Page 40 - InsuranceHandbook
P. 40
ตัวอย่าง หากธุรกิจตัดสินใจที่จะโอนความเสี่ยงโดยการเอาประกันภัยรถยนต์ก็จะต้อง บทที่ 3
1. กำหนดคุณสมบัติ และพิจารณาเลือกผู้รับประกันภัยที่ต้องการจะซื้อประกันภัยด้วย การประกันภัย
ื
2. ตกลงรายละเอียดการคุ้มครองที่ต้องการว่าจะเอาประกันภัยรถยนต์เป็นคัน ๆ หรอเป็นหมู่
ิ
ั
อัตราเบี้ยประกันภัย วิธีปฏิบัตในการแจ้งประกนภัยกรณีที่ธุรกิจมีการซื้อรถเพิมเติมระหว่างปี เงื่อนไขการชำระ ธโนดม โลกาพัฒนา
่
ู่
ุ
ุ
้
ค่าเบี้ยประกันภัย อที่สามารถจะนำรถเข้าซ่อมไดกรณีเกิดอบัติเหตุ ตลอดจนแนวทางปฏิบัติในกรณีที่เกิดอบัติเหตุ
ั
ั
่
ี
ขึ้น การโอนความเสยงโดยการเอาประกนภัย (Insurance Transfer) เป็นวิธีการจัดทางการเงินสำหรบ
่
3. กำหนดตัวเจ้าหน้าที่ของธุรกิจซึ่งจะเป็นผู้รับผิดชอบ และประสานงานในการแจ้งผู้รับประกันภัยกรณีที่ ความเสี่ยงเพือบรรเทาภาระความสูญเสียทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงที่เกิดไม่บ่อยนัก แต่มีค่าเสียหาย
เกิดอุบัติเหตุขึ้น ค่อนข้างมาก
ั
เบี้ยประกนภัยของธุรกิจประกันภัยทั้งระบบที่จัดเก็บได้ในแต่ละปีรวมทั้งเงินสำรองต่าง ๆ ที่ธุรกิจ
่
้
ู
ุ
ู
ั
ึ
้
ี
ั
2.5 การติดตามผลลัพธ์ที่ได้ ประกนภัยตองดำรงไว้ตามกฎหมายซงมอย่เป็นจำนวนมากไดถกนำไปใช้ในการลงทน และการพฒนาประเทศใน
ั
ิ
ภายหลังจากที่ธุรกิจได้ปฏิบัตตามวิธีการบริหารความเสี่ยงที่ได้เลือกไปแล้วสักระยะหนึ่ง จะต้องมี ด้านต่าง ๆ ทั้งในตลาดเงิน และตลาดทุนในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการซื้อพนธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง และการให้
ื่
ิ
ั
ี
การติดตามผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนนการตามวิธีการบริหารความเสี่ยงที่ได้เลือกไว้ว่ามความเหมาะสมกบ กู้ยืมแก่ภาคธุรกิจ จึงถือได้ว่า ธุรกิจประกันภัยมีบทบาทสำคัญในการระดมทุนเพอการพัฒนาประเทศด้วย
สภาวการณ์ในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาหรือไม่ ทั้งนี้ เพราะวิธีการบริหารความเสี่ยงบางอยาง เช่น
่
ุ
มาตรการในการป้องกันอบัติเหตุบางอย่างที่ได้กำหนดไว้เมื่อปีที่แล้วอาจไม่เหมาะสมในปีนี้ก็ได้ เนื่องจากม ี
่
สภาวการณบางอยางเปลยนแปลงไป บางครั้งอาจมีข้อผิดพลาดในการตัดสินใจเลือกวิธีการบริหารความเสี่ยง
่
์
ี
บางอย่าง
การติดตามผลลัพธ์ที่ได้อย่างสม่ำเสมอจะทำให้ธุรกิจทราบว่ามีข้อผิดพลาดอะไรบาง และสามารถ
้
ดำเนินการแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่จะสายเกินไป
การติดตามผลลัพธ์ที่ได้นี้ ธุรกิจควรมีการกำหนดมาตรฐานซึ่งเป็นที่ยอมรับของธุรกิจขึ้นมาด้วย เช่น
การกำหนดมาตรฐานอตราการเกิดอุบัติเหตุของพนักงานขณะปฏิบติงานภายในโรงงานในระยะเวลา 1 ปี หลงจาก
ั
ั
ั
นั้น จะต้องมีการติดตามผลลัพธ์ที่ได้จริง และทำการเปรียบเทียบผลลัพธ์ที่ได้จริงกับมาตรฐานที่วางไว้ หากยังคงมี
ั
ี
้
อตราการเกิดอบัติเหตุสูงกว่ามาตรฐานที่วางไว้ ธุรกิจควรจะตองวิเคราะห์ว่ามสาเหตเกิดจากอะไร เช่น เกิดจาก
ุ
ุ
่
ั
ความบกพรองของพนกงานที่ไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงงานอยางเครงครด หรือเกิดจากการที่พนักงาน
