Page 68 - InsuranceHandbook
P. 68

บทที่ 5 หลักส�าคัญของสัญญาประกันภัย  49





 เอาประกันภัย หรือสถานที่ที่ระบุเอาประกันภัยในตารางกรมธรรม์ยังคงใช้เพอการอยู่อาศัยต่อไป ทั้งนี้ บริษัทจะคืน  1.5 วัตถุประสงค์ของการกำหนดให้มีสิทธิส่วนได้เสีย
 ื่
 ้
 ี
 ั
 ั
 เบี้ยประกันภัยตามตารางอัตราเบ้ยประกนภัยระยะสน” นอกจากนั้น ท้ายเงื่อนไขข้อ 6.13 ยังระบุว่า “เงื่อนไขข้อ   หลักส่วนได้เสียในเหตุประกันภัยเป็นหลักสำคัญพนฐานของการประกันภัย หลักข้อนี้เป็นแนวความคดทาง
                                                              ื้
                                                                                                        ิ
 6.13 นี้ จะไม่นำมาบังคับใช้ หากผู้เอาประกันภัยได้แจ้งให้บริษัททราบและตกลงยินยอมรับประกันภัยต่อไป โดยได ้  กฎหมาย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ 3 ประการคือ
 ออกใบสลักหลังกรมธรรม์ไว้เป็นหลักฐานแล้ว”   1. เพอป้องกันมิให้สัญญาประกนภัยเป็นสญญาการพนันเพราะการที่บุคคลใดเอาประกันภัยในสิ่งที่เขาไม่มี
                                               ั
                                                        ั
                          ื่
 ่
 ื
 จากตัวอย่างข้างต้นหาก นาย ข. ต้องการจะใช้บ้านที่ซื้อมาจาก นาย ก. เพอการอยู่อาศัย และ นาย ก.   ความเกี่ยวข้องย่อมไม่ได้รับความเสียหายเมื่อสิ่งนั้นถูกทำลายหรือเสียหาย ฉะนั้น การที่เขาได้รับค่าสินไหมทดแทน
 ต้องการให้ นาย ข. ซึ่งจะเป็นเจ้าของใหม่ในบ้านหลังนี้ ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันอคคีภัยสำหรับที่  เมื่อเกิดความเสียหายนั้นย่อมเป็นการไม่ถูกต้องเพราะเท่ากับอนุญาตให้มีการพนันในรูปของสัญญาประกันภัย เช่น
 ั
 อยู่อาศัยที่เขาได้ทำไว้ต่อไป นาย ก. ในฐานะผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งบริษัท ซอสัตย์ประกันภัย จำกด (มหาชน)   การเอาประกันชีวิตบุคคลอื่นซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย
 ื
 ั
 ่
 ่
 ี
 ในฐานะผู้รับประกันภัยทราบก่อนที่จะไปทำการจดทะเบยนโอนกรรมสิทธิ์บ้านและที่ดินนี้ให้แก่ นาย ข. เพือ  2. เพือลดภาวะภัยทางศลธรรม โดยการป้องกันวัตถุที่เอาประกนภัย (Subject Matter of Insurance)
                                                                            ั
                                           ี
                          ่
 ดำเนินการออกใบสลักหลังกรมธรรม์ประกันภัย เป็นหลักฐานบันทึกการเปลี่ยนชื่อผู้เอาประกันภัยจาก นาย ก. เป็น   ไม่ให้เกิดความเสียหายโดยจงใจหรือเจตนาของผู้เอาประกันภัย ถ้าผู้เอาประกันภัยไม่มีกรรมสิทธิ์ หรือประโยชนอน
                                                                                                           ั
                                                                                                          ์
 นาย ข. โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เป็นต้นไป    ใดในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยแล้ว เขาจะไม่ได้รับความเสียหายหากเกิดวินาศภัยกับทรัพย์สินน้น เช่น การไปเอา
                                                                                              ั
                                       ื่
 ่
                      ั
 ั
 ุ
 ้
                                                                              ื่
 ์
                   ั
                                                                                             ิ
 ั
 ตัวอย่างที่ 2 นาย ช. ไดขายรถยนตทเอาประกนภัยรถยนต์ภาคสมครใจประเภท 1 รวมการค้มครอง  ประกนอคคีภัยบ้านของคนอน ในไม่ช้าอาจจะลอบวางเพลิงบ้านหลังนั้นเพอหวังเอาเงินค่าสนไหมทดแทนจาก
 ี
                ั
                       ั
                                     ั
 ่
 ้
 ู
 ั
 ผประสบภัยจากรถใหแก่ นาย ส. ซึ่งต้องการซื้อรถยนต์คันนี้ ไปใช้รับสงครอบครวของเขา เมื่อ นาย ช. ได้จด  ผู้รบประกนภัย ในทางตรงกนข้าม ถ้าเขามีสิทธิ์หรือประโยชน์ในทรัพย์สินที่เอาประกันภัยแล้ว เขาจะหวงแหนและ
 ้
 ์
 ทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์คันนี้ให้ นาย ส. แล้ว ถือว่าสิทธิส่วนได้เสียของ นาย ช. ในรถยนตคันนี้สิ้นสุดลง ณ   เสียดายไม่ยินยอมให้เกิดความเสียหายกับทรัพย์สินนั้น
 วัน เวลา ที่มีการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ส่วน นาย ส. จะมีสิทธิส่วนได้เสียในรถยนต์คันนี้ตั้งแต่วัน เวลาที่ นาย ส.   3. เพอให้สอดคล้องกับหลักการชดใช้ค่าสนไหมทดแทน (Principle of Indemnity) ในการประเมิน
                          ื่
                                                          ิ
 ได้มีการจดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์มาจาก นาย ช.    ค่าเสยหาย หลักส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยจะช่วยผู้รับประกันภัยประเมินมูลค่าความเสียหายที่
