Page 38 - InsuranceHandbook
P. 38
บทที่ 2 การบริหารความเสี่ยงขององค์กร 19
รับผิดชอบต่อความเสียหายนั้นแทนเจ้าของอาคาร การจ้างบริษัทภายนอกมาทำหน้าที่รับส่งเอกสาร หรือสินค้า จากตารางข้างต้นสามารถอธิบายถึงวิธีการบริหารความเสี่ยงที่ธุรกิจควรใช้ในแต่ละระดับความเสี่ยง ดังนี้
ี
่
ให้แก่ธุรกิจ 1. ความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดน้อยมาก และมีค่าเสียหายทเกิดขึ้นแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินที่น้อยมาก
ั
2) การโอนความเสี่ยงโดยการเอาประกนภัย (Insurance Transfer) เป็นวิธีซึ่งธุรกิจที่มี ควรบริหารความเสี่ยงด้วยการรับความเสี่ยงไว้เอง เพราะไม่คุ้มที่จะไปเอาประกันภัย หรือจ้างเจ้าหน้าที่รักษา
ความเสี่ยงประเภทต่าง ๆ จะโอนความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นไปให้ผู้รับประกนภัยโดยการเอาประกนภัย ความปลอดภัย เช่น การที่มีลูกค้าเข้ามาติดต่องานในสำนักงาน และทำแก้วน้ำตกแตก เป็นต้น
ั
ั
ึ
่
ซงผู้รับประกันภัยสัญญาว่าจะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ผู้เอาประกันภัยสำหรับความเสียหายที่ได้รับการคุ้มครอง 2. ความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดบ่อย และมีค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินไม่มาก ควรบริหาร
ั
ตามสัญญาประกนภัยนั้น ความเสี่ยงด้วยการรับความเสี่ยงไว้เอง ควบคู่ไปกับการปองกันความสูญเสีย และการบรรเทาความสูญเสียที่อาจ
้
่
ั
2.4 การผสมผสาน (Combination Techniques) ระหว่างการรับความเสี่ยงไว้เองบางสวนกบ เกิดขึ้น เช่น การที่มีลูกคาเขามาตดตองานในสำนักงาน และมักจะหยิบปากกาติดตัวกลับไปด้วย ธุรกจอาจจะ
ิ
่
้
ิ
้
ั
่
ี
ั
ั
วิธีการโอนความเสยงโดยการเอาประกนภัยเข้าด้วยกน เป็นการโอนความเสี่ยงในรูปของการเอาประกนภัยโดย ยอมรับภาระค่าปากกาแต่ละด้ามที่สูญหายไปเองซึ่งมีมูลค่าไม่มากนัก หรืออาจป้องกันโดยการทำแป้นเสียบปากกา
ั
ั
ั
ผู้เอาประกนภัยรับผิดชอบค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเอง เช่น 2,000 บาทแรกสำหรับความเสียหายต่อตัวรถอนเกิดจาก พร้อมกับเอาเชือกผูกติดกบปากกานั้น เป็นต้น
ั
ิ
่
การชน ในกรณีเช่นนี้ ค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) 2,000 บาทที่ผู้เอาประกนภัยจะต้องรับผิดชอบจ่ายเอง 3. ความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดน้อยมาก แต่มีค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงนทสูงมากจน
ี
สำหรับความเสียหายต่อตัวรถที่เกิดจากการชนแต่ละครั้งก็ถือเป็นการรับความเสี่ยงไว้เองบางส่วนเพอแลกกบ เกินความสามารถที่จะรับความเสี่ยงไว้เองได้ ควรบริหารความเสี่ยงด้วยการโอนความเสี่ยงโดยการเอาประกันภัย ซง
ื่
ึ
ั
่
้
ั
ิ
การจ่ายค่าเบี้ยประกนภัยที่ถูกลง ธุรกิจที่ตัดสินใจเช่นนี้มั่นใจว่ารถที่ตนเอาประกนภัยไว้นนไมเคยเกดอุบัติเหตุมา ผู้เอาประกันภัยจะตองจ่ายเบี้ยประกันภัยจำนวนหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นจำนวนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับวงเงินที่ได้รับ
่
ั
้
ั
เป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน การคุ้มครอง เช่น
3.1 โอกาสที่จะเกิดไฟไหม้ในสำนกงาน หรือโรงงานมีไม่บ่อยนัก แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้วอาจจะมีค่าเสยหาย
ี
ั
2.3 การคัดเลือกวิธีการที่คิดว่าดีที่สุดในการบริหารความเสี่ยง ค่อนข้างสูง ธุรกิจจึงควรจะเอาประกันอัคคีภัย หรือประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน
ี
