Page 165 - InsuranceHandbook
P. 165
146 คู่มือประกันวินาศภัยไทย
Thai General Insurance Handbook
ิ
ในการดำเนนงานเพอให้บรรลุถึงวิสัยทัศน์และพนธกิจของบริษัทได้นั้น ค่านิยมของบริษัทกถือเป็นปัจจัย
็
ั
ื่
่
สำคัญ ค่านิยม (Core Values) หมายถึง คุณลักษณะและบรรทัดฐานที่เป็นลักษณะเฉพาะของแตละบริษัท
ประกันภัย ซึ่งเป็นสิ่งกำหนดพฤติกรรมและแนวทางในการปฏิบัติงานของพนักงานและชี้นำการตัดสินใจต่าง ๆ ที่จะ
ี
มผลต่อการดำเนินงาน
เนื่องจากเป้าหมายของบริษัทเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จหรือผลลัพธ์ที่บริษัทต้องการจะบรรลุใน
อนาคตภายใต้ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่มีอยู่ในการประกอบธุรกจ การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ ไม่ว่าจะเป็น
ิ
เป้าหมายด้านการเงิน เป้าหมายด้านลูกค้า เป้าหมายด้านกระบวนการทำงาน และเป้าหมายด้านบุคลากร จะช่วยให้
บุคลากรของแตละหนวยงานสามารถวางแผนกลยทธ์และการดำเนนงานในหน่วยงานของตนใหสอดคล้องกับ
ิ
้
ุ
่
่
เป้าหมายของบริษัท ทั้งนี้ บริษทประกนภัยจะต้องมการวัดผลการดำเนนงานอยางต่อเนองเพอให้ทราบว่าบริษัท
ิ
ื่
ี
ั
่
่
ั
ื
สามารถบรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้แล้วมากน้อยเพยงไร และระบุว่ามีสิ่งใดบางที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
้
ี
ึ
แตกต่างไปจากสิ่งที่ได้กำหนดไว้หรือคาดการณ์ไว้ ซ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือ “ความเสี่ยง” ที่เราเข้าใจและให้นิยามกันนั่นเอง
้
เนื่องจากความเสี่ยงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการประกอบธุรกิจ บริษัทประกันภัยจึงควรตองกำหนด
“ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้” (Risk Appetite) ของตนเองว่า ระดับความเสี่ยงในภาพรวมที่บริษัทเต็มใจยอมรับ
ิ
เพอให้บรรลุภารกิจ วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ และเปาหมายทางธุรกจ มีมากน้อยเพยงใด นอกจากนี้ ยังต้องม
ี
ื่
้
ี
่
ี
่
ี
้
การกำหนด “ช่วงความเบ่ยงเบนทยอมรับได” (Risk Tolerance) ซงเป็นระดับความเสี่ยงที่กำหนดยอยลงมาจาก
ึ
่
่
ื่
ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพือกำหนดกรอบในการดำเนินงานเพอให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ โดยอาจกำหนด
ย่อยลงมาตามประเภทความเสี่ยง ผลิตภัณฑ หรือกิจกรรมหลัก ตามความเหมาะสม
์
ความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจโดยเฉพาะความเสี่ยงหลัก (Key Risks) นั้น ควรจะถูกระบุและประเมิน
ื่
ออกมาให้ครบถ้วน ทั้งความเสี่ยงด้านลบและความเสี่ยงด้านบวก เพอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถบริหารจัดการ
ี
ื
่
ุ
่
ความเสี่ยงเหล่านี้ให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้และหาวิธีการจัดการเพอทำให้บริษัทบรรลเป้าหมายทได้กำหนดไว้
ความเสี่ยงเหล่านี้อาจมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมภายในบริษัทเอง (การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร
้
ี
ิ
ู
่
โครงสรางการบรหารงาน อำนาจการตดสนใจ การกำกับดแล และการตรวจสอบภายใน การเปลยนแปลงสถานะ
ั
ิ
ิ
ี
ทางการเงิน เงินกองทน การเปล่ยนรูปแบบการทำธุรกจ การเปลี่ยนแปลงระบบและกระบวนการทำงาน หรือ
ุ
การนำเทคโนโลยีรปแบบตางๆ มาใช้ในบริษัท) หรือสภาวะแวดลอมภายนอกบริษัท (การเปลี่ยนแปลงกฎหมาย
ู
้
่
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและทศนคตของผู้บริโภค ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เหตุการณ์ทางการเมือง
ิ
ั
การเปลี่ยนแปลงของสภาวะเศรษฐกิจ การเกิดเหตุการณ์ที่เป็นมหันตภัย) ก็เป็นได้
์
การระบุความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ผลลัพธ์ต่างไปจากที่เราคาดการณไว้ รวมทั้งสาเหตุของความเสี่ยงเหล่านี้
ื่
และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้เราสามารถกำหนดมาตรการที่เหมาะสม เพอบริหารจัดการความเสี่ยงเหล่านี้
ิ
และทำให้ผลลัพธ์ที่เกดขึ้นเป็นไปตามที่เราต้องการและอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และเนื่องจากสภาวะแวดล้อมภายใน
และภายนอกบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงได้ตลอด เราจึงต้องมีการติดตามผล
การบริหารความเสี่ยงและติดตามสถานะความเสี่ยงของบริษัทอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งระบุความเสี่ยงในแต่ละช่วงเวลา
ซึ่งอาจเกิดขึ้นแล้วทำให้องค์กรของเราไม่บรรลุเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้
การดำเนินการดังที่กล่าวมาข้างต้น เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการในการบริหารความเสี่ยง บริษัทประกันภัย
ื่
ต้องมีการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง เพอให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ทั้งในระยะสั้น
และระยะยาว และมีการวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการบริหารความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง
ิ
์
ิ
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ิ
้
ํ
ั
ั
ิ