Page 64 - InsuranceHandbook
P. 64

่
 ้
 เอาประกันภัยโดยที่ผู้รับประกันภัยไม่ทราบถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมาก่อน รวมทั้งไมไดทำการตรวจสภาพรถขณะที่    บทที่ 5
 ั
 เจ้าของรถมาติดต่อขอเอาประกนภัย แต่ผู้รับประกันภัยมาทราบเหตุฉ้อฉลนี้ภายหลัง ผู้รับประกันภัยก็มีสิทธิ์ที่จะ  หลักสำคัญของสัญญาประกันภัย
 ปฏิเสธการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้นได้เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่ได้เกิดขึ้นก่อนที่บริษัทจะตกลงรับประกันภัย
 2.8 เป็นสัญญาเพื่อประโยชน์ของบคคลภายนอก สัญญาประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยได้ยกประโยชน์
 ุ
                                                                                                            1
 แห่งสัญญานั้นให้บุคคลภายนอกเป็นผู้รับประโยชน์ ผู้เอาประกันภัยจะไม่มีสิทธิ์ได้รับค่าสินไหมทดแทนหากเกิด     ธโนดม โลกาพัฒนา
 ็
 วินาศภัยดังที่กำหนดไว้ในสัญญาประกันภัยนั้น การยกประโยชน์ดังกล่าวจะกระทำให้แก่บุคคลใดกได้โดย               ทัตเทพ สุจิตจร
                                                                                                            2
 ผู้รับประโยชน์ไม่จำเป็นจะต้องมีส่วนได้เสียกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยนั้นแต่อย่างใด เพียงขอให้ผู้รับประโยชน์เป็น
 ั
 ้
 บุคคล หรือนิติบุคคลที่มีตัวตนตามกฎหมาย และสามารถแสดงเจตนาเข้ารบประโยชนตามสญญาประกนภัยนนได  ้  หลักสำคัญพื้นฐานของสัญญาประกันภัย มีอยู่ 6 ประการ คือ
 ั
 ์
 ั
 ั
 ก็ถือว่าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยนั้นโดยถกต้องแล้ว สัญญาประกันภัยชนิดนี้เรียกว่าสัญญาเพอ  1. หลักส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัย (Principle of Insurable Interest)
 ื่
 ู
 ่
 ์
 ประโยชนของบุคคลภายนอกซึ่งต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์มาตรา 374 – 376 เมื่อ            2. หลักความสุจริตอย่างยิ่ง (Principle of Utmost Good Faith)
 ี
 ์
 ผู้รับประโยชน์ได้แสดงเจตนาเข้ารับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยแล้ว ผู้รับประโยชนสามารถเรยกให้               3. หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Principle of Indemnity)
 ั
 ์
 ผู้รับประกันภัยชำระค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยนั้นได้ทันที การแสดงเจตนาเขารบประโยชนตาม      4. หลักการรับช่วงสิทธิ (Principle of Subrogation)
 ้
 ื่
 สัญญาประกันภัยนั้นสามารถจะทำเป็นหนังสือ หรือด้วยวาจาก็ได้ แต่ส่วนมากมักจะทำเป็นหนังสือเพอจะได้มีเป็น  5. หลักการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน (Principle of Contribution)
 หลักฐานที่ชัดเจน โดยผู้รับประโยชน์อาจจะแสดงเจตนาก่อนที่จะเกิดวินาศภัย หรือภายหลังจากที่เกิดวินาศภัยก็ได้   6. หลักสาเหตุใกล้ชิด (Principle of Proximate Cause)
 ี่
 เช่น กรณีท นาย ก. ได้เอาประกันอัคคีภัยบ้านของเขาซึ่งจำนองไว้กับธนาคารอาคารสงเคราะห์ และได้ยกประโยชน์
 ตามสัญญาประกันภัยให้แก่ธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นผู้รับประโยชน์ตามภาระผูกพัน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ก ็  1. หลักส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัย หรือหลักส่วนได้เสียที่เอาประกันภัยได้
 ่
 ื
 ั
 จะทำหนังสือถึงผรับประกนภัยเพอแสดงเจตนาเขารับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยนี้ในกรณีที่เกิดวินาศภัยขึ้น   (Principle of Insurable Interest)
 ้
 ู
 ้
 เมื่อผู้รับประโยชน์ได้แสดงเจตนาต่อผู้รับประกันภัยแล้ว คู่สัญญาประกันภัยจะเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์เป็นบุคคล
 ็
 ื่
 อนไม่ได้ อย่างไรกตาม ในกรณที่ นาย ก. ได้ชำระหนี้เงินกู้ทั้งหมดคืนธนาคารอาคารสงเคราะห์จนครบถวน และม ี             หลักส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยเป็นหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสัญญาประกันภัยที่สำคัญที่สุด ซึ่ง
 ี
 ้
 การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในบ้านหลังนั้นกลับคืนมาให้ นาย ก. แล้ว ธนาคารอาคารสงเคราะห์ก็จะไม่มีสิทธิรับ  ประมวลกฎหมายแพงและพาณชย มาตรา 863 บัญญัติว่า “อันสญญาประกันภัยนั้น ถ้าผู้เอาประกันภัยมิได้มีส่วน
                                                                    ั
                                ่
                                           ์
                                         ิ
 ประโยชน์ใด ๆ ตามสัญญาประกันภัยนั้นอีก   ได้เสียในเหตุที่ประกันภัยไว้นั้นไซร้ ท่านว่าย่อมไม่ผูกพนคู่สัญญาแต่อย่างหนึ่งอย่างใด” เช่น ไม่ใช่เจ้าของบ้านแต่
