Page 31 - InsuranceHandbook
P. 31
12 คู่มือประกันวินาศภัยไทย
Thai General Insurance Handbook
1.2 ความสูญเสียโดยอ้อมต่อทรัพย์สิน (Indirect Property Loss) เกิดขึ้นเมื่อทรัพย์สินนั้นสูญเสียมูลค่า
ี
เพราะมความเสียหายที่เกี่ยวเนื่องกันต่อทรัพย์สินอื่น เช่น
1.2.1 การเปลี่ยนแปลงในสภาพของทรัพย์สิน (A change in condition of property) ซึ่งไม่ได้
ี
็
ั
รับความเสยหายโดยตรง เช่น ไฟฟ้าลดวงจรในระบบแช่แขงของบริษัทที่ผลิตและจำหน่ายไอศกรีมแห่งหนึ่ง
้
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นโดยตรง คือ ระบบแช่แข็งในห้องเย็นได้รับความเสียหาย แต่ความสูญเสียโดยออมที่เกิดขึ้น
คือ ผลิตภัณฑ์นม และไอศครีมทั้งหมดที่แช่ไว้ละลาย หรือบูดจนกระทั่งรับประทานไม่ได้เนื่องจากมีความเย็นไม่พอ
1.2.2 ความสูญเสียต่อส่วนหนึ่งส่วนใดที่เป็นชุด (Damage to part of a “set”) เมื่อทรัพย์สินชุด
ั
ุ
หนึ่งประกอบด้วยสิ่งต่าง ๆ หลายสิ่งซึ่งจะมีคณค่าต่อเมื่อใช้ร่วมกน เช่น เครื่องจักรกลที่ใช้ในสายการผลิตในโรงงาน
อตสาหกรรม หากมีเครื่องจักรเครื่องหนึ่งเครื่องใดเสียหายแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะใช้เครื่องจักรอน ๆ ที่เหลือในการ
ื่
ุ
ผลิตต่อไปได้ และถ้าหากแยกจำหน่ายเครื่องจักรที่เหลือแต่ละเครื่องก็จะจำหน่ายได้ในราคาที่ต่ำมาก
1.2.3 การรื้ออาคารที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง (Demolition of a severely damaged
ั
building) ในกรณีที่อาคารได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงเนื่องจากอคคีภัย หรือแผ่นดินไหว จนกระทั่งอาคารส่วน
ที่เหลือไม่อยู่ในสภาพปลอดภัยสำหรับการใช้งานไดอกต่อไป เช่น กรณีที่มีไฟไหมอาคารสูงแห่งหนึ่ง ซึ่งเผาผลาญ
้
้
ี
อาคารชั้นล่าง ๆ ไปถึง 90% และจำเป็นต้องรื้อถอนอาคารหลังนี้ทิ้งทั้งหมด ส่วนของอาคารซึ่งเป็นชั้นบน ๆ
ที่เหลืออยู่ 10% ซึ่งไม่ถูกไฟไหม้เสียหาย แต่จำเป็นต้องถูกรื้อถอนไปด้วย จะถือเป็นความสูญเสียโดยอ้อมต่อ
ทรัพย์สิน
์
1.2.4 การสูญเสียการใช้งานของทรพยสิน (Loss of use of property) เช่น ในกรณีที่รถยนต์ที่
ั
ั
่
ื
่
เอาประกนภัยไว้ถูกชนเสียหาย และจำเป็นต้องนำรถเขาอเพอทำการซอมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ทำให้เจ้าของรถ
ู
่
้
คันนั้นสูญเสียประโยชน์จากการใช้งานรถคันนั้น
