Page 10 - InsuranceJournal127
P. 10
วิชาการ IPRB
ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุดจาก Insurance Fraud คือการเพิ่มค่าเบี้ยประกันภัย ตัวอย่างเช่น ปี 2011 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการ
ประเมินค่าความเสียหายจาก Insurance Fraud คิดเป็นปีละ 10% หรือคิดเป็นเงิน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,060 ล้านบาท) ซึ่งเป็น
เหตุท�าให้ต้องมีการเพิ่มเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัยเฉลี่ยปีละ 200 ถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐ (ผู้เอาประกันภัย 7,000-10,000 บาท) ซึ่งนับ
ได้ว่าเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้เอาประกันภัยอย่างมาก
การตรวจสอบการฉ้อฉลในประกันภัย
มูลค่าความเสียหายต่ออุตสาหกรรมที่เกิดจาก Insurance Fraud ท�าให้หลายประเทศให้ความส�าคัญที่จะหาวิธีลดมูลค่าความเสียหาย
และหาวิธีจัดการในหลายด้าน เช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีองค์กรที่ชื่อว่า National Insurance Crime Bureau (NICB) เป็นองค์กรที่ไม่
แสวงหาก�าไรซึ่งภาคธุรกิจประกันภัยเอกชนสนับสนุนจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการกับ Insurance Fraud โดยการใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์
(Data Analytics) จากฐานข้อมูลที่บริษัทผู้รับประกันภัยเอกชนส่งข้อมูลรายละเอียดกรมธรรม์ ค่าสินไหมทดแทน และการเจรจาตกลงค่าสินไหม
ทดแทน (Loss Adjustment) รวมถึงท�าการตรวจสอบ การสืบสวนด้านการฉ้อฉลและการสร้างความตระหนักรู้ให้กับสาธารณะ
ิ
ู
ิ
ี
่
NICB ใช้วธการวเคราะห์ข้อมูลเชิงท�านาย (Predictive Analytics) ซึ่งเป็นการเรียนร้จากประสบการณ์ของข้อมูลที่มีอยูไปท�านาย
ั้
ี
ึ่
ื่
พฤติกรรม หรือโอกาสของการฉ้อฉล ฐานข้อมูลท่ NICB เป็นผู้บริหารจัดการข้อมูลนนได้รับจากบริษัทผู้รับประกันภัย ซงมีชอว่า ForeWARN โดย
บริษัทผู้รับประกันภัยที่เป็นสมาชิกของ NICB สามารถเข้าใช้เพื่อรับรายงานข้อเท็จจริงของการฉ้อฉลในอดีต การวิเคราะห์แนวโน้ม รูปแบบหรือ
พฤติกรรมการฉ้อฉลจากแบบจ�าลองที่พัฒนาขึ้น
การวิเคราะห์ข้อมูลนั้นมีหลายเทคนิค เนื่องจากการใช้เพียงเทคนิคเดียวไม่สามารถตรวจสอบ Insurance Fraud ได้ครบทุกรูปแบบ รูป
ที่ 1 แสดงเทคนิคการวิเคราะห์หลายวิธีตามรูปแบบของ Insurance Fraud [SAS]
รูปที่ 1: เทคนิคการตรวจสอบ Insurance Fraud [SAS]
10 วารสารประกันภัย ฉบับที่ 127