�าเลยที่ 1 ยังเดินทางไปไม่ถึง จ�าเลยที่ 2 ด�าเนินการใช้รถฟอร์ค
ได้ ถือว่าสินค้าเสียหายทั้งหมด วันที่ 16 พฤศจิกายน 2547 โจทก์จึงได้ ลิฟท์ ยกสินค้าออกจากตู้คอนเทนเนอร์โดยจ�าเลยที่ 1 ไม่ได้รู้เห็น การ
จ่ายค่าสินไหมทดแทนความเสียหายของสินค้าแก่ผู้เอาประกันภัย กระท�าของจ�าเลยที่ 2 เป็นการกระท�าโดยพลการนอกเหนือจากการว่า
เป็นเงิน 2,531,093 บาท หลังจากนั้น โจทก์ได้น�าซากสินค้าที่เสียหาย จ้างของจ�าเลยที่ 1 จ�าเลยที่ 1 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจ�าเลยที่ 2 ด้วย
ออกประมูลขาย ได้เงินสุทธิ 289,719.63 บาท นั้น เห็นว่า จ�าเลยที่ 1 ท�าสัญญารับจ้างจากผู้เอาประกันภัยจัดการน�า
ี
ิ
ิ
ุ
ุ
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจ�าเลยที่ 1 ในข้อแรกว่า สินค้าออกจากท่าเรอกรงเทพ ผ่านพธศลกากรและขนส่งสนค้าจาก
ื
คดีน้อยู่ในอานาจศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ท่าเรือกรุงเทพไปยังโรงงานของผู้เอาประกันภัยรวมท้งการเคล่อนย้าย
ั
ี
ื
�
หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้มีมูลเหตุมาจากการที่บริษัท ยูเนี่ยน นิฟโก้ จ�ากัด เครื่องจักรดังกล่าวไปติดตั้งในโรงงานของผู้เอาประกันภัย โดยจ�าเลยที่
ี
ื
ื
ั
ประเทศไทย ส่งซ้อเคร่องอัดฉีดพลาสติกจากประเทศญ่ปุ่น สินค้าถูก 1 เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้เอาประกันภัยจ�านวน 53,594.50 บาท ตาม
้
ี
ขนส่งทางทะเลโดยเรือซัสสุกิจากท่าเรือเมืองโยโกฮาม่าถึงท่าเรือกรุงเทพ ใบแจ้งหน แม้ใบแจ้งหนดงกล่าวจะระบรายละเอยดของค่าใช้จ่ายแต่ละ
ุ
ี
ั
้
ี
และผู้ซ้อได้เอาประกันภัยเป็นสัญญาเดียวครอบคลุมความเสียหายหรือ รายการว่ามีจานวนเท่าใด เช่น ค่าขนส่ง 5,000 บาท ค่าดาเนินพิธ ี
�
�
ื
ึ
ู
สญหายของสนค้าในระหว่างการขนส่งจากโรงงานของผ้ขายจนถง ศุลกากร 7,000 บาท ค่ารถฟอร์คลิฟท์ 8,000 บาท ค่ารถเครน 8,000
ิ
ู
โรงงานของผู้ซื้อไว้กับโจทก์ เมื่อสินค้าเดินทางมาถึงท่าเรือกรุงเทพผู้ซื้อ บาท ค่าบริการ 1,000 บาท เป็นต้น ก็เป็นเรื่องของจ�าเลยที่ 1 ผู้รับจ้าง
ได้ว่าจ้างจาเลยท่ 1 ให้ขนส่งสินค้าดังกล่าวจากท่าเรือกรุงเทพไปยัง แสดงให้ผู้ว่าจ้างทราบว่าจานวนเงินค่าว่าจ้างท่จาเลยท่ 1 เรียกเก็บจาก
ี
�
ี
�
�
ี
ั
ื
ั
ื
ี
�
โรงงานของผู้ซ้อรวมท้งติดต้งเคร่องจักรดังกล่าว กระบวนการขนส่ง ผู้ว่าจ้างมีความสอดคล้องเหมาะสมกับงานท่ว่าจ้าง ซ่งจาเลยท่ 1 รับผิด
ึ
ี
�
ื
�
สินค้าจากท่าเรือกรุงเทพไปยังโรงงานของผู้ซ้อจึงเป็นส่วนหน่งของการ ชอบดาเนินการให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามสัญญาว่าจ้าง การท่จาเลยท ่ ี
ึ
ี
ิ
�
�
ี
์
์
ี
ิ
�
ิ
่
ขนส่งระหว่างประเทศ จาเลยท่ 1 ให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิประกอบ 1 ไปตดตอเชารถฟอรคลฟทจากจาเลยท 2 มาดาเนนการในสวนของ
่
่
่
�
�
ื
ี
ื
กิจการประกันภัยในราชอาณาจักรไทย จึงมีประเด็นข้อพิพาทท่ต้อง การเคล่อนย้ายและติดต้งเคร่องจักร จาเลยท่ 2 มิได้ทาการขนส่ง
ี
ั
วินิจฉัยว่าโจทก์เป็นผู้รับประกันภัยทางทะเลโดยรับประกันภัยสินค้า เครื่องจักรแม้เพียงช่วงใดช่วงหนึ่ง จึงไม่อาจถือได้ว่าจ�าเลยที่ 2 เป็นผู้
ั
ี
ี
ื
ตลอดเส้นทางการขนส่งต้งแต่โรงงานของผู้ขายท่ประเทศญ่ปุ่นจนกว่า ขนส่งอ่นดังท่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
ี
ื
ื
ี
สินค้าจะถูกส่งถึงมือผู้ซ้อท่โรงงานของผู้ซ้อในประเทศไทยหรือไม่ เม่อ วินิจฉัย แต่ถือว่าจ�าเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของจ�าเลยที่ 1 ในการด�าเนิน
ื
ิ
ความเสยหายของสนค้าเกดขนในระหว่างการขนส่งทางบกก่อนสนค้า การขนย้ายและติดต้งเคร่องจักร เม่อจาเลยท่ 2 กระทาการดังกล่าวด้วย
ิ
ี
�
ิ
ั
้
ึ
�
ื
ื
ี
ื
ื
ื
ื
จะถูกส่งถึงมือผู้ซ้อ โจทก์จึงต้องรับผิดชอบในความเสียหายของสินค้า ความประมาท เป็นเหตุให้เคร่องจักร 1 เคร่อง ตกกระแทกพ้นได้รับ
ดังกล่าวตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ และโจทก์ได้จ่ายค่า ความเสียหาย จ�าเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดกับจ�าเลยที่ 2 ตามประมวล
สินไหมทดแทนความเสียหายของสินค้าให้แก่ผู้เอาประกันภัยไป โจทก์ กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 616
ี
จะเข้ารับช่วงสิทธิเรียกร้องเอาเงินจ�านวนดังกล่าวคืนจากผู้ที่ต้องรับผิด ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจาเลยท่ 1 ในข้อสุดท้าย
�
ิ
ั
�
ในความเสียหายดังกล่าวได้หรือไม่ ดังน้น การท่โจทก์ใช้สทธิเรียกร้อง ว่า ความเสียหายของสินค้ามีเพียงใด โจทก์มีนายขจร ผู้สารวจความเสีย
ี
�
ฟ้องจาเลยท้งสองในฐานะร่วมกันขนส่งสินค้าแล้วทาให้สินค้าเสียหาย หายของบริษัทเทคนิคัล อินดิเพนเด้นท์ เซอร์เวย์ จ�ากัด เป็นพยานเบิก
�
ั
วารสารประกันภัย เดือนตุลาคม - ธันวาคม 2560 33