                                                            ั
                                            ั
                                                                                                     ั
              เอาบ้านของผู้อนไปทำประกันอคคีภัยโดยไม่มีส่วนได้เสีย สัญญาประกันภัยนั้นย่อมไม่ผูกพนคู่กรณี
                             ื่
 ในกรณของการประกันภัยค้ำจุน ได้มีการบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา 887 วรรค  ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863 ใช้กับสัญญาประกันภัยทกประเภท ไมว่าจะเปนการประกัน
 ี
 ่
                                                                                                 ็
                                                                                          ่
                                                                               ุ
 แรกว่า “อันว่าประกันภัยค้ำจุนนั้น คือสัญญาประกันภัยซึ่งผู้รับประกันภัยตกลงว่าจะใช้ค่าสินไหมทดแทนในนาม  วินาศภัยซึ่งผู้ที่เอาประกันภัยจะต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัย หรือการประกนชีวิตซึ่งผู้เอาประกนภัย
                                                                                        ั
                                                                                                         ั
 ั
 ของผู้เอาประกันภัย เพอความวินาศภัยอนเกิดขึ้นแก่บุคคลอกคนหนึ่ง และซึ่งผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดชอบ”   ต้องมีส่วนได้เสียในชีวิตของบุคคลที่เอาประกันภัยนั้น
 ื่
 ี
 ั
 ้
 เช่น การประกนภัยความรบผิดตามกฎหมายตอบคคลภายนอก หากผู้เอาประกนภัยไดทำความเสยหายต่อชีวิต
 ั
 ุ
 ่
 ี
 ั
 ้
 ้
 ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และมีความรับผิดตามกฎหมายจะตองชดใช้ค่าสนไหมทดแทนใหแก ่  1.1 ความหมายของส่วนได้เสย
 ิ
                                               ี
 ั
 บุคคลภายนอกแล้ว บุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายจะเป็นผู้เข้ามารับค่าสินไหมทดแทนตามสญญาประกนภัย  ส่วนได้เสียเป็นสิทธิ์ตามกฎหมายในการเอาประกันภัยทเกดจากความสมพนธ์ทางการเงินระหว่าง
 ั
                                                                          ิ
                                                                        ่
                                                                                     ั
                                                                        ี
                                                                                        ั
 โดยผลของกฎหมายจากผรับประกนภัยโดยตรง ผู้รับประกันภัยก็จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่บุคคลภายนอก      ผู้เอาประกันภัยและวัตถุที่เอาประกันภัย (Subject Matter of Insurance) หากวัตถุที่เอาประกันภัยยังคงมีอยู่
 ้
 ั
 ู
 ผู้ได้รับความเสียหายเท่านั้น จะชำระค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยค้ำจุนให้แกผู้เอาประกันภัยเช่นสญญา  ตามปกติ ผู้เอาประกันภัยจะได้ประโยชน์ใช้สอยจากการคงอยู่ของวัตถุ สิทธิ์ หรือกรรมสิทธิ์ดังกล่าวได้ตลอดไป แต่
 ่
 ั
 ื่
 ิ
 ประกันภัยชนิดอนไม่ได้ เว้นแต่ผู้รับประกันภัยจะพสูจน์ได้ว่าเงินค่าสินไหมทดแทนที่ได้ชำระใหผู้เอาประกันภัยไป  หากวัตถุที่เอาประกันภัย สิทธิ์ หรือกรรมสิทธิ์นั้นได้รับความสูญเสียหรือเสียหาย ผู้เอาประกันภัยจะได้รับ
 ้
 ั
 ึ
 ุ
 นั้น ผู้เอาประกันภัยได้ชำระให้บุคคลภายนอกผู้ได้รับความเสียหายแล้ว ผู้รับประกนภัยจงจะหลดพนจากความรับ  ความสูญเสียทางการเงินด้วยเช่นกัน
 ้
 ผิดในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยค้ำจุน
              1  เป็นผู้เขียนหลักสำคัญพื้นฐานของสัญญาประกันภัยที่ 1, 2, 3, 4 และ 5
              2 เป็นผู้เขียนหลักสำคัญพื้นฐานของสัญญาประกันภัยที่ 6
                                      ิ
                                       ์
                                   ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
                                    ิ
                                       ิ
                                                             ้
                                                               ํ
                                                        ั
                                                  ั
                                                    ิ
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69