Page 71 - InsuranceHandbook
P. 71

52   คู่มือประกันวินาศภัยไทย
             Thai General Insurance Handbook



                     2.2 สาระสำคัญที่ถือว่าไม่ปฏิบัติตามหลักความสุจริตอย่างยิ่ง
                     สาระสำคัญที่ถือว่าไมปฏิบัติตามหลักความสุจริตอย่างยิ่งมี 3 ประการ คือ
                                       ่
                     2.2.1 การไมเปิดเผยข้อความจริง (หรือ “การไมเปิดเผยความจริง”) (Non-Disclosure)
                                                            ่
                                ่
                     2.2.2 การแถลงข้อความเท็จ (Misrepresentation)
                     2.2.3 การไม่ปฏิบัติตามคำรับรอง (Non-Compliance to Warranties)


                                        ้
                     2.2.1 การไม่เปิดเผยขอความจริง (Non-Disclosure)
                                                                         ั
                     เป็นหลักการส่วนหนึ่งของหลักความสุจริตอย่างยิ่งในการประกนภัยที่คู่สัญญาจะต้องเปิดเผยความจริงแก่
                   ่
                   ึ
                                      ้
                          ึ
              กัน ซงหมายถงการเปิดเผยขอความจริงที่อยู่ในความรู้เห็นของผู้เอาประกันภัย ทั้งที่เป็นข้อรู้เห็นโดยแท้ (Actual
              Knowledge) และข้อที่น่าจะรู้เห็น (Presumed Knowledge) โดยเป็นหน้าที่ของผู้เอาประกันภัยจะต้องเปิดเผย
              ข้อความจริงอนเป็นสาระสำคัญ (Material Facts) ต่อผู้รับประกนภัยในการกำหนดเบ้ยประกนภัย หรือใน
                           ั
                                                                                          ี
                                                                                                 ั
                                                                       ั
                                                                                                      ้
                                     ั
              การตัดสินใจว่าจะรับประกนภัยนั้นหรือไม่เท่าที่วิญญูชนทั่วไปคิดว่าควรต้องเปิดเผย โดยเตมใจ ครบถวน และ
                                                                                            ็
              ถูกต้อง แม้ว่าจะไม่ได้รับการร้องขอจากผู้รับประกันภัยก็ตาม การที่ผู้เอาประกันภัยไม่เปิดเผยข้อความจริงโดยคิดไป
              ว่าเป็นข้อความจริงที่ไม่เป็นสาระสำคัญนั้น ตามหลักข้อนี้ไม่ถือเอาความคิดเห็นของผู้เอาประกันภัยคนหนึ่งคนใดมา
                                                                                             ้
              เป็นข้อวินิจฉัย แต่จะต้องเอาความคิดเห็นของผู้เอาประกันภัยทั่ว ๆ ไปมาเป็นข้อวินิจฉัยว่าขอความจริงนั้นเป็น
                                                                                        ี
                            ั
              ข้อสาระสำคัญอนควรเปิดเผยหรือไม่ การไม่เปิดเผยข้อความจริง (Non-Disclosure) น้ในบางกรณีเรียกว่าเป็น
              การปกปิดข้อความจริง (Concealment) แต่ในการตีความนั้น กรณีจะถือว่าเป็นการปกปิดข้อความจริงก็ต่อเมื่อ
              ผู้เอาประกันภัยมีเจตนาจะปกปิดข้อความจริงนั้นไว้ไม่ให้ผู้รับประกันภัยทราบ แต่การไม่เปิดเผยข้อความจริง
                                                                                  ้
                                      ่
              (Non-Disclosure) นั้นแม้ไมจงใจปกปิด แต่การที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้เปิดเผยขอความจริงตามหน้าที่ของตนซึ่ง
                                               ่
                      ็
              อาจจะเปนการประมาทเลนเล่อบกพรองในหน้าที่ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ถือว่าเป็นการไม่เปิดเผยข้อความจริง
                                     ิ
              (Non-Disclosure) ซึ่งมีผลทำให้สัญญาประกันภัยเป็นโมฆียะได้เช่นเดียวกับการปกปิดข้อความจริง
              (Concealment)
                                                                                                         ั
                                                           ั
                         ข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญซึ่งผู้เอาประกนภัยมีหน้าที่จะต้องเปิดเผยให้ผู้รับประกันภัยทราบนั้น มกจะ
              เป็นสิ่งซึ่งมีการเสี่ยงภัยมากกว่าปกติ และเกี่ยวเนื่องกับภาวะภัยทางศีลธรรม (Moral Hazard) ซึ่งผู้รับประกันภัยที่
                                                                                                  ่
                                                          ิ
              รอบคอบ (Prudent Insurer) จะให้ความสนใจเป็นพเศษในการพิจารณาว่าจะรับประกันภัยนั้นหรือไม และถ้าหาก
                                          ้
                                                                      ั
