Page 96 - InsuranceHandbook
P. 96
บทที่ 5 หลักส�าคัญของสัญญาประกันภัย 77
สรุป บริษัทประกันภัย A ชดใช้ 20,000 บาท บริษัทประกันภัย B ชดใช้ 34,615.39 บาท และบริษัท สูตรที่ใช้ในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนตามวิธี Independent Liability Method เป็นดังนี้
ประกันภัย C ชดใช้ 42,153.84 บาท ส่วน นาย ก. ในฐานะผู้เอาประกันภัยรับผิดชอบเอง 3,230.77 บาท ความรับผิดที่กรมธรรม์ประกันภัยฉบับนั้นจะต้องรับไว้ × ความรับผิดของผู้เอาประกันภัย
ผลรวมของความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง
ั
5.1.2 วิธีคำนวณความรบผิดโดยเอกเทศ (Independent Liability Method)
เป็นอีกวิธีการหนึ่งในการคำนวณจำนวนคาสนไหมทดแทนกรณีที่มีผู้รับประกันภัยตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป ตัวอย่างที่ 1 กรณีไม่มความรับผิดส่วนแรกหรือความเสียหายส่วนแรก (Deductible) ที่ผู้เอาประกนภัย
่
ิ
ั
ี
คุ้มครองวินาศภัยเดียวกันในการร่วมชดใช้ค่าสินไหมทดแทน โดยพิจารณาความรับผิดของผู้รับประกันภัยแต่ละราย จะต้องรับผิดชอบเองไว้ด้วย
ิ
ั
แยกเปนอสระจากกน แล้วจึงนำอัตราส่วนความรับผิดของผู้รับประกันภัยแต่ละรายมาคำนวณหาจำนวน สมมุติว่ามีกรมธรรม์ประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องอยู่ 2 ฉบับ โดย
็
ค่าสินไหมทดแทนที่ผู้รับประกันภัยแต่ละรายจะต้องชดใช้ ผู้รับประกนภัยรายที่ 1 ได้กำหนดจำนวนเงินจำกดความรับผิดไว้ 4,000,000 บาทต่อเหตุการณ์แต่ละครั้งและตลอด
ั
ั
ุ
์
ตัวอย่าง กรมธรรมประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อบคคลภายนอก ได้กำหนดไว้หมวดที่ 4 เงื่อนไข ระยะเวลาประกันภัย ส่วนผู้รับประกันภัยที่ 2 ได้กำหนดจำนวนเงินจำกัดความรับผิดไว้ 2,000,000 บาทต่อ
และข้อกำหนดทั่วไป ข้อ 10. การประกันภัยอื่นและการเฉลี่ยความรับผิด ดังนี้ เหตุการณ์แต่ละครั้งและตลอดระยะเวลาประกันภัย หากมีความรับผิดของผู้เอาประกันภัยรวมค่าใช้จ่ายในการต่อสู้
ื่
“10. การประกันภัยอนและการเฉลี่ยความรับผิด หากผู้เอาประกันภัยมีกรมธรรม์ประกันภัยฉบับอนซึ่งให้ คดี 500,000 บาท และได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยทั้ง 2 ฉบับ
ื่
ความคุ้มครองความรบผดตามกฎหมายอยางเดียวกันกับกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ บริษัทจะรับผิดใน คำนวณความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยที่เกยวข้องได้ดังนี้
ั
่
ิ
ี่
่
่
ค่าสินไหมทดแทนและคาใช้จ่ายในการต่อสู้คดีตามอัตราสวนของบริษัทสำหรับจำนวนเงินที่บริษัทจะต้องร่วมเฉลี่ย ความรับผิดโดยเอกเทศของผู้รับประกันภัยรายที่ 1 = 500,000 บาท
ในความรับผิดนั้น ความรับผิดโดยเอกเทศของผู้รับประกันภัยรายที่ 2 = 500,000 บาท
ทั้งนี้ ไม่ว่ากรณีใด ๆ การชดใช้ของบริษัทจะไม่เกินไปกว่าจำนวนเงินจำกัดความรับผิดที่กำหนดไว้ในตาราง ผลรวมของความรับผิดของกรมธรรม์ประกันภัยที่เกี่ยวข้อง = 500,000 + 500,000 = 1,000,000 บาท
กรมธรรม์ประกันภัย” แทนค่าตามสูตรคำนวณ
ั
ั
ข้อกำหนดนี้มุ่งหมายที่จะให้เกิดความเป็นธรรมในระหว่างผู้รับประกนภัยด้วยกันที่จะร่วมกนออกส่วนเฉลี่ย
(Contribution) ความรับผิดที่กรมธรรมประกันภัยทุกฉบับให้ความคุ้มครองโดยไม่ต้องดูว่าในระหว่าง ผู้รับประกันภัยรายที่ 1 รับผิด = 500,000 × 500,000 = 250,000 บาท
์
1,000,000
ั
ผู้รับประกันภัยที่เกี่ยวข้อง ผู้รบประกันภัยรายใดได้รับประกันภัยไว้ก่อนหรือหลังผู้รบประกนภัยรายอน เนื่องจาก ผู้รับประกันภัยรายที่ 2 รับผิด = 500,000 × 500,000 = 250,000 บาท
ั
่
ื
ั
ื่
ั
ข้อกำหนดข้อนี้ บริษัทตกลงที่จะร่วมเฉลี่ยความรับผิดกับผู้รับประกันภัยรายอนที่ให้ความคุ้มครองในความรบผิด 1,000,000
เดียวกันของผู้เอาประกันภัยอย่างเดียวกันกับกรมธรรมประกนภัยความรับผิดฉบับนี้ เช่น ผู้เอาประกนภัยได้
ั
ั