                   ี
 ั่
 อย่างไรก็ตาม กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ รวมการคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ระบุในหมวดเงื่อนไขทวไป  ผู้เอาประกันภัยมี ณ เวลาที่เกิดวินาศภัย เช่น การพจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของการประกนอคคภัยสำหรบ
                                                                                                    ี
                                                                                                           ั
                                                         ิ
                                                                                               ั
                                                                                                 ั
 ื่
 ข้อ 9 การโอนรถยนตไว้ดังนี้ “เมื่อผู้เอาประกันภัยได้โอนรถให้แก่ผู้อน ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกนภัย        บ้านหลังหนึ่งซึ่งถูกเพลิงไหม้เสียหายหมดทั้งหลังซึ่งลูกหนี้ได้จำนองบ้านหลังนี้ไว้กับธนาคาร ผู้รับประกันภัยต้อง
 ั
 ์
 ์
 ตามกรมธรรมประกันภัยนี้ และบริษัทต้องรับผิดตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อไปตลอดอายุกรมธรรม์ประกันภัยที่  ประเมินค่าเสียหายของลูกหนี้ในฐานะผู้จำนองและธนาคารในฐานะผู้รับจำนองตามยอดมูลหนี้ที่ผู้จำนองยังคงค้าง
 เหลืออยู่ อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ทำประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ ผู้เอาประกันภัยจะต้องแจ้งการเปลยนแปลง    ชำระต่อผู้รับจำนอง ณ วันที่เกิดไฟไหม้บ้านหลังนี้
 ี
 ่
 ผู้ขับขี่ให้บริษัททราบเพื่อจะได้มีการปรับปรุงอัตราเบี้ยประกันภัยตามสภาพความเสี่ยงภัยที่เปลี่ยนแปลงไป มิฉะนั้น
 ผู้เอาประกันภัยอาจจะต้องรบผดชอบในความเสียหายสวนแรกเองตามเงื่อนไขความคุ้มครองที่ปรากฎใน     2. หลักความสุจริตอย่างยิ่ง (Principle of Utmost Good Faith)
 ิ
 ่
 ั
 กรมธรรม์ประกนภัยนี้   การประกันภัยเป็นธุรกิจที่แตกต่างจากธุรกจอน เพราะเปนการขายความเชือม่นและความศรทธาของ
 ั
                                                                                      ่
                                                                                         ั
                                                                                                     ั
                                                                       ็
                                                             ื
                                                             ่
                                                          ิ
 สำหรับกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ที่มีความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ และผู้เอาประกันภัยได้ขาย  ประชาชน เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีตัวตน เป็นการที่ผู้เอาประกันภัยซื้อบริการจากผู้รับประกันภัย ผู้เอาประกันภัยจะ
 ั
 รถยนต์ให้แก่ผู้มีอาชีพรับซื้อขายรถยนต์ หรอให้เช่ารถยนต์ หรือซ่อมแซมรถยนต หรือบำรุงรกษารถยนต์ ไม่ว่า      พิสูจน์คุณภาพของบริการที่ไดซื้อไปก็ต่อเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้น ผู้ที่จะเอาประกนภัยจึงต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็น
 ์
 ื
                                                                             ั
                                       ้
 การขายนั้นจะได้มีการทำเป็นหนังสือ หรือมีการจดทะเบียนโอนทางทะเบียนหรือไม่ก็ตาม กรมธรรม์ประกันภัยนี้จะ  พิเศษ เพราะการซื้อสินค้าอย่างอน เช่น เสื้อผ้าสำเร็จรูป ผู้ซื้อพอมองเหนขอบกพรองทางกายภาพของสินค้านั้นได้
                                                                         ็
                                         ื่
                                                                                  ่
                                                                            ้
 ั
 ิ
 ์
 ั
 สิ้นสุดความคุ้มครองนับแต่ วัน เวลาที่มีการขายรถยนต บรษทจะคนเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยโดยหก   แต่การเอาประกนภัยเป็นการซอความคุ้มครองสำหรับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งผู้เอาประกนภัยจะ
 ื
                                                                                                      ั
                                        ื
                                        ้
                            ั
 เบี้ยประกันภัยสำหรับระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันภัยได้ใช้บังคับมาแล้วออกตามส่วน ภายใน 15 วันนับแต่วันที่  เห็นข้อบกพร่องของประกนภัยที่ซื้อไปก็ต่อเมื่อเกิดวินาศภัยขึ้นและมีปัญหาบางอย่างที่ทำให้ไมสามารถเรียกร้อง
                                                                                              ่
                                    ั
 ้
 ์
 ึ
 ู
 บริษัทได้รับแจ้งการขายจากผเอาประกันภัย หรือกรณีที่บริษัททราบถงการขายรถยนตดงกล่าว บริษัทจะแจ้งการ  ค่าสินไหมทดแทนจากผู้รับประกันภัยได้
 ั
 ั
 สิ้นสุดความคุ้มครองพร้อมคืนเบี้ยประกนภัย โดยการส่งหนังสือถึงผู้เอาประกนภัยตามที่อยู่ครั้งสุดท้ายที่แจ้งให้  การประกันภัยค่อนข้างจะแตกตางจากการซอขายสินค้าหรือบริการอน ๆ เพราะในการซื้อขายสินค้าหรือ
 ั
                                                ่
                                                          ้
                                                                               ื
                                                          ื
                                                                               ่
 บริษัททราบ”   บริการทั่วไป ผู้ซื้อสามารถที่จะตรวจสอบคุณภาพสินค้าหรือบริการก่อนที่จะตกลงซื้อจริง ๆ ได้ ดังนั้น ผู้ขายสินค้า
 ตามเงื่อนไขทั่วไปข้อ 9 วรรคแรก เมื่อ นาย ช. ในฐานะผู้เอาประกันภัยได้ขายรถยนต์ที่เอาประกันภัย    หรือบริการในลักษณะเช่นนี้ จึงไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลซึ่งผู้ซื้อไม่ได้ซักถาม ทำให้การซื้อขายสนค้าทั่วไป มีหลัก
                                                                                              ิ
 ่
 ้
 ใหแก นาย ส. และได้ดำเนินการจดทะเบยนโอนกรรมสิทธิ์ในรถคันนี้ให้แก่ นาย ส. ในฐานะผู้รับโอนจะเป็น  ผู้ซื้อต้องระวัง (Caveat Emptor หรือ Let the buyer beware) ซงอธิบายไดว่า หากผู้ซื้อไม่ตรวจสอบสินค้าที่จะ
 ี
                                                                               ้
                                                                      ึ
                                                                      ่
 ุ
 ์
 ั
 ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความค้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ต่อไปตลอดอายุกรมธรรมประกนภัยที่เหลืออยู่โดย  ซื้อให้ดี หรือเห็นได้ชัดเจนว่าสินค้านั้นชำรุดบกพร่องแต่ก็ยังซื้อสินค้านั้นไป ถือว่าผู้ซื้อนั้นขาดความระมัดระวังเอง
 ั
 ั
 ื่
 อตโนมัติ แต่เพอให้ผู้รับประกันภัยมข้อมูลล่าสุด นาย ส. ควรจะนำหลกฐานการรับโอนกรรมสิทธิ์รถคันนี้ไปแจ้งให้  ผู้ขายไม่ต้องรับผิด ดังปรากฏอยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 473
 ี
 บริษัทประกนภัยทราบเพ่อออกใบสลักหลังบันทึกการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้เอาประกนภัยจาก นาย ช. เปน นาย ส.   สำหรับการประกันภัยนั้น ในขณะที่ผู้ขอเอาประกันภัยสามารถจะขอดูตวอย่างกรมธรรม์ประกันภัยก่อนที่
 ็
 ั
 ื
 ั
                                                                                 ั
 ต่อไป        จะตกลงซื้อประกันภัยตามเงื่อนไขที่มีอยู่ได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว ผู้รับประกันภัยไม่สามารถจะตรวจสอบรายละเอียดทุก
 อย่างไรก็ตาม หาก นาย ช. ขายรถยนต์ที่เอาประกันภัยให้แกผู้มีอาชีพรับซื้อขายรถยนต์ เช่น เต็นท์ที่รับซื้อ  อย่างเกี่ยวกับผู้ขอเอาประกันภัยซึ่งมีความสำคัญต่อผู้รับประกนภัยได้ ถึงแม้ว่าผู้รับประกันภัยจะใช้การสำรวจหรือ
 ่
                                                                 ั
 ขายรถ ตามเงื่อนไขทั่วไปข้อ 9 วรรคสอง ความค้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้จะสิ้นสุดนับแต่ วัน เวลา ที่      การสอบถามตัวต่อตัวก็ตาม ผู้รับประกันภัยก็ยังต้องยึดถือหรือเชื่อถือตามข้อมูลที่ผู้ขอเอาประกันภัยให้มา จึงเป็น
 ุ
 นาย ช. ขายรถยนต์ให้แก่ผู้ซื้อนั้น    หน้าที่ของผู้ขอเอาประกันภัยจะต้องเปิดเผยข้อความจริงเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและพฤติกรรมอนเกี่ยวกับการเสี่ยงภัย
                                                                                          ั
                                      ิ
                                    ิ
                                   ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
                                                        ั
                                                             ้
                                                               ํ
                                                    ิ
                                       ิ
                                       ์
                                                  ั
   63   64   65   66   67   68   69   70   71   72   73