ภายหลังจากที่ธุรกิจนั้นได้ค้นหาวิธีการบริหารความเสี่ยงวิธีต่าง ๆ ที่คิดว่าเป็นไปได้แล้ว ธุรกิจจะต้อง 3.2 โอกาสที่จะเกิดอบัติเหตุกับพนักงานระหว่างการปฏิบตงานมไม่บ่อยนัก แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว
ุ
ั
ิ
็
ี
ื
ตัดสินใจเลือกวิธีการบริหารความเสี่ยงที่คิดว่าเหมาะสมที่สุดวิธีการหนึ่ง หรือหลายวิธีร่วมกน จะมีพนักงานที่ได้รับบาดเจบ พการ ทพพลภาพ หรอเสยชีวิตได้ ซงเป็นจำนวนเงินค่าเสียหายที่ธุรกิจ
่
ึ
ิ
ุ
ั
แนวทางที่จะช่วยธุรกิจตัดสินใจว่าควรจะเลอกบริหารความเสี่ยงแต่ละอย่างดวยวิธีใด ควรพิจารณาปัจจัย ต้องรับผิดชอบที่สูงมาก จึงควรเอาประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลให้แก่พนักงาน
้
ื
ี
ต่อไปนี้ 4. ความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดบ่อยมาก และมค่าเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละครั้งเป็นจำนวนเงินที่สูงมากควรบริหาร
1. ความรุนแรงของความสูญเสีย (Loss Severity) ที่อาจจะเกิดขึ้นในรูปค่าเสียหายที่เป็นตัวเงิน ความเสี่ยงด้วยการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงนั้น เช่น การพาพนักงานไปทัศนาจรประจำปีที่ทะเลอนดามันในช่วงฤดูมรสุม
ั
ิ
ิ
2. ความถ่ของความสูญเสีย (Loss Frequency) หรือความน่าจะเป็น (Probability) ที่อาจจะเกิด มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบติเหตุเรือพลิกคว่ำสูงมาก ธุรกจจึงควรหลีกเลี่ยงการจัดรายการทศนาจรไปบรเวณนี้ใน
ี
ั
ั
ความสูญเสียขึ้น ช่วงเวลาดังกล่าว
3. ระดับของความเสี่ยงที่ธุรกิจยอมรับได้ (Risk Appetite)
ธุรกิจสามารถจะตัดสินใจเลอกวิธีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมโดยดูจากประเภทของความเสี่ยงตาม 2.4 การลงมือปฏิบัติตามแผน หรือวิธีการที่ได้เลือกไว ้
ื
่
ั
ี
ื
ลักษณะของความถี่ และความรุนแรงของความสูญเสีย ที่อาจเกิดขึ้นดังนี้ ภายหลังจากที่ธุรกิจได้ตัดสินใจเลือกวิธีการบริหารความเสี่ยงแล้ว ก็จะต้องปฏิบติตามวิธีการทได้เลอกไว้
ซึ่งจะต้องลงมือปฏิบัติอย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยจะต้อง
่
ตารางที่ 2-1 วิธีการบริหารความเสี่ยงที่ธุรกิจควรใช้ในแตละระดับความเสี่ยง 1. จัดการมอบหมายให้ใครรับผิดชอบในเรื่องอะไร
2. จัดการให้ผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนั้น ๆ ดำเนินการในรายละเอียด
ระดับของ ความถี่ของ ความรุนแรงของ
ู
ความเสี่ยง ความสญเสีย ความสูญเสีย วิธีการบริหารความเสี่ยงที่แนะนำ
ตัวอย่าง หากธุรกิจตัดสินใจที่จะบริหารความเสี่ยงการเกิดอัคคภัยภายในโรงงานโดยการติดตั้งถังดับเพลิง
ี
1 ต่ำ ต่ำ การรับความเสี่ยงไว้เอง แบบหิ้วไดก็จะต้อง
้
1. พิจารณาว่าควรจะเลือกสารเคมีแบบใดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับใช้ภายในโรงงาน
การรับความเสี่ยงไว้เอง และ/หรือ
2 สูง ต่ำ 2. กำหนดจุดที่จะติดตั้งถังดับเพลิงเหล่านี้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการใช้ดับเพลิงได้มากที่สุด
การป้องกันความสูญเสีย + การบรรเทาความสูญเสีย
3. คำนวณจำนวนถังดับเพลิงที่จะต้องจัดซื้อ เพื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณที่มี
3 ต่ำ สูง การโอนความเสี่ยงโดยการเอาประกันภัย 4. พิจารณาคุณสมบัติของบริษัทที่จำหน่ายถังดับเพลิงโดยเฉพาะบริการหลังการขายที่มี
ั
5. ฝึกอบรมพนกงานให้รู้จักวิธีการใช้ถังดับเพลิงเหล่านี้
4 สูง สูง การหลีกเลี่ยงความเสี่ยง 6. จัดตั้งทีมผจญเพลิง และกำหนดตารางการปฏิบัติงานตลอด 24 ชั่วโมง
7. กำหนดผู้รับผิดชอบรวมทั้งระยะเวลาในการตรวจความเรียบร้อยของถังดับเพลิงเหล่านี้
ิ
ิ
์
ิ
ั
้
ํ
ั
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ิ