Page 76 - InsuranceHandbook
P. 76

บทที่ 5 หลักส�าคัญของสัญญาประกันภัย  57





 คำรับรองในกรมธรรม์ประกันภัย สามารถแยกออกเป็น   3.1 แบบของสัญญาประกันภัยตามการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
                                                                    3
 ั
 2.3.1 คำรับรองโดยชัดแจ้ง หรือคำรับรองเป็นลายลักษณ์อกษร (Express Warranties) เป็นการให้คำมั่น  ในการพิจารณาเกี่ยวกับการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน  เราสามารถจำแนกสญญาประกนภัยออกได้ 4 แบบ
                                                                                            ั
                                                                                   ั
 ของผู้เอาประกันภัยที่ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยว่า จะต้องกระทำหรือไม่กระทำการใด หรือ  คือ
 รับรองว่าสิ่งใดมีอยู่หรือไม่มีอยู่ เช่น    3.1.1 สัญญาประกันภัยแบบชดใช้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง (Indemnity Insurance Contract)
 ั
 ิ
 ู
 (1) ผเอาประกนภัยจะตดตังอปกรณบางอยาง เช่น อปกรณดับเพลง สญญาณกนขโมย กลองวงจรปด ที่ใช้การ  3.1.2 สัญญาประกันภัยแบบกำหนดมูลค่า (Valued Insurance Contract หรือ Agreed Value
 ้
 ิ
 ์
 ั
 ้
 ั
 ิ
 ุ
 ้
 ์
 ุ
 ่
 ได้ตลอดเวลาในสถานที่เอาประกันภัยตามประเภทและจำนวนที่กำหนด   Insurance Contract)
 (2) ผู้เอาประกันภัยจะจัดให้มียามรักษาความปลอดภัยสถานที่เอาประกันภัยตลอด 24 ชั่วโมง   3.1.3 สัญญาประกันภัยแบบผสมระหว่างการชดใช้ตามความเสยหายที่เกิดขึ้นจริงและแบบกำหนดมลคา
                                                                          ี
                                                                                                         ู
                                                                                                            ่
 (3) ผู้เอาประกันภัยจะไม่เก็บวัสดุที่ไวต่อการเกิดไฟไหม้ไว้ในสถานที่เอาประกันภัยตามประเภทที่ระบุไว้และ  (Combined Indemnity and Valued Insurance Contract หรือ Combined Indemnity and Agreed Valued Insurance
 ั
 ไม่เกินปริมาณที่กำหนดไว้ เช่น ข้อรับรองข้อที่ 49 สินค้าอนตรายข้อ 3 ในสัญญาประกันอคคีภัยระบุว่า “ผู้เอา  Contract)
 ั
 ประกันภัยรับรองว่า ในระหว่างที่กรมธรรม์ประกันภัยนี้มีผลบังคับ ไม่มีการเก็บน้ำมันก๊าดเกินกว่า 1,800 ลิตรหรือ  3.1.4 สัญญาประกันภัยแบบชดใช้ตามมลค่าทรัพย์สินที่เป็นของใหม (Replacement Cost Insurance
                                                                                ่
                                                        ู
 ่
 ่
 น้ำมันเบนซิน หรือแก๊สโซลิน หรือน้ำมันยานยนต์อย่างใดอยางหนงเกนกว่า 900 ลิตร หรือไม้ขีดไฟเกินกว่า 4 หีบ   Contract)
 ึ
 ิ
 ั
 หรือประทัดเกินกว่า 4 หีบ หรือฝ้ายที่ยังมิได้อัดแน่นเป็นเบล หรือปอ นุ่น หญ้า และฟาง ไม่ว่าจะได้อดแน่นเป็นเบล
 แล้วหรือไม่ก็ตาม ไว้ในบริเวณที่เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้เป็นอันขาด”   3.1.1 สัญญาประกันภัยแบบชดใช้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
 2.3.2 คำรับรองโดยปริยาย หรือคำรับรองโดยนัย (Implied Warranties) เป็นคำรับรองที่มิได้ระบุเป็นลาย  ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา 877 บัญญัติว่า “ผู้รับประกันภัยจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน
                                       ่
 ์
 ลกษณอกษรในกรมธรรมประกันภัย แต่กฎหมายถือว่ามีคำรับรองประเภทนี้อยู่ในกรมธรรม์ประกันภัยและผู้เอา  ดังจะกล่าวต่อไปนี้ คือ
 ั
 ั
 ์
 ประกันภัยจะต้องถือปฏิบัติ  เช่น ในการประกนภัยทางทะเลตามกรมธรรมประกันภัยแบบรายเทยว (Voyage   (1) เพอจำนวนวินาศภัยอนแท้จริง
 ั
 ่
 ์
 ี
                                          ั
                           ื่
 Policy) มีคำรับรองโดยปริยายว่า  เรือจะต้องมีสภาพที่สามารถเดินทะเลได้อย่างปลอดภัยเมื่อเริ่มออกเดินทาง   (2) เพือความบบสลายอันเกิดแก่ทรัพย์สินซึ่งได้เอาประกนภัยไว้เพราะได้จดการตามสมควรเพอป้องปัด
                                  ุ
                           ่
                                                                                                     ื่
                                                                                    ั
                                                                      ั
 หลักความสุจริตอย่างยิ่งนี้เป็นหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติในสัญญาประกันภัย ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้อง  ความวินาศภัย
 ปฏิบัติในขณะขอเอาประกันภัย จนกระทั่งสัญญาประกันภัยนั้นเป็นผลสำเร็จใช้บังคับตามกฎหมาย และเมื่อ    (3) เพื่อบรรดาค่าใช้จ่ายอันสมควรซึ่งได้เสียไปเพื่อรักษาทรัพย์สินซ่งเอาประกันภัยไว้นั้นมิให้วินาศ
                                                                            ึ
 สัญญาประกันภัยเกิดขึ้นแล้วยังต้องใช้หลักความสุจริตอย่างยิ่งนี้บังคับในการปฏิบัติตามสัญญาประกันภัยนั้นต่อไป  อันจำนวนวินาศจริงนั้น ท่านให้ตีราคา ณ สถานที่และในเวลาซ่งเหตุวินาศภัยนั้นได้เกิดขน อนึ่ง จำนวนเงิน
                                                                         ึ
                                                                                              ึ้