์
เอาประกันภัยความรับผิดเช่นเดียวกบกรมธรรมประกันภัยฉบับนี้ไว้กับผู้รับประกันภัย 2 ราย กรณีเช่นนี้
์
ั
ผู้รับประกันภัยทั้ง 2 รายจะร่วมเฉลี่ยความรับผิดในค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยและค่าใช้จ่ายในการต่อสู้ สรุป ผู้รับประกนภัยรายที่ 1 และผู้รับประกันภัยรายที่ 2 ชดใช้คนละครึ่ง คือรายละ 250,000 บาท
ั
คดี จึงไม่ต้องพจารณาว่าผรับประกนภัยรายใดไดรบประกนภัยไว้กอนหรอหลังกัน ส่วนการเฉลี่ยจะเป็นไปตาม เท่ากัน เพราะกรมธรรมประกันภัยทั้ง 2 ฉบับสามารถคุ้มครองความรับผิดได้เต็ม เนื่องจากสัดส่วนของความรับผิด
ื
ู
์
ิ
้
่
ั
้
ั
ั
ั
สัดส่วนของค่าสินไหมทดแทนและคาใช้จายในการต่อสู้คดีที่เกิดขึ้นซึ่งกรมธรรมประกนภัยแต่ละฉบับที่เกี่ยวข้อง ในค่าสินไหมทดแทนและคาใช้จ่ายในการต่อสู้คดีของผู้รับประกนภัยรายท 1 และผู้รับประกันภัยรายท 2 เท่ากัน
่
์
่
่
ี
่
ั
ี
่
ั
จะต้องรับผิด ทั้งนี้เพราะเงื่อนไขข้อนี้กำหนดให้เฉลี่ยจาก “ความรบผิด (Liability)” มิใช่เฉลี่ยจาก “จำนวนเงิน คือ 1 : 1
จำกัดความรับผิด (Limit of Liability)” ดังนั้น ในชั้นแรกจึงต้องดูความรับผิดของกรมธรรม์ประกนภัยแตละฉบับ
่
ั
ี
ั
ั
แยกขาดจากกนเป็นอิสระว่ามีความรับผิดเท่าไร หากแต่ละฉบับต่างสามารถที่จะคุ้มครองความรบผิดได้เต็ม ตัวอย่างที่ 2 กรณีมความรับผิดส่วนแรกหรือความเสียหายส่วนแรก (Deductible) ที่ผู้เอาประกันภัย
กรมธรรม์ประกันภัยทั้ง 2 ฉบับจะรับผิดในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งเป็นไปตามวิธีคำนวณความรบผดโดยเอกเทศ จะต้องรับผิดชอบเองไว้ด้วย
ิ
ั
ั
ิ
ิ
(Independent Liability Method) แต่จะนำ “จำนวนเงินจำกัดความรับผิด (Limit of Liability)” ของแต่ละ ในกรณีที่ความรับผิดของผู้เอาประกนภัยรายใดเกนกว่าจำนวนเงนจำกดความรับผิดของผู้รับประกันภัย
ั
กรมธรรม์มาใช้ในการคิดส่วนเฉลี่ยก็ต่อเมื่อความเสียหายที่ผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดมีจำนวนเกินกว่าจำนวนเงิน การคำนวณความรับผิดของผู้รับประกันภัยแต่ละรายจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับหลักการข้างต้น แต่จะต้องนำ
จำกัดความรับผิดที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องฉบับใดฉบับหนึ่งหรือทุกฉบับ กรณีเช่นนั้น ความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกนภัยจะต้องรับผิดชอบเองของแต่ละกรมธรรม์ประกันภัยไปหักออกจากความรับผิด
ั
ิ
่
่
การคำนวณส่วนเฉลี่ยที่ผู้รับประกันภัยแต่ละรายต้องชดใช้จะเป็นไปตามวิธีคำนวณตามสวนจำนวนเงิน ของผู้เอาประกันภัยก่อนเสมอ แล้วจึงพจารณาความรับผิดของผู้รับประกันภัยแต่ละรายซึ่งต้องไมเกินกว่าจำนวนเงิน
ั
ิ
ั
ั
ั
เอาประกันภัย (Maximum Liability Method) ที่ได้อธิบายใน 5.1.1 จำกดความรบผิดของแต่ละกรมธรรม์ประกันภัย เช่น กรมธรรม์ประกนภัยความรับผดของผรับประกนภัยรายแรก
ู
้
่
หากกรมธรรม์ประกันภัยที่เกี่ยวข้องฉบับใดมีการกำหนดความรับผิดส่วนแรกหรือความเสียหายสวนแรก และรายที่สองกำหนดจำนวนเงินจำกัดความรับผิดไว้ 6,000,000 บาท และ 1,000,000 บาทตามลำดับและกำหนด
ั
ั
ิ
(Deductible) ที่ผู้เอาประกนภัยจะต้องรับผดชอบเองไว้ จะต้องนำความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกนภัยจะตอง ความรับผิดส่วนแรกที่ผู้เอาประกนภัยจะต้องรับผิดชอบไว้เทากนทั้งสองฉบับ คือ 200,000 บาท ความรับผิดของผู้
ั
ั
้
่
รับผิดชอบเองของแต่ละกรมธรรม์ประกันภัยไปหักออกจากความรับผิดของผู้เอาประกันภัยก่อน เอาประกันภัยรวมค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดี 3,000,000 บาทและได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกนภัยทั้งสอง
ั
ฉบับ ความรับผิดของผู้รับประกันภัยแต่ละรายจะเป็นดังนี้
ิ
์
ิ
ิ
ั
้
ํ
ั
ลขสทธของสมาคมประกนวนาศภยไทย หามนาไปใช้ในการแสวงหากําไรทางการคา ้
ิ