Page 83 - InsuranceHandbook
P. 83
64 คู่มือประกันวินาศภัยไทย
Thai General Insurance Handbook
3. เงื่อนไขพิเศษส่วนเฉลี่ยจากการประกันภัยต่ำกวารอยละ 80 ของมูลค่าทแท้จริง (80 Percent ให้ผู้เอาประกันภัยบวกเพมได้ โดยผู้รับประกันภัยจะใช้มูลค่าที่ได้กำหนดไว้นี้เป็นจำนวนเงนเอาประกนภัยและเป็น
ิ
ี
่
ิ่
ั
่
้
Average) แบบ อค./ทส. 1.11 เงื่อนไขพิเศษนี้มีสาระสำคัญคือ“ในกรณีที่จำนวนเงินเอาประกันภัยต่ำกว่าร้อยละ ฐานในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนสำหรับความเสียหายของสินค้า เช่น ชดใช้เต็มจำนวนเงินเอาประกันภัยในกรณี
80 ของมูลค่าแท้จริงของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยในขณะเกิดความสูญเสียหรอความเสียหายอันเนื่องมาจากภัยที่ ที่เป็นความเสียหายแบบสิ้นเชิง (Total Loss)
ื
ั
ได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรมประกันภัยฉบับนี้ให้ถือว่าผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประกันภัยตนเองในส่วนที่ ตัวอย่าง การประกนภัยสินค้าที่ขนส่งทางทะเลจากประเทศญี่ปุ่นมาประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยสินค้า
์
ี
ํ
แตกต่างกันกับมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินที่เอาประกันภัยและในการคานวณค่าสินไหมทดแทนผู้เอาประกันภัย 100 หีบห่อบรรจุมาในลังไม้ 1 ใบ มราคา CIF = USD 60,000 (หกหมื่นดอลล่าร์สหรัฐ)
จะต้องรับภาระส่วนเฉลี่ยความสูญเสียและความเสียหายไปตามส่วนทุก ๆ รายการและหากมมากกว่าหนึ่งรายการ จำนวนเงินเอาประกันภัยเป็น USD = USD 60,000 + 10% = USD 66,000
ี
ั
ให้แยกพิจารณาเป็นแต่ละรายการ” สมมุติให้ อตราแลกเปลี่ยนที่ใช้ USD 1 = THB 31.19
์
ิ
หากมีการติดเงื่อนไขพิเศษนี้ในกรมธรรมประกนภัยทรัพย์สินสำหรับสถานประกอบธุรกจ เช่น กรมธรรม ์ จำนวนเงินเอาประกันภัยเป็นเงินบาท = USD 66,000 X 31.19 = 2,058,540 บาท
ั
ั
ี
ประกนอัคคภัย กรมธรรม์ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน ผู้เอาประกันภัยจะสามารถทำประกันภัยทรัพย์สินแต่
ี
ละรายการได้ตั้งแต่ 80% – 100% ของมูลค่าที่แท้จริงโดยไม่ถูกเฉลี่ยความเสียหาย แต่ถ้าผู้เอาประกันภัยได้ทำ สำหรับการประกันภัยสินค้าที่ขนส่งทางทะเลส่วนใหญ่มักจะเป็นความเสยหายแบบสิ้นเชิง เพราะสินค้า
ี
ประกันภัยทรัพย์สินแต่ละรายการไว้ต่ำกว่า 80% เช่น ทำประกนภัยไว้เพยง 60% ของมูลค่าที่แท้จริง หากเกิดความ มักจะมหีบห่อ (หน่วยย่อย) เวลาเกิดความเสียหายมักจะเรียกร้องทั้งหีบห่อ แมในการขนส่งแต่ละเที่ยวจะมีหลายหีบ
้
ั
ี
็
เสียหายบางส่วนกจะได้รับชดใช้เพียง 60% ของความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะต้องแบกรับส่วนต่างของความ ห่อก็ตาม
เสียหายเอง 40% จากตัวอย่างข้างต้น ถ้ามีสินค้าที่เสียหายสิ้นเชิง 10 หีบห่อ ก็จะคำนวณจากมลค่าต่อหีบห่อที่ปรากฏอยู่ใน
ู
่
ี
ใบกำกับสินค้า (Invoice) หรือใบแสดงรายการหบหอ (Packing List) เช่น ราคาต่อหีบห่อ = USD 600 ก็จะชดใช้
ั
3.1.2 สญญาประกันภัยแบบกำหนดมูลค่า = USD 600 x 10 หีบห่อ = USD 6,000 + 10% = USD 6,600 X อัตราแลกเปลี่ยน 31.19 บาท = 205,854 บาท
สัญญาประกนภัยแบบกำหนดมลค่า เป็นข้อยกเว้นหรือการเปลยนจากหลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่บางกรณีก็เป็นความเสียหายบางส่วน เช่น เครื่องจักรมีความเสียหายเฉพาะที่ตัวกรอบของเครื่องจักร
ั
่
ู
ี
ั
ี
ในสัญญาประกันภัยแบบนี้ ผู้รับประกนภัยจะมการตกลงเกี่ยวกับมูลค่าทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้ตั้งแต่เริ่มทำ หรืออะไหล่บางชิ้น กรณีซ่อมแซมได้ก็จะชดใช้สำหรับค่าอะไหล่และค่าแรง
สัญญาประกันภัย เมื่อเกิดความเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) ผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามจำนวน 2.3 การประกันชีวิต (Life Insurance) เป็นสัญญาประกันภัยที่ผู้รับประกนภัยจะชดใช้จำนวนเงินที่
ั
่
เงินที่ได้รับประกันภัยไว้โดยไมคำนึงถึงมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สิน ณ วัน เวลา และสถานที่ที่เกิดวินาศภัย และไม่ม ี แน่นอน ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา 889 “ในสัญญาประกันชีวิตนั้น การใช้
่
่
การหักคาเสื่อมราคา แต่ถ้าเป็นความเสียหายบางส่วน (Partial Loss) จะกลับไปใช้หลักการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวนเงนย่อมอาศยความทรงชีพหรือมรณะของบคคลคนหนึ่ง” เช่น การประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นการ
ุ
ิ
ั
หรืออาจจะเป็นการชดใช้ตามสัดส่วนของมูลค่าที่ได้ตกลงกันไว้ (Agreed Value) ประกันชีวิตที่บริษัทจะจ่ายเงินเอาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยเมื่อมชีวิตอยู่ครบกำหนดสญญา หรือจ่ายเงน
ั
ิ
ี
ึ
สัญญาประกันภัยแบบกำหนดมูลค่าซ่งเป็นที่นิยมใช้กัน มีดังนี้ เอาประกนภัยให้แก่ผู้รับประโยชน์เมื่อผู้เอาประกนภัยเสยชีวิตลงภายในระยะเวลาประกนภัย โดยการประกันชีวิต
ั
ั
ั
ี
2.1 การประกันภัยทรัพย์สินบางอย่าง ซึ่งยากแก่การคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินที่ แบบสะสมทรพย์นี้เป็นการผสมกนระหว่างการคุ้มครองชีวิตและการออมทรพย์ สวนของการออมทรพย์คือส่วนที่
ั
ั
ั
ั
่
เอาประกนภัย ณ วัน เวลา และสถานที่ที่เกิดวินาศภัยและอาจมีมลค่าทางจิตใจเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่น ผู้เอาประกันภัยได้รับคืนเมื่อสัญญาครบกำหนด เช่น นาย ก. เอาประกันชีวิตของเขาไว้กับบริษัท กขค ประกนชีวิต
ู
ั
ั
โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ รูปภาพที่หายาก ของสะสม เป็นต้น ซึ่งผู้เอาประกันภัยและผู้รับประกันภัยจะร่วมกนตกลง จำกด (มหาชน) โดยมจำนวนเงนเอาประกนภัย 1 ล้านบาท และระบุให้ นาง ข. ซึ่งเปนภรรยาของ นาย ก. เป็น
ั
็
ั
ิ
ี
ั
ึ
ั
มูลค่าทรัพย์สินที่จะเอาประกนภัยซ่งเป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายก่อนที่จะรับประกันภัย ผู้รับประโยชน์ หาก นาย ก. เสยชีวิตภายในระยะเวลาประกนภัย บริษัท กขค ประกนชีวิต จำกัด (มหาชน) ก ็
ั
ี
ั
2.2 การประกันภัยการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Marine Cargo Insurance) เนื่องจากการ จะต้องชดใช้เงินจำนวน 1 ล้านบาทให้แก นาง ข.