 จนกว่าสัญญาประกันภัยจะสิ้นสุดลง    ซงได้เอาประกันภัยไว้นั้น ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นหลักประมาณอันถูกต้องในการตีราคาเช่นว่านั้น
                ่
                ึ
                      ท่านห้ามมิให้คิดค่าสินไหมทดแทนเกินไปกว่าจำนวนเงินซึ่งเอาประกันภัยไว้”
 3. หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Principle of Indemnity)
                                              ั
 ึ
 ่
 ั
 หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกบสัญญาประกันภัยซงมีความสำคัญมาก  เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นอนเป็นผลโดยตรงจากภัยที่เอาประกันภัยไว้ ผู้รับประกันภัยต้องชดใช้
                                                               ิ
                                    ี
                                                                                                            ่
                                          ้
 ที่สุดอีกหลักหนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้   ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้มสิทธิ์ไดรับตามความเสียหายที่เกดขึ้นจริง รวมทั้งค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไปเพือ
                                                                           ั
                                                                                                     ิ
 ึ้
 1. ชดใช้ตามที่เสียหายจริง เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยกลับสู่สถานะการเงินเดิมก่อนที่จะมีวินาศภัยเกิดขน  รักษาทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไม่ให้เกิดความเสียหายจากภัยที่เอาประกนภัยไว้ แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกนจำนวน
 ั
 2. ผู้เอาประกนภัยจะไม่ได้รับกำไร หรือขาดทุนหลังจากที่มีวินาศภัยเกิดขึ้น  เงินที่เอาประกันภัยไว้
                                                                  ั
                                                                                                   ั
 3. ป้องกันมิให้ผู้เอาประกนภัยได้กำไรจากการเอาประกันภัย  สำหรับการประกันภัยทรัพย์สิน เช่น การประกันอคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย การประกันอคคีภัย การ
 ั
                                                                                 ิ
 4. ป้องกันมิให้เกิดความเสียหายโดยจงใจ  ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ฯลฯ ก่อนที่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับชดใช้ค่าสนไหมทดแทนตามความเสียหายที่
                                                                                         ั
                                                        ี
                      ิ
 5. รักษาเบี้ยประกันภัยให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม  เกิดขึ้นจรง ณ วัน เวลา และสถานที่ที่เกิดความเสยหายนั้น ผู้เอาประกันภัยควรเอาประกนภัยตามมูลค่าที่แท้จริง
              (Actual Cash Value) ของทรัพย์สินนั้นก่อน เช่น บ้านที่มีมูลค่าที่แท้จริง (ไม่รวมฐานรากและที่ดิน) ตามสภาพ ณ
 ั
 ั
 หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนมีความสมพนธ์กับหลักส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกนภัย ทั้งนี้เพราะ     เวลาที่ทำประกันภัยในปัจจุบันเท่ากับ 2 ล้านบาท ก็ควรจะมีจำนวนเงินเอาประกันภัย 2 ล้านบาท
 ั
                                                              ้
                                              ้
 ั
 ้
 ั
 ผู้เอาประกันภัยไดเอาประกันภัยในสิทธิ์ที่เขามีในสิ่งที่เอาประกนภัยนั้น เช่น นาย ก. เอาประกนอัคคีภัยในสิทธิ์ที่เขา  เราสามารถคำนวณมูลค่าที่แทจริงของทรัพย์สินได ดังนี้
                                                                              ่
 ้
 ั
 เป็นเจ้าของบาน ในกรณีที่มีวินาศภัยเกิดขึ้น นาย ก. ในฐานะผเอาประกนภัยจะได้รับชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตาม  มูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สิน   =    มูลค่าทรัพย์สินที่เป็นของใหม    -     ค่าเสื่อมราคา
 ู
 ้
 ิ
 ่
 ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่เกนจำนวนเงินที่เอาประกันภัยไว้ แต่ถ้า นาย ก. ไมได้เป็นเจ้าของบ้านหลังนั้นอีก  [Actual Cash Value     =    Replacement Cost             -     Depreciation]
 ี
 ั
 ั
 ่
 ิ
 ต่อไป  นาย ก. ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาประกนภัยบ้านหลังนั้นได้อก และไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รบชดใช้คาสนไหมทดแทนใน
 ิ
 กรณีที่มีวินาศภัยเกดขึ้น
                                                  ี
                ตำราประกันภัยส่วนใหญ่จะจำแนกสัญญาประกันภัยเพยง 3 แบบ คือ 1, 2 และ 4 เท่านั้น
              3
                                       ์
                                       ิ
                                                    ิ
                                                        ั
                                                             ้
                                   ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
                                                  ั
                                                               ํ
                                      ิ
                                    ิ
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81