Page 110 - InsuranceHandbook
P. 110
บทที่ 6 เอกสารที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัย 91
ึ
่
2) แบบสรรพภัย (All Risks Basis) กรมธรรม์ประกันภัยจะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขน 4) การยกเว้นทรัพย์สิน (Excluded Properties) เช่น กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยไม่คุ้มครองเงินแทง
้
ื
ซึ่งมิได้มีการระบุยกเว้นไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย ซึ่งหมายความว่า ถ้าหากเป็นความเสียหายจากภัยที่ไม่ได้ระบ ุ หรือเงินรูปพรรณ หรือทองคำแท่ง หรือทองรูปพรรณ หรออัญมณี ต้นฉบับหรือสำเนาเอกสาร แบบแปลน แผนผง
ั
ยกเว้นไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยก็จะได้รับการคุ้มครองโดยอัตโนมัติ เช่น กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัย ภาพเขียน รูปออกแบบ ลวดลาย แบบหรือแบบพิมพ์ หรือแม่พิมพ์ เป็นต้น
ั
ทรัพย์สิน 2.2.5 เงื่อนไขทั่วไป (General Conditions) ได้แก่รายละเอียดเกี่ยวกับสทธิ หน้าที่ของผู้เอาประกนภัย
ิ
และผู้รับประกันภัย ตลอดจนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งคู่สัญญาจะต้องปฏิบัติในระหว่างที่สัญญามีผลบังคับ ซึ่งแบ่งออก
ได้ดังนี้
1) หน้าที่ของผู้เอาประกันภัย เช่น การแถลงข้อความจริงที่เป็นสาระสำคัญก่อนทำสัญญาประกันภัย
้
การชำระเบี้ยประกันภัยภายในระยะเวลาที่กำหนด การแจ้งให้บริษัททราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในภัยที่ได
เอาประกันภัยไว้ การแจ้งการเกิดอุบัติเหตุหรือวินาศภัยให้บริษัททราบโดยไม่ชักช้า การส่งมอบหลักฐานและ
เอกสารตามที่ระบุไว้ให้บริษัทภายในระยะเวลาที่กำหนด การดูแลทรัพย์สินที่เอาประกันภัยที่ได้รับความเสียหาย
และการป้องกันความเสียหายอันอาจเพิ่มขึ้น เป็นต้น
2) หน้าที่ของผู้รับประกันภัย เช่น การเข้าต่อสู้คดีในนามของผู้เอาประกันภัยกรณีถูกคู่กรณีฟ้องศาล
่
เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนซึ่งมีการคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก
ผู้เอาประกันภัยภายในระยะเวลาที่กำหนดนับแต่วันที่บริษัทได้รับหลักฐานแสดงความเสียหายที่ครบถ้วนและ
ถูกต้องแล้ว เป็นต้น
3) สิทธิการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยของผู้เอาประกันภัยโดยไม่ต้องบอกล่วงหน้า เช่น
ั
ผู้เอาประกันภัยไม่พึงพอใจในบริการ ได้ขายทรัพย์สินที่เอาประกันภัย หรือได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าจากบริษท
ประกันภัยอื่น
4) สิทธิการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเฉพาะรายของผู้รับประกันภัยซึ่งจะต้องบอกกล่าวล่วงหนา
้
ู
รูปภาพที่ 6-2 ความคุ้มครองแบบสรรพภัย (All Risks Basis) อย่างน้อย 15 – 30 วัน เช่น ผู้เอาประกันภัยมีการกระทำฉ้อฉล มีอัตราการเคลมสูงกว่าอัตราปกติมาก ให้ข้อมล
หรือเอกสารที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง สิทธิการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยของผู้รับประกันภัยสำหรับกลุ่มของ
หากเปรียบเทียบความคุ้มครองทั้ง 2 แบบแล้ว จะเห็นได้ว่าความคุ้มครองแบบสรรพภัยกว้างกว่า ผู้เอาประกันภัยในกรณีที่ภาพรวมและปัจจัยความเสี่ยงเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ซึ่งมักเกิดสำหรับเหตุการณ์ที่เปน
็
ความคุ้มครองแบบระบุภัย มหันตภัยหรือความเสี่ยงอุบัติใหม่ (Emerging Risk)
ิ
