Page 33 - InsuranceJournal146
P. 33
ฎีกาย่อและย่อค�าชี้ขาดอนุญาโตตุลาการ
ค�าพิพากษาศาลฎีกาที่ 2122/2559
โจทก์ บริษัท ส.ประกันภัย จ�ากัด
ฎีกาย่อ จ�าเลย นายอุทัย เริงนภาพล
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ม.31
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2540 ม.12
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 ม.11
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.193/30, 880
ช. เอาประกันภัยรถจักรยานยนต์ไว้กับโจทก์ เป็นการเอา โจทก์อุทธรณ์
ั
ึ
ประกันภยตาม พ.ร.บ. คมครองผ้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซ่งมาตรา ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์
ุ
้
ู
ึ
ื
7 บังคับให้เจ้าของรถซ่งใช้รถหรือมีรถไว้เพ่อใช้ต้องจัดให้มีการประกัน ให้เป็นพับ
ภัยความเสียหายสาหรับผู้ประสบภัย หากมีความเสียหายเกิดข้นแก่ โจทก์ฎีกา
�
ึ
ั
ั
ั
ผ้ประสบภยจากรถท่โจทก์รบประกนภยไว้ โจทก์ต้องจ่ายค่าเสยหาย ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหา
ั
ี
ู
ี
ื
ิ
ี
�
เบ้องต้นแก่ผู้ประสบภัยให้เสร็จส้นภายใน 7 วันนับแต่วันท่ได้รับคาร้องขอ ข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ี
โดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 20 และ 25 หรือไม่ เห็นว่า การท่นายชุมพลเอาประกันภัยรถจักรยานยนต์ หมายเลข
�
เม่อได้จ่ายค่าเสียหายเบ้องต้นแก่ผู้ประสบภัยไปแล้วเป็นจานวนเท่าใด ทะเบียน ลาปาง ร-6993 ไว้กับโจทก์ เป็นการเอาประกันภัยตาม
ื
�
ื
ึ
ี
ึ
�
โจทก์มีสิทธิไล่เบ้ยเอาแก่บุคคลภายนอกซ่งเป็นผู้กระทาให้เกิดความเสียหาย พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซ่งมาตรา 7 แห่ง
ึ
ึ
ี
ได้ตามมาตรา 31 อันเป็นสิทธิท่เกิดข้นโดยผลของกฎหมายซ่งบัญญัต พระราชบัญญัติดังกล่าวบังคับให้เจ้าของรถซ่งใช้รถหรือมีรถไว้เพ่อใช้
ิ
ึ
ื
ื
�
ไว้เป็นการเฉพาะ มิใช่เป็นเร่องโจทก์รับช่วงสิทธิของผู้ประสบภัยมาฟ้อง ต้องจัดให้มีการประกันภัยความเสียหายสาหรับผู้ประสบภัย หากมีความ
ไล่เบ้ยเอาแก่จาเลย ท้งไม่เข้าเหตุท่จะรับช่วงสิทธิได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา เสียหายเกิดข้นแก่ผู้ประสบภัยจากรถท่โจทก์รับประกันภัยไว้ โจทก์ต้อง
ี
ึ
ี
ั
ี
�
880 เพราะผู้ประสบภัยไม่ใช่ผู้เอาประกันภัย โดยเดิม พ.ร.บ. คุ้มครอง จ่ายค่าเสียหายเบ้องต้นแก่ผู้ประสบภัยให้เสร็จส้นภายใน 7 วันนับแต่
ิ
ื
ผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 31 วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดย วันที่ได้รับค�าร้องขอ โดยไม่ต้องรอการพิสูจน์ความรับผิดตามที่บัญญัติ
มาตรา 12 แห่ง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ไว้ในมาตรา 20 และ 25 เมื่อได้จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย
(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2540 บัญญัติให้การใช้สิทธิไล่เบี้ยต้องกระท�าภายใน ไปแล้วเป็นจานวนเท่าใด โจทก์มีสิทธิไล่เบ้ยเอาแก่บุคคลภายนอกซ่ง ึ
ี
�
1 ปี นับแต่วันรู้ตัวผู้ซึ่งต้องรับผิด แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 5 ปีนับแต่วันที่ได้ เป็นผู้กระทาให้เกิดความเสียหายได้ตามมาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัต ิ
