Page 166 - InsuranceHandbook
P. 166
บทที่ 12 การบริหารความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย 147
ิ
ในการดำเนนงานเพอให้บรรลุถึงวิสัยทัศน์และพนธกิจของบริษัทได้นั้น ค่านิยมของบริษัทกถือเป็นปัจจัย 5. กระบวนการบริหารความเสี่ยง
ื่
็
ั
่
สำคัญ ค่านิยม (Core Values) หมายถึง คุณลักษณะและบรรทัดฐานที่เป็นลักษณะเฉพาะของแตละบริษัท กระบวนการบริหารความเสี่ยง ประกอบด้วยขั้นตอนต่าง ๆ 5 ขั้นตอนดังต่อไปนี้
ประกันภัย ซึ่งเป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมและแนวทางในการปฏิบัติงานของพนักงานและชี้นำการตัดสินใจต่าง ๆ ที่จะ
มผลต่อการดำเนินงาน
ี
เนื่องจากเป้าหมายของบริษัทเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จหรือผลลัพธ์ที่บริษัทต้องการจะบรรลุใน
ิ
อนาคตภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่มีอยู่ในการประกอบธุรกจ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ ไม่ว่าจะเป็น
เป้าหมายด้านการเงิน เป้าหมายด้านลูกค้า เป้าหมายด้านกระบวนการทำงาน และเป้าหมายด้านบุคลากร จะช่วยให้
ิ
บุคลากรของแตละหนวยงานสามารถวางแผนกลยทธ์และการดำเนนงานในหน่วยงานของตนใหสอดคล้องกับ
่
ุ
่
้
เป้าหมายของบริษัท ทั้งนี้ บริษทประกนภัยจะต้องมการวัดผลการดำเนนงานอยางต่อเนองเพอให้ทราบว่าบริษัท
ื่
ั
ั
ี
่
่
ื
ิ
ี
สามารถบรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้แล้วมากน้อยเพยงไร และระบุว่ามีสิ่งใดบางที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
้
แตกต่างไปจากสิ่งที่ได้กำหนดไว้หรือคาดการณ์ไว้ ซงสิ่งเหล่านี้ก็คือ “ความเสี่ยง” ที่เราเข้าใจและให้นิยามกันนั่นเอง
่
ึ
้
เนื่องจากความเสี่ยงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการประกอบธุรกิจ บริษัทประกันภัยจึงควรตองกำหนด
“ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้” (Risk Appetite) ของตนเองว่า ระดับความเสี่ยงในภาพรวมที่บริษัทเต็มใจยอมรับ
ี
เพอให้บรรลุภารกิจ วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ และเปาหมายทางธุรกจ มีมากน้อยเพยงใด นอกจากนี้ ยังต้องม
ื่
ิ
้
ี
้
่
ี
่
ึ
ี
การกำหนด “ช่วงความเบ่ยงเบนทยอมรับได” (Risk Tolerance) ซงเป็นระดับความเสี่ยงที่กำหนดยอยลงมาจาก
่
ื่
ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพือกำหนดกรอบในการดำเนินงานเพอให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยอาจกำหนด รูปภาพที่ 12-3 กระบวนการบริหารความเสี่ยง
่
ย่อยลงมาตามประเภทความเสี่ยง ผลิตภัณฑ หรือกิจกรรมหลัก ตามความเหมาะสม
์
ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะความเสี่ยงหลัก (Key Risks) นั้น ควรจะถูกระบุและประเมิน 5.1 การระบุความเสี่ยง (Risk Identification)
ออกมาให้ครบถ้วน ทั้งความเสี่ยงด้านลบและความเสี่ยงด้านบวก เพอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการ การระบุความเสี่ยงเป็นขนตอนแรกของกระบวนการบริหารความเสี่ยงในการระบว่า จะมีความเสี่ยงอะไร
ื่
ุ
ั
้
ื
่
ุ
ความเสี่ยงเหล่านี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้และหาวิธีการจัดการเพอทำให้บริษัทบรรลเป้าหมายทได้กำหนดไว้ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้บ้างทั้งภายในและภายนอกบริษัท ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการบรรลุเป้าหมายของบริษัท และ
ี
่
ความเสี่ยงเหล่านี้อาจมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมภายในบริษัทเอง (การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร ภาพความเสยงรวมของบริษัทด้วย ในการระบุความเสี่ยงนั้น ควรต้องมีการระบุสาเหตุหรือแหล่งที่มาของ
่
ี
ิ
ี
โครงสรางการบรหารงาน อำนาจการตดสนใจ การกำกับดแล และการตรวจสอบภายใน การเปลยนแปลงสถานะ แต่ละความเสี่ยง เพอให้บริษัทสามารถกำหนดมาตรการที่เฉพาะเจาะจงที่จะไปจัดการกับความเสี่ยงเหล่านั้นได้ถูกท ี่
่
ู
้
ั
ิ
ื่
ทางการเงิน เงนกองทน การเปลยนรูปแบบการทำธุรกจ การเปลี่ยนแปลงระบบและกระบวนการทำงาน หรือ นอกจากนี้แล้ว ยังควรมีการระบุถึงผลกระทบที่ความเสี่ยงเหล่านั้นจะส่งผลต่อบริษัทประกันภัยในด้านตาง ๆ เช่น
่
ี
ุ
ิ
ิ
่
ู
่
้
การนำเทคโนโลยีรปแบบตางๆ มาใช้ในบริษัท) หรือสภาวะแวดลอมภายนอกบริษัท (การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย ผลกระทบด้านกลยุทธ์ (ชื่อเสียง ผลการจัดอนดับความน่าเชื่อถือ) ผลกระทบด้านการเงน (รายได ผลกำไร
ั
ิ
้
ั
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและทศนคติของผู้บริโภค ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เหตุการณ์ทางการเมือง เงินกองทุน สภาพคลอง) และผลกระทบด้านการดำเนินงาน (ประสิทธิภาพในการทำงาน การขาดแคลนบคลากร
ุ
่
การเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ การเกิดเหตุการณ์ที่เป็นมหันตภัย) ก็เป็นได้ การหยุดชะงักของธุรกิจ ความสามารถในการปฏิบตตามกฎหมายกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง) เพอให้บริษัทประกันภัย
ื่
ั
ิ
์
การระบุความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผลลัพธ์ต่างไปจากที่เราคาดการณไว้ รวมทั้งสาเหตุของความเสี่ยงเหล่านี้ สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในการจดลำดบความสำคญของความเสยงและกำหนดมาตรการบรหารความเสยงที่
ั
ิ
ั
ั
ี
่
ี
่
และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้เราสามารถกำหนดมาตรการที่เหมาะสม เพอบริหารจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ เหมาะสมต่อไป
ื่
ิ
และทำให้ผลลัพธ์ที่เกดขึ้นเป็นไปตามที่เราต้องการและอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และเนื่องจากสภาวะแวดล้อมภายใน การระบุความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ควรจะตองระบุทั้งความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและส่งผลกระทบด้านลบ
้
และภายนอกบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ตลอด เราจึงต้องมีการติดตามผล และด้านบวก ซึ่งเป็นโอกาสที่บริษัทประกันภัยควรหาผลประโยชน์ควบคู่กัน
การบริหารความเสี่ยงและติดตามสถานะความเสี่ยงของบริษัทอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งระบุความเสี่ยงในแต่ละช่วงเวลา เทคนิควิธีในการระบุความเสี่ยงนั้นมีหลากหลาย เช่น การจัดทำแบบสอบถามเพอสำรวจความคดเห็นจาก
ื่
ิ
ซึ่งอาจเกิดขึ้นแล้วทำให้องค์กรของเราไม่บรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ผู้บริหาร การจัดประชุมเพอระดมสมองและความเหน การใช้ข้อมูลภายในบริษัทและข้อมูลจากภายนอกเพอให้
ื
ื่
็
่
การดำเนินการดังที่กล่าวมาข้างต้น เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการในการบริหารความเสี่ยง บริษัทประกันภัย ทราบถึงสภาวการณ์และแนวโน้มของความเสี่ยงอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้น
ต้องมีการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพอให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งในระยะสั้น
ื่
และระยะยาว และมีการวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
์
ิ
ิ
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ิ
้
ํ
ั
ั
ิ