2.2.4 ข้อยกเว้น (Exclusions) เป็นข้อความที่ผู้รับประกันภัยระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยว่าจะไม ่ 5) หลักเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น การประกันภัยทรัพย์สินต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง การร่วมเฉลี่ยความรับผด
์
คุ้มครองภัยหรอเหตุแห่งภัยบางอย่าง วัตถุบางชนิด หรือเหตุการณบางอย่าง โดยสามารถจำแนกข้อยกเว้นออกได ้ การรับช่วงสิทธิ การระงับข้อพิพาทโดยอนุญาโตตุลาการ เป็นต้น
ื
เป็น 4 ประเภท คือ 2.2.6 ตารางกรมธรรม์ (Schedule) เป็นส่วนหน่งของกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุรายละเอียดต่าง ๆ เช่น
ึ
ุ้
1) การยกเว้นภัย (Excluded Perils) เช่น กรมธรรม์ประกันอัคคีภัยไม่คมครองความเสียหายซึ่งเกิดขึ้น ชื่อและที่อยู่ของผู้เอาประกันภัย ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย สถานที่ตั้งของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย ระยะเวลา
จากสงคราม การรุกราน การกระทำที่มุ่งร้ายของศัตรูต่างชาติ หรือการกระทำที่มุ่งร้ายคล้ายสงคราม ไม่ว่าจะได้ม ี ประกนภัย จำนวนเงินเอาประกันภัย อัตราเบี้ยประกันภัย จำนวนเบี้ยประกันภัยสำหรับภัยแต่ละชนิดความคุ้มครอง
ั
การประกาศสงครามหรือไม่ก็ตาม หรือสงครามกลางเมือง การแข็งข้อ การกบฏ การจลาจล การนัดหยุดงาน เป็นต้น
ึ
การก่อความวุ่นวาย การกระทำของผู้ก่อการร้าย การปฏิวัติ การรัฐประหาร การประกาศกฎอัยการศก 2.2.7 ข้อกำหนดการลงนามประทับตรา (Attestation Clause) เป็นข้อกำหนดในกรมธรรม์ประกันภัย
ั
หรือเหตุการณ์ใด ๆ ซึ่งจะเป็นเหตุให้มีการประกาศหรือคงไว้ซึ่งกฎอัยการศึก ที่แสดงว่าผู้มีอำนาจทำการแทนผู้รับประกันภัยได้ลงนามและประทับตราสำคัญ เพื่อให้สัญญามีผลผูกพนทางนิตินัย
2) การยกเว้นความเสียหาย (Excluded Losses) เช่น กรมธรรม์ประกันภัยรถยนตไม่คุ้มครองความ ซึ่งจะเป็นข้อความตอนท้ายสุดของกรมธรรม์ประกันภัย เพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณของผู้รับประกันภัยที่ต้องการ
์
์
ื
เสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัยจากการเส่อมราคา หรือการสึกหรอของรถยนต์ การแตกหักของเคร่องจักรกลไก ให้สัญญาประกันภัยมีหลักฐานเป็นหนังสือ โดยลงลายมือชื่อของผู้มีอำนาจทำการแทนผู้รับประกันภัยและ
ื
ของรถยนต์ หรือการเสียหรือการหยุดเดินของเครื่องจักรกลไก หรือเครื่องไฟฟ้าของรถยนต์อันมิได้เกิดจากอุบัติเหตุ ประทับตราของผู้รับประกันภัยไว้เป็นสำคัญ และอาจระบุวันออกกรมธรรม์ประกันภัยไว้ด้วย
3) การยกเว้นการใช้งาน (Excluded Uses) เช่น กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ไม่คุ้มครองการใช้รถยนต์ (โปรดดูภาคผนวก 3 ตัวอย่างกรมธรรม์ประกันอัคคีภัย)
นอกอาณาเขตที่คุ้มครอง การใช้รถยนต์ไปในทางที่ผิดกฎหมาย เช่น ใช้รถยนต์ไปปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ หรือใช้ขนยา
เสพติด เป็นต้น 3. เอกสารแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัย (Attachment)
ณ วันเริ่มทำสัญญาประกันภัย ผู้รับประกันภัยอาจจะมีการขยายหรือลดความคุ้มครองบางอย่างตั้งแต่วัน
เริ่มต้นของระยะเวลาประกันภัย เช่น การขยายความคุมครองภัยลมพายุ ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว เข้าไปใน
กรมธรรม์ประกันอัคคีภัย ภัยเหล่านี้เป็นภัยเพิ่มพิเศษ (Extraneous Perils) ซึ่งอยู่นอกเหนือจากเงื่อนไขและ
ความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้รับประกันภัยได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน ซึ่งก็คือเลขาธิการ
ิ
ิ
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ั
้
ํ
ิ
์
ิ
ั