Page 8 - InsuranceJournal130
P. 8
วิชาการ IPRB
ประเทศสหรัฐอเมริกาเร่มต้นใช้ UBI มาแล้วประมาณสิบปี
ิ
เช่น บริษัท Progressive Insurance และบริษัท General Motors
Assurance (GMAC) เร่มต้นด้วยการให้ส่วนลดตามระยะทางไมล์
ิ
ซ่งเก็บข้อมูลระยะทางไมล์จากการผสมผสานเทคโนโลยี GPS และ
ึ
ระบบเซลลูลาร์ (cellular systems) นอกจากนี้ UBI ยังให้ประโยชน์
ในด้านอื่น ๆ เช่น การค้นหาพาหนะที่ถูกขโมยให้กลับคืนมา และไม่ใช่
เพียงใช้ข้อมูลระยะทางไมล์ แต่ยังใช้ข้อมูลลักษณะการขับข่รถว่าเป็น
ี
ื
อย่างไรและเม่อไรจึงมีการขับรถ เป็นผลให้มีแนวคิดของการใช้ UBI
ี
ท่หลากหลายแบบ เช่น จ่ายเบ้ยตามการขับรถ (Pay-as-You-Drive : PAYD)
ี
จ่ายเบ้ยตามวิธีการขับรถ (Pay-How-You-Drive : PHYD) จ่ายเบ้ยตาม
ี
ี
ที่มาภาพ: www.confused.com
ระยะทางหรือลักษณะทางที่ขับรถ (Pay-as-You-Go : PAYG) เป็นต้น
การคิดค่าเบี้ยประกันภัย
การคิดค่าเบี้ยประกันภัยของ UBI แตกต่างจากการคิดค่าเบี้ยประกันภัยโดยทั่วไป ปกติการคิดค่าเบี้ยประกันภัยขึ้นอยู่กับผลการศึกษา
ของข้อมูลที่ผ่านมาและสร้างปัจจัยตามข้อมูลที่เก็บได้ เช่น ประวัติการขับขี่ (เคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์หรือไม่ ความรุนแรงของอุบัติเหตุ)
ี
ข้อมูลส่วนบุคคล (อายุ เพศ และสถานภาพ) ประเภทพาหนะ สถานท่อยู่อาศัย การใช้พาหนะ การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนท่ผ่านมา
ี
ขอบเขตความรับผิด และการรับผิดส่วนแรก เป็นต้น ซึ่งส่วนลดของการคิดเบี้ยประกันภัยโดยทั่วไปมักถูกจ�ากัดด้วยการคิดตามประเภทพาหนะ
ประเภทประกันภัย การทาประกันภัยบริษัทเดิม มีเคร่องมือป้องกันภายในรถ เช่น ถุงลมนิรภัย การขับรถเป็นช่วงเวลา และการขับรถเฉพาะไป-กลับ
ื
�
ระหว่างบ้านและที่ท�างาน เป็นต้น
ี
ี
ั
�
ึ
ี
ผู้เอาประกันภัยส่วนใหญ่คิดว่าเบ้ยประกันภัยโดยท่วไปเป็นค่าตายตัวท่ประเมินทุกปีและจ่ายตามท่คิดประจาทุกปี ทุกคร่งปี ทุกไตรมาส
อย่างไรก็ตาม มีการศึกษาท่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน ค่าความเสียหาย (loss cost) และระยะทางไมล์ โดย
ี
เฉพาะปัจจัยการคิดอัตราเบี้ยประกันภัย (เช่น ประเภทความคุ้มครองและพื้นที่ที่เกิดเหตุ) ดังนั้น หลายโปรแกรมของ UBI จะคิดค่าเบี้ยประกัน
ั
ิ
ั
ั
่
้
ี
่
ี
ั
้
่
ั
ั
ั
้
ั
ื
ภยจากระยะทางไมล์ โดยผสมตวแปรปัจจยอน ๆ ทเป็นปัจจยคดเบยประกนภยโดยทวไปจากทกล่าวไปในเบองต้นเข้าไว้ด้วย UBI นน
ื
ี
่
ี
มีประโยชน์ท่สามารถใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการขับข่ในปัจจุบัน มากกว่าจะใช้ข้อมูลทางสถิติและข้อมูลการขับข่ท่มาจากเหตุการณ์และ
ี
ี
ี
แนวโน้มในอดีต ท�าให้การค�านวณค่าเบี้ยประกันภัยมีราคาตามเฉพาะบุคคลและมีความแม่นย�ามากขึ้น
ประโยชน์จากการใช้ UBI
ี
โปรแกรม UBI ให้ประโยชน์มากมายแก่บริษัทประกันภัย ผู้บริโภค (ผู้เอาประกันภัย) และสังคม โดยการคิดค่าเบ้ยประกันภัยท่ใกล้เคียง
ี
ี
ี
ึ
กับความเป็นจริงในการขับข่หรือตามสมรรถนะรถยนต์ของแต่ละคน และทาให้บริษัทประกันภัยประเมินราคาเบ้ยประกันภัยได้แม่นยามากข้น
�
�
ี
ี
่
ี
ซ่งเป็นผลดีต่อผู้เอาประกันภัยท่มีประวัติการขับรถดีมีความเส่ยงตา และยังทาให้ผู้เอาประกันภัยสามารถควบคุมราคาเบ้ยประกันภัย
�
ึ
�
�
ี
ด้วยการลดระยะทางไมล์ของการขับข่และยังปรับนิสัยการขับข่ให้เพ่มความปลอดภัย นาไปสู่การลดอุบัติเหตุ ปัญหารถติด และการปล่อย
ิ
ี
ควันเสียของรถยนต์ ซึ่งนับเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ั
การใช้ UBI น้นช่วยบริษัทประกันภัยประเมินความเส่ยงและปรับราคาเบ้ยประกันภัยได้เหมาะสมย่งข้น เพราะสามารถเก็บข้อมูล
ี
ี
ิ
ึ
ี
พฤติกรรมการขับข่เพ่อคาดการณ์ความเส่ยงท่น่าจะเกิดข้น ทาให้ฝ่ายรับประกันภัยสามารถแบ่งกลุ่มผู้ขับข่ตามความเส่ยง ฝ่ายรับประกันภัย
ึ
ี
ี
�
ี
ื
ี
สามารถเสนออัตราเบี้ยประกันภัย ค่ารับผิดส่วนแรก และความคุ้มครองเพิ่มเติมได้เหมาะสมตามกลุ่มความเสี่ยง นอกจากนี้ ยังสามารถประเมิน
8 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 130