่
ั
่
้
ไม่เข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติงานบางอย่าง ซึ่งธุรกจจะตองรีบวิเคราะหหาสาเหตุ และพยายามหาทางแก้ไขโดยเร็ว
ิ
์
เช่น การจัดให้พนักงานในแผนกที่เกิดอบัติเหตุบ่อยเข้ารับการอบรมในหลักสูตรการทำงานอย่างปลอดภัย การให้
ุ
รางวัลแก่พนักงานในแผนกที่สามารถปฏิบัติงานโดยไม่เกดอุบัติเหตุใด ๆ เลยในระยะเวลา 1 ปี เป็นต้น รูปภาพที่ 3-1 เบี้ยประกันวินาศภัยรับตรงแยกตามประเภทการประกันภัย (พ.ศ. 2545-2563)
ิ
ที่มา: สำนักงานอัตราเบี้ยประกันวินาศภัย
ี่
2.6 การตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการให้เหมาะสมกับภัยทเปลี่ยนแปลงไป
ี
ภายหลังจากที่ธุรกิจได้ติดตามผลลัพธ์ของวิธีการบริหารความเสี่ยงที่ได้เลือกไว้แล้ว ในขั้นสุดท้ายของ การประกันภัยโดยทั่วไปมีจุดเริ่มต้นจากการที่มคนจำนวนมากซึ่งมีความเสี่ยงที่คล้ายคลึงกัน เช่น คนที่
้
ั
ุ
่
ี
การบริหารความเสี่ยง คือ การเปลยนแปลงวิธีการบริหารความเสี่ยงบางอย่างที่ใช้อยู่ให้เหมาะสมกับสภาพความ ทำงานในอาชีพ หรือในหน้าที่ต่าง ๆ ซึ่งอาจประสบอบติเหตุระหว่างการทำงาน หรือระหว่างการเดินทาง เจาของ
ึ
่
เสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงไปโดย บ้านซึ่งอาจจะได้รับความเสียหายหากเกิดเพลิงไหม้บ้านของเขา เจ้าของรถยนต์ซงอาจจะประสบอุบัติเหตุรถยนต์ชน
ั
ุ
1. การปรบปรุงผลลัพธ์จริงให้ดีขึ้น เช่น พยายามลดอัตราการเกิดอบัติเหตุของพนักงาน กัน ทำให้รถยนต์ของตนเสียหาย หรือขับรถไปชนคนที่กำลังเดินข้ามถนนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เป็นต้น
ั
่
ี
้
ึ
ั
ั
ขณะปฏิบติงานในโรงงานใหนอยลงจนอยู่ในระดบมาตรฐานท่ยอมรับได้ ซงจะตองอาศัยความร่วมมือจากหลาย ๆ ตัดสินใจรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ๆ และโอนความเสี่ยงที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันภายในกลุ่มของตนไปให้ผู้รับประกนภัย
้
้
ฝ่าย ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทุนของกลุ่มนั้น
2. การเปลยนแปลงมาตรฐานที่กำหนดไว้เดิมให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง และเป็นที่ยอมรับมากขึ้น
ี
่
ถ้าหากว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้เดิมนั้นสูง หรือต่ำจนเกินไป 1. ความหมายของการประกันภัย
การประกนภัย เป็นการที่บุคคลฝ่ายหนึ่งซึ่งเรียกว่า “ผู้รับประกันภัย” ทำหน้าที่เป็นหลักประกันแก่บุคคล
ั
ี
อีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเรยกว่า “ผู้เอาประกันภัย” ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้รับความเดือดร้อนทางการเงินจากภัยที่อาจ
ิ
เกดขึ้นในอนาคตซึ่งทำความสูญเสีย หรือความเสียหายแก่ชีวิต และทรัพย์สินของเขา โดยผู้รับประกันภัยสัญญาว่า
จะจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยตามจำนวน และเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ หรออาจจัดการทำให้
ื
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ิ
ั
้
ั
ิ
ิ
ิ
ํ
์