�
จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ประสบภัย แต่ต่อมามี พ.ร.บ. คุ้มครอง ดังกล่าว อันเป็นสิทธิที่เกิดขึ้นโดยผลของกฎหมายซึ่งบัญญัติไว้เป็นการ
ื
ี
ผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550 มาตรา 11 ซึ่ง เฉพาะ มิใช่เป็นเร่องท่โจทก์รับช่วงสิทธิของผู้ประสบภัยมาฟ้องไล่เบ้ย
ี
�
ั
ี
ี
เป็นกฎหมายท่มีผลใช้บังคับในขณะเกิดเหตุ ให้ยกเลิกวรรคสอง เอาแก่จาเลย ท้งไม่เข้าเหตุท่จะรับช่วงสิทธิได้ตามประมวลกฎหมายแพ่ง
ของมาตรา 31 แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่ง และพาณิชย์ มาตรา 880 เพราะผู้ประสบภัยมิใช่ผู้เอาประกันภัย โดย
แก้ไขเพ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 เดิมพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 มาตรา 31
ิ
ี
ิ
(ฉบับท่ 3) พ.ศ. 2540 โดยมิได้มีการแก้ไขเพ่มเติมให้ใช้ข้อความใหม่ วรรคสอง แก้ไขเพิ่มเติมโดย มาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง
ี
ิ
แทนข้อความเดิมท่ถูกยกเลิกไป จึงเป็นกรณีท่ไม่มีกฎหมายบัญญัต ผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2540 บัญญัติให้การใช้สิทธิไล่เบี้ย
ี
เรื่องอายุความไล่เบ้ยไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. ต้องกระท�าภายใน 1 ปีนับแต่วันรู้ตัวผู้ซึ่งต้องรับผิด แต่ทั้งนี้ต้องไม่เกิน
ี
มาตรา 193/30 เมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่ที่โจทก์จ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น 5 ปีนับแต่วันท่ได้จ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ประสบภัย แต่ต่อมา
ี
ให้แก่ผู้ประสบภัยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 จนถึงวันที่โจทก์ฟ้องคดี มีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2550
ี
ึ
ยังไม่พ้นก�าหนด 10 ปี สิทธิเรียกร้องของโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ มาตรา 11 ซ่งเป็นกฎหมายท่มีผลใช้บังคับในขณะเกิดเหตุ ให้ยกเลิก
ุ
ู
ิ
ั
ั
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคาฟ้องขอให้บังคับจาเลยช�าระเงิน 15,714 วรรคสองของมาตรา 31 แห่งพระราชบญญตค้มครองผ้ประสบภย
ั
�
�
ึ
บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้น จากรถ พ.ศ. 2535 ซ่งแก้ไขเพ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครอง
ิ
ไปจนกว่าจะช�าระเสร็จแก่โจทก์ ผู้ประสบภัยจากรถ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2540 โดยมิได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม
่
ี
ึ
ิ
ู
่
ี
ี
จ�าเลยให้การขอให้ยกฟ้อง ให้ใช้ข้อความใหม่แทนข้อความเดมทถกยกเลกไป จงเป็นกรณทไม่ม ี
ิ
�
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ชาระค่าฤชาธรรมเนียม กฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไล่เบี้ยไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความ
แทนจ�าเลย ก�าหนดค่าทนายความให้ 3,000 บาท ก�าหนดค่าใช้จ่าย (ที่ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 เมื่อนับ
ถูกค่าใช้จ่ายในการด�าเนินคดี) แทนจ�าเลย 157 บาท ระยะเวลาต้งแต่ท่โจทก์จ่ายค่าเสียหายเบ้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัย
ี
ั
ื
วารสารประกันภัย ฉบับที่ 146 33