Page 11 - InsuranceJournal138
P. 11
รอบรู้ประกันภัย
เรื่องของระดับการศึกษาพบว่า ระดับมัธยมศึกษาหรือเทียบ ทัศนคติต่อกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพ่อ
ื
ั
ี
้
ื
ี
ี
ุ
�
เท่าต้องการซอกรมธรรม์ประกนภัยอุบัติเหตุมากท่สดร้อยละ 68.3 คนพิกำร เป็นข้อคาถามท่วัดทัศนคติในแง่บวกเก่ยวกับกรมธรรม์
ี
ุ
ั
ั
รองลงมาเป็นระดบปรญญาตรร้อยละ 63.3 ช่วงอายมธยมศกษาหรอ ประกันภัยเพ่อคนพิการ ผลการศึกษาพบว่าการแจกแจงรายละเอียด
ิ
ื
ึ
ื
เทียบเท่าจนถึงปริญญาตรีคือ 15-24 ปี จัดเป็นกลุ่มเส่ยงในเร่องของ ความคุ้มครอง ผลประโยชน์มีความชัดเจนและเข้าใจง่ายคิดเป็นร้อยละ
ี
ื
การเกิดอุบัติเหตุ ซ่งอาจมีผลมาจากสภาวะการเร่มต้นเข้าสู่วัยรุ่นน่นเอง 81.4 ราคาหรือเบี้ยประกันภัย 300 บาท/ปี มีความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับ
ึ
ิ
ั
่
เรองของกลุ่มอาชีพพบว่ากลุ่มอาชีพผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวต้องการ ความคุ้มครองท่ได้รับร้อยละ 85.2 การกระจายข่าวสารเก่ยวกับ
ื
ี
ี
ื
ี
ื
ื
ซ้อกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุมากท่สุดร้อยละ 67.0 รองลงมาเป็น “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพ่อคนพิการ” ผ่านส่อโฆษณาต่าง ๆ ร้อย
ี
กลุ่มอาชีพที่รวมกลุ่มท�าอาชีพในชุมชนร้อยละ 65.3 โดยส่วนตัวผู้เขียน ละ 68.0 สถานท่ต้งของบริษัทประกันภัย/ตัวแทนมีความสะดวกและ
ั
มีความเห็นว่าผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัวและรวมกลุ่มทาอาชีพเห็นถึง ง่ายในการติดต่อสอบถามร้อยละ 72.0 ความสามารถในการช�าระเบี้ย
�
ความส�าคัญ ความจ�าเป็น และต้องการซื้อประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อเป็น ร้อยละ 85.2 รวมถึงความคุ้มครองหรือผลประโยชน์ของกรมธรรม์
ิ
ั
หลักประกันให้ตนเองและครอบครัว ต่างจากกลุ่มอาชีพลูกจ้างภาครัฐ ประกันภยอบัตเหตุเพอคนพการตรงกับความต้องการร้อยละ 83.2 โดย
ื
ิ
ุ
่
ื
ี
ึ
ี
และเอกชนซ่งมีสวัสดิการจากองค์กรรองรับในเร่องค่าใช้จ่ายและ รวมแล้วกลุ่มคนพิการท่ตอบแบบสอบถามมีทัศนคติท่ดีมากต่อตัว
ื
ี
ี
่
ึ
ค่ารักษาพยาบาลอยู่แล้ว เร่องของความพิการก็เป็นอีกหน่งปัจจัยท กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพราะมีความคุ้มครองท่คุ้มค่า ตรงกับ
ุ
ั
บงชถงความตองการซ้อกรมธรรมประกันภยอบตเหต จากผลการศกษา ความต้องการและราคาประหยัด แต่ทัศนคติในด้านการกระจายข่าวสาร
ึ
ิ
ุ
้
์
ี
ื
้
ึ
่
�
พบว่ากลุ่มคนพิการภายหลังและคนพิการแต่กาเนิดยังคงต้องการ โฆษณา หรือสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ “กรมธรรม์ประกันภัย
ื
่
ซ้อกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพ่อคนพิการเกินร้อยละ 50.0 หรือ อุบัติเหตุเพ่อคนพิการ” ตาสุดเม่อเทียบกับทัศนคติต่อตัวกรมธรรม์
�
ื
ื
ื
คิดเป็นร้อยละ 68.3 ของกลุ่มคนพิการภายหลัง และร้อยละ 53.2 ของ ประกันภัยอุบัติเหตุ อาจสืบเน่องมาจากการกระจายข่าว ประชาสัมพันธ์
ื
กลุ่มคนพิการแต่ก�าเนิดซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว ผ่านสือโฆษณาต่าง ๆ ไม่ทั่วถึง อ้างอิงได้จากจ�านวนแบบสอบถาม 300
ฉบับ เคยทราบหรือได้ยินข่าวสารเก่ยวกับ “กรมธรรม์ประกันภัย
ี
ปัจจัยส่วนผสมทำงกำรตลำด 4P เป็นปัจจัยที่ชี้ให้ อุบัติเหตุเพื่อคนพิการ” เพียงร้อยละ 20.0 เท่านั้น
เห็นว่าเร่องของผลิตภัณฑ์ (Product) ราคา (Price) ช่องทาง เม่อสอบถามบริษัทประกันภัยและบริษัทประกันชีวิตบางแห่ง
ื
ื
่
ั
ั
ี
่
�
ิ
�
ั
ื
่
ี
ุ
การจ�าหน่าย (Place) และการส่งเสริมการขาย (Promotion) มีผลต่อ เกยวกับจานวนกรมธรรม์ประกนภยอุบตเหตเพอคนพการทจาหน่ายไป
ิ
ิ
ิ
ิ
ิ
ื
�
การตดสนใจซอหรอไม่ ผลการวเคราะห์เชงสถต พบว่าส่วนประสม แล้วน้น ทราบว่ามีจานวนน้อยมากแต่มีการต่ออายุเกือบทุกกรมธรรม์
้
ั
ั
ิ
ื
ทางการตลาดมีผลต่อการตัดสินใจซ้อประกันภัยอุบัติเหตุเพ่อคนพิการ โดยความเห็นส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า หากคนพิการทราบข่าวสารเกี่ยวกับ
ื
ื
�
ถึงร้อยละ 84.35 การจาหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพ่อคนพิการ ด้วยความพร้อม
ื
�
ี
รวมถึงมีทัศคติท่ดีต่อกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุ จะส่งผลให้จานวน
ปัจจัยด้ำนพฤติกรรมกำรด�ำเนินชีวิต (ระดับ กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพ่อคนพิการเพ่มมากข้น ท้งยังเป็นการ
ิ
ั
ึ
ื
ั
ื
ั
่
�
ี
�
ความปลอดภัยในการดาเนินชีวิตประจาวัน) เป็นข้อคาถามเก่ยวกับ เปิดโอกาสให้คนพิการได้เข้าถึงระบบประกนภยและใช้เป็นเครองมือ
�
ี
การช่วยเหลือตัวเอง การป้องกันในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น ความใส่ใจและ บริหารความเส่ยงในการดาเนินชีวิตได้ตรงกับวัตถุประสงค์ของโครงการ
�
ี
ี
ระมัดระวังในการโดยสารยานพาหนะ รวมถึงท่อยู่อาศัยