Page 167 - InsuranceHandbook
P. 167
148 คู่มือประกันวินาศภัยไทย
Thai General Insurance Handbook
5.2 การประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment)
การประเมินความเสี่ยงโดยทั่วไปจะพิจารณาใน 2 มิติ คือการประเมินโอกาส ความถี่ หรือความน่าจะเป็น
ิ
(Frequency/ Probability) และการประเมินความรุนแรงหรือผลกระทบ (Impact/ Severity) โดยการประเมน
ความเสี่ยงนี้สามารถทำได้ทั้งการประเมินเชิงปริมาณ (การประเมินที่วัดมูลค่าออกมาเป็นตัวเลข) และการประเมิน
เชิงคุณภาพ (การประเมินที่ไม่สามารถวัดมูลค่าออกมาเป็นตัวเลขได้)
เมื่อได้ประเมินโอกาส และ/หรือ ผลกระทบของความเสี่ยงเหล่านี้แล้ว จึงนำความเสี่ยงที่ได้ระบุไว้
่
ั
มาจัดลำดับความเสี่ยง เพอระบุว่าความเสี่ยงใดเป็นความเสี่ยงหลักที่จะส่งผลกระทบตอความม่นคงทางการเงิน
ื่
ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และการอยู่รอดของบริษัทประกันภัยอย่างมีนัยสำคัญ เพอที่บริษัทจะไดหามาตรการ
้
ื่
ในการตอบสนองความเสี่ยงเหล่านี้อย่างทันกาลและเหมาะสม
นอกจากนี้ ยังต้องมีการกำหนด “เจ้าของความเสี่ยง” (Risk Owner) สำหรับแต่ละความเสี่ยงหลักเพอทำ
ื่
หน้าที่ในการบริหารความเสี่ยงที่ตนรับผิดชอบให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้และช่วงความเบี่ยงเบนที่ยอมรับได้
ี
่
ึ
โดยเจ้าของความเสี่ยงเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำทะเบียนความเสยงของตน รวมถงกำหนดดัชนีชี้วัดความเสี่ยง
ั
และขีดจำกัดความเสี่ยงที่สอดคล้องกบระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ติดตามสถานะความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลง
่
ิ
ี
ิ
ิ
ของความเสี่ยงหลักของบริษัท และประเมนประสทธิภาพของมาตรการบรหารความเสยงทใช้ตามรอบระยะเวลาท ี ่
ี
่
เหมาะสม
5.3 การตอบสนองความเสี่ยง (Risk Response)
่
ื
ี
การตอบสนองความเสยงเป็นการระบุและเลอกเทคนควิธีการบริหารความเสี่ยงหรือมาตรการต่าง ๆ ที่
ิ
ื่
่
บริษัทประกันภัยจะดำเนินการเพอบริหารความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยทวไปแลว การตอบสนองความ
้
ั
เสี่ยงจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเด็นหลักคือ 1) การควบคุมความเสี่ยง (Risk Control) และ 2) การจัดหาแหล่ง
เงินทุนในการบริหารความเสี่ยง (Risk Financing)
ในการควบคุมความเสี่ยงนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีหลัก คือ 1) การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง (Risk
ั
่
Avoidance) ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่จะไม่รับความเสี่ยงเข้ามา เช่น การปฏิเสธไมรับประกนภัย การไมลงทนใน
ุ
่
สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง การไม่ทำประกันภัยต่อกับบริษัทที่มีผลการจดอันดับความนาเชื่อถอต่ำกว่า A- หรือไม่
ั
่
ื
ลงทุนในตราสารที่ผู้ออกหลักทรัพย์มีอนดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่า A- และ 2) การลดความเสี่ยง (Risk Reduction)
ั
่
ซึ่งเป็นการลดโอกาส และ/หรือ ผลกระทบของความเสี่ยง เช่น การจัดให้มีความรับผิดสวนแรก(Deductible)
สำหรับการประกันภัยรถยนต์ เพอให้ผู้เอาประกันภัยมีความระมัดระวังในการขับขี่มากยิ่งขึ้น การจัดให้มีระบบ
ื่
่
ื
ี
ั
ป้องกันและระงับอคคภัยรวมถึงอปกรณ์ดับเพลงในโรงงาน เพอลดโอกาสและความรุนแรงในกรณีที่เกิดไฟไหม้
ุ
ิ
ิ
่
ิ
ั
การจดใหมนโยบาย แนวปฏิบัติ และคู่มือในการพจารณารับประกนภัย เพือลดความผดพลาดในการปฏิบัติงาน
ั
ี
้
ิ
ิ่
การนำเทคโนโลยีมาใช้ทดแทนงานที่เป็นการทำซ้ำหรือมีความซับซ้อน เพื่อลดความผิดพลาดและเพมประสทธิภาพ
ในการทำงาน
สำหรับการจัดหาแหล่งเงินทุนในการบริหารความเสี่ยงนั้น สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธีหลัก คือ
1) การโอนความเสี่ยง (Risk Transfer) เช่น การทำประกันภัยต่อ วิธีนี้จะทำให้มีผู้เข้ามาช่วยรับภาระทางการเงินใน
การจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งก็คือบริษัทประกันภัยต่อ และ 2) การรับความเสี่ยง (Risk Retention) ซึ่งเป็นการเก็บ
ความเสี่ยงไว้เอง ดังนั้น เมื่อเกิดความเสียหายขึ้น เราจึงต้องเป็นผู้รับภาระในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนจากเงินของ
บริษัท
์
ิ
ิ
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ิ
้
ํ
ั
ั
ิ