Page 32 - InsuranceJournal137

ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ

ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ 3723/2555
โจทก์ บริษัท ม. อินชัวรันซ์ จ�ากัด ฎีกาย่อ
จ�าเลย บริษัท โปรแอคทีฟ โลจิสติกส์ จ�ากัด กับพวก
ป.พ.พ. มาตรา 616

ั
ื
ื
คดีน้มีมูลเหตุจากการท่บริษัท ย. ในประเทศไทย ส่งซ้อเคร่อง รถฟอร์คลิฟท์จากจ�าเลยที่ 2 มาด�าเนินการในส่วนของการเคลื่อนย้าย
ี
ี
�
ื
ั
ี
ี
ั
ี
ื
�
อดฉดพลาสติกจากประเทศญ่ปุ่น สินค้าถูกขนส่งทางทะเลจากท่าเรือเมือง และติดต้งเคร่องจักร จาเลยท่ 2 มิได้ทาการขนส่งเคร่องจักรแม้เพียง
่
โยโกฮามาถึงท่าเรือกรุงเทพ และผู้ซ้อได้เอาประกันภัยความเสียหายหรือ ช่วงใดช่วงหนึ่ง จึงไม่อาจถือได้ว่าจ�าเลยที่ 2 เป็นผู้ขนส่งอื่น แต่ถือว่า
ื
ู
ู
สญหายของสนค้าในระหว่างการขนส่งจากโรงงานของผ้ขายจนถง จ�าเลยที่ 2 เป็นตัวแทนของจ�าเลยที่ 1 ในการด�าเนินการขนย้ายและติด
ิ
ึ
ื
ื
ื
โรงงานของผู้ซ้อไว้กับโจทก์ เม่อสินค้าเดินทางมาถึงท่าเรือกรุงเทพ ผู้ซ้อ ตั้งเครื่องจักร จ�าเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดกับจ�าเลยที่ 2 ตาม ป.พ.พ.
�
ี
ว่าจ้างจาเลยท่ 1 ให้ขนส่งสินค้าดังกล่าวจากท่าเรือกรุงเทพไปยังโรงงาน มาตรา 616
ของผู้ซื้อรวมทั้งติดตั้งเครื่องจักรดังกล่าว กระบวนการขนส่งสินค้าจาก โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจาเลยท้งสองร่วมกันชาระเงินจานวน
ั
�
�
�
ึ
ื
ท่าเรือกรุงเทพไปยังโรงงานของผู้ซ้อจึงเป็นส่วนหน่งของการขนส่ง 2,364,802.41 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้น
�
ี
ระหว่างประเทศ จาเลยท่ 1 ให้การต่อสู้ว่าโจทก์ไม่มีสิทธิประกอบกิจการ เงิน 2,241,373.37 บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะช�าระ
่
้
ประกันภัยในราชอาณาจักรไทย จึงมีประเด็นขอพิพาทที่ตองวินิจฉัยวา เสร็จแก่โจทก์
้
โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยทางทะเลโดยรับประกันภัยสินค้าตลอด จ�าเลยที่ 1 ให้การขอให้ยกฟ้อง
่
ี
ุ
่
ู
ิ
ี
้
ั
เส้นทางการขนส่งตงแต่โรงงานของผ้ขายทประเทศญป่นจนกว่าสนค้า จ�าเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นค�าให้การ
ื
ื
จะถึงโรงงานของผู้ซ้อในประเทศไทยหรือไม่ เม่อความเสียหายของสินค้า ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
ั
ื
ึ
เกิดข้นในระหว่างการขนส่งทางบกก่อนสินค้าจะถูกส่งถึงมือผู้ซ้อ โจทก์ พิจารณาแล้ว พิพากษาให้จาเลยท้งสองร่วมกันชาระเงินจานวน
�
�
�
จึงต้องรับผิดชอบในความเสียหายของสินค้าดังกล่าวตามเง่อนไขใน 2,218,585.63 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้น
ื
กรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ และโจทก์ได้จ่ายค่าสินไหมทดแทน เงินจานวนดังกล่าวนับแต่วนท่ 16 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไปจนกว่า
ี
�
ั
ความเสยหายของสนคาให้แก่ผู้เอาประกันภัยไป โจทก์จะเข้ารับช่วงสิทธ จะชาระเสร็จให้แก่โจทก์ ให้จาเลยท้งสองใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
ี
้
ั
ิ
�
ิ
�
ี
เรยกร้องเอาเงนจานวนดงกลาวคืนจากผู้ท่ต้องรับผิดในความเสยหาย โดยก�าหนดค่าทนายความ 15,000 บาท
ิ
่
�
ี
ี
ั
ดังกล่าวได้หรือไม่ ดังนั้น การที่โจทก์ใช้สิทธิเรียกร้องฟ้องจ�าเลยทั้งสอง จ�าเลยที่ 1 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ในฐานะร่วมกันขนส่งสินค้าแล้วทาให้สนค้าเสียหายเป็นคดีน ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่าง
ี
้
�
ิ
ี
ื
�
ี
ื
จึงไม่มีข้อสงสัยว่าคดีน้อยู่ในอานาจศาลทรัพย์สินทางปัญญาและ ประเทศวินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงเบ้องต้นฟังได้ว่า เม่อวันท่ 2 สิงหาคม 2547
�
การค้าระหว่างประเทศ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่าง โจทก์ได้รับประกันภัยสินค้าของบริษัท ยูเน่ยน นิฟโก้ จากัด ผู้เอา
ี
ี
ี
ื
ื
ั
ั
ประเทศกลางรับพิจารณาพิพากษาคดีชอบแล้ว ประกนภย ท่ส่งซ้อสินค้าเคร่องอัดฉดพลาสติกจากบริษัทใน
ั
�
จาเลยท่ 1 ทาสัญญารับจ้างจากผู้เอาประกันภัยจัดการนา ประเทศญี่ปุ่น จ�านวน 3 เครื่อง เป็นเงิน 17,745,000 เยน โจทก์ได้รับ
ี
�
�
ี
ื
ิ
ุ
ี
ุ
สินค้าออกจากท่าเรอกรงเทพ ผ่านพธศลกากรและขนส่งสนค้าจาก ประกันภัยในภัยพิบัติท้งปวงของสินค้าจากประเทศญ่ปุ่นถึงโรงงาน
ิ
ั
ั
ท่าเรือกรุงเทพไปยังโรงงานของผู้เอาประกันภัยรวมท้งการเคล่อนย้าย ของผู้เอาประกันภัยในวงเงิน 19,520,000 เยน ตามกรมธรรม์ สินค้า
ื
เคร่องจักรดังกล่าวไปติดต้งในโรงงานของผู้เอาประกันภัยโดยจาเลยท บริษัท ยูเน่ยน นิฟโก้ จากัด ท่โจทก์รับประกันภัยได้ขนส่งทางทะเล
ื
�
ี
่
ี
�
ี
ั
ื
1 เรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้เอาประกันภัย การที่จ�าเลยที่ 1 ไปติดต่อเช่า โดยเรอซสสก จากเมองโยโกฮาม่า ประเทศญป่น ถงท่าเรอกรงเทพ
ุ
ึ
ุ
ั
ื
ิ
ี
ุ
ื
่
32 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 137