              รับประกนภัยได้ จะรบในอตราเบยประกนภัยปกติ หรือจะตองคิดอตราเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้น หรือจะต้องกำหนด
                                                ั
                                                                ้
                                          ี
                                    ั
                     ั
                                ั
                                           ั
                                                                                                       ุ
                      ิ
                                ั
                                      ั
              เงื่อนไขพเศษในการรบประกนภัยน้น เป็นต้น เช่น การที่ นาย ก. นำรถของตนที่เพงเสียหายจากการเกิดอบัติเหตุ
                                                                                   ิ่
              เฉี่ยวชนมาขอเอาประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 กับบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง โดยไม่ได้แจ้งให้บริษัททราบว่ารถของ
                                                                                              ุ
              ตนเพิ่งไปเกิดอบัติเหตุมาและมีส่วนใดของรถที่เสียหายบ้าง นอกจากนั้น นาย ก. ยังมีเจตนาที่จะทจริตต่อบริษัทโดย
                          ุ
                                                              ุ
              การมาเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนความเสียหายจากอบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นกับรถคันนี้ก่อนวันที่บริษัทตกลงรับ
              ประกนภัยดวย ในกรณเช่นนี้ ถือว่า นาย ก. ไม่เปิดเผยข้อความจริงอันเป็นสาระสำคัญให้บริษัททราบ ซึ่งถ้าหาก
                   ั
                        ้
                                  ี
                                                           ั
              บริษัททราบข้อความจริงนี้ก่อนก็จะปฏิเสธการรับประกนภัยรถยนต์คันนี้อย่างแน่นอน ผู้รับประกันภัยจึงสามารถจะ
              ใช้สิทธิ์บอกล้างสัญญาประกันภัยนั้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865
                     ตัวอย่าง เงื่อนไขทั่วไปในกรมธรรม์ประกันอคคีภัย ข้อ 2. การตกเป็นโมฆียะของกรมธรรมประกนภัย “ถ้า
                                                                                                     ั
                                                                                                ์
                                                         ั
              ได้มีการบรรยายคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญแห่งทรัพย์สินที่เอาประกันภัย หรือในสาระสำคัญแห่งสิ่งปลูกสร้าง หรือ
                                                                         ั
              สถานที่ตั้งของทรัพย์สิน หรือสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว หรือในข้อความอนเป็นสาระสำคญอนจำเป็นต้องรู้เพอการ
                                                                                          ั
                                                                                                        ื่
                                                                                      ั
                                       ่
              ประเมินความเสี่ยงภัย หรือเพือการกำหนดอัตราเบี้ยประกันภัย หรือมการละเว้นไม่เปิดเผยข้อความจริงดังกล่าวนั้น
                                                                        ี
                                                              ้
              ให้ถือว่าสัญญาประกนภัยตามกรมธรมประกนภัยฉบับนตกเป็นโมฆยะ และบริษัททรงไว้ซึ่งสทธิในการบอกล้าง
                                                    ั
                                                              ี
                                               ์
                                                                        ี
                                ั
                                                                                             ิ
              สัญญาประกันภัยนี้ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด”
                                       ์
                                       ิ
                                      ิ
                                   ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
                                    ิ
                                                             ้
                                                               ํ
                                                        ั
                                                  ั
                                                    ิ
   66   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76