่
ประกันภัยสินค้าที่ขนส่งทางทะเลผูกพนกับการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ ซึ่งมีเอกสารประกอบพร้อมมูลที่
ั
สามารถแสดงราคาซื้อขายได้ ดังนั้น จึงไม่มีข้อยุ่งยากในการกำหนดมูลค่าของสินค้าที่เอาประกันภัย ด้วยเหตุนี้ 3.1.3 สญญาประกันภัยแบบผสมระหวางการชดใช้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงและและแบบกำหนด
่
ั
์
ั
์
ั
กรมธรรมประกนภัยสินค้าที่ขนส่งทางทะเลโดยทั่วไป จึงเป็นกรมธรรมประกนภัยที่กำหนดมูลค่า (Valued Policy มูลค่า
่
หรือ Agreed Value Policy) ของสินค้า หรือทรัพย์สินที่เอาประกนภัยไว้เป็นที่แน่นอน ซงเปนการกำหนดมลคา สัญญาประกนภัยแบบน เป็นการผสมระหว่างสญญาประกนภัยแบบชดใช้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง
็
ั
่
ึ
ู
ั
้
ั
ี
ั
ชดใช้เมื่อเริ่มเสี่ยงภัย (Value at the commencement of the risk ) เมื่อเกิดความเสียหายหรือความสูญเสียขึ้น และสัญญาประกนภัยแบบกำหนดมูลค่า เช่น การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ซงคุ้มครองผู้เอาประกันภัยในกรณี
ั
่
ึ
์
็
ต่อสินค้าที่เอาประกันภัยไว้ กจะถือตามจำนวนเงินเอาประกันภัยที่กำหนดไว้ในกรมธรรมประกนภัย เป็นมูลค่าของ ที่ประสบอบัติเหตุและมีผลใหเสยชีวิต สูญเสียอวัยวะและสายตา ทพพลภาพ ตลอดจนค่ารักษาพยาบาลจากการ
ั
ี
ุ
ุ
้
สินค้าที่จะชดใช้ ซึ่งจะแตกต่างจากกรมธรรมประกันภัยที่ไม่กำหนดมูลค่า (Unvalued Policy) ซึ่งเป็นการกำหนด ประสบอบัติเหตุ และในบางกรมธรรมประกนภัย อาจคุ้มครองถึงเงนชดเชยรายได้ตอวันในกรณีประสบอบัติเหตุ
์
่
ุ
ั
ุ
ิ
์
มูลค่าชดใช้ ณ วันเกิดเหตุ ซงจะต้องมีการคำนวณมูลค่า ณ วันเกิดเหตุ (Value at the time when the loss และต้องนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน เป็นต้น
ึ
่
occurred ) เสมอ 3.1 ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยประสบอุบัติเหตุเสยชีวิต สูญเสียอวัยวะและสายตา หรือ ทุพพลภาพ
ี
จำนวนเงนเอาประกนภัย (Amount Insured) ในการประกนภัยสินค้าที่ขนส่งทางทะเลโดยทั่วไปมกจะ ผู้รับประกนภัยจะชดใช้เป็น % ของจำนวนเงนเอาประกันภัย ซึ่งเป็นลักษณะของสัญญาประกนภัยแบบกำหนด
ั
ั
ิ
ั
ิ
ั
ั
เท่ากับราคา CIF บวก 10% (หรือ 110% ของราคา CIF) เหตุที่บวกอีก 10% ทั้ง ๆ ที่ราคา CIF คอ จำนวนเงินที่ มูลค่า
ื
ึ
ผู้ซื้อสินค้าจะต้องจายไปเพอได้สินค้ามาถงจุดหมายปลายทาง ก็เพราะเป็นที่ยอมรับกนว่า ในทางปฏิบัติผู้ซื้อสินค้า
ื่
่
ั
่
ต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกกอนที่จะได้รับสินค้า ณ โรงเก็บสินค้าของตน เช่น ค่าดำเนินการด้านการออกของและค่า
ั
ิ่
ขนส่งถึงจุดหมายปลายทาง เป็นต้น จำนวน 10% ที่เพมจากราคา CIF ถือว่าเป็นอัตราที่ผู้รับประกนภัยยินยอมจะ
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ั
ิ
ํ
้
ั
ิ
ิ
ิ
์