2. ความเสี่ยงต่อรายได้ เป็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นต่อธุรกิจภายหลังจากที่เกิดวินาศภัยต่อทรัพย์สินจนทำให้
ธุรกิจหยุดชะงัก (Business Interruption) และต้องหยุดดำเนินงานชั่วระยะเวลาหนึ่ง โดยแบ่งเป็น
้
้
2.1 การลดลงของรายได (Decrease in Revenues) เช่น ภายหลังจากที่เกดไฟไหมโรงงาน ทำให้
ิ
้
ไม่สามารถผลิตสินค้าให้ลูกค้าประจำไดตามปกต ลูกค้าจึงหันไปสั่งสินค้าจากผู้ผลิตรายอนแทน หรือในกรณีที่เกิด
่
ื
ิ
ิ
่
ั
โรคระบาดในบริเวณที่โรงงานแหงนนตั้งอยู่ และถูกทางราชการสงให้ปดโรงงานในช่วงทกำลงมโรคระบาดซ่งทำให ้
ึ
ี
่
ี
ั
ั
้
่
ธุรกิจไม่สามารถผลิตสินค้าได้ตามปกติ ทำให้สูญเสียรายได้และกำไรที่ควรจะได้รับ ตลอดจนสูญเสียส่วนแบ่ง
การตลาดไปด้วย
ั
2.2 การเพมขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Increase in Expenses) เช่น ภายหลงจากที่เกิด
ิ่
ไฟไหม้สำนักงาน ธุรกิจจำเป็นต้องไปเช่าสำนักงานอยู่ที่อื่นชั่วคราวในระหว่างการซอมแซม เพื่อให้สามารถประกอบ
่
็
้
ั
ั
่
ื
ธุรกิจได้ตามปกติ โดยจะต้องเสียค่าเช่าในอตราที่ค่อนข้างสูงเนองจากเปนการเช่าระยะสน ตลอดจนการเสียเงิน
ื่
ค่าซ่อมแซมเพิมขึ้นในรูปของค่าล่วงเวลาเพือให้ผู้รับเหมาเร่งทำงานให้เสร็จเร็วขึ้น เพอให้ธุรกิจสามารถเปิด
่
่
ิ
้
่
ดำเนินการได้เร็วขึ้น หรือในกรณีที่เกดไฟไหมโรงงาน ทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าเพือส่งมอบให้แก่ลูกค้าประจำ
้
็
่
ื
รายใหญ่ที่มีคำสั่งซื้อมาล่วงหน้า การที่จะรักษาลูกค้ารายนี้ในระยะยาว ธุรกิจอาจจำเปนต้องไปจางโรงงานอนช่วย
ผลิตสินค้าให้ในราคาสูงกว่าที่ผลิตเองเพื่อที่จะส่งมอบให้แก่ลูกค้ารายนั้นได้ตามปกติ
ิ
่
ั
ี
ธุรกิจหยุดชะงักส่วนมากมักจะเกิดขึ้น ณ สถานที่ตั้งของธุรกิจน้นเอง แตในบางกรณก็อาจจะเกดธุรกิจ
หยุดชะงักขึ้น ณ สถานที่อนและส่งผลกระทบมาถึงธุรกิจ เช่น กรณีของธุรกิจซึ่งเปนโรงงานประกอบรถยนต์ใน
ื่
็
่
ประเทศไทยต้องสั่งซื้อชิ้นส่วนจากผู้ผลิตหลายรายเพือนำมาประกอบเป็นรถยนต์ หากเกิดไฟไหม้ หรือวินาศภัย
่
ี
ี
่
ึ
ขนาดใหญ่ที่โรงงานผลิตเครื่องยนต์ในประเทศญี่ปุ่น ซงเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์เพยงรายเดียวที่ป้อนให้แกโรงงานน้จะ
้
ทำใหโรงงานแห่งนี้ไม่สามารถประกอบรถยนต์ส่งมอบให้แก่ลูกค้าได้ตามปกติ กรณีนี้เรียกว่าธุรกิจหยุดชะงักมี
เงื่อนไข (Contingent Business Interruption)
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ิ
ิ
ํ
้
ั
ิ
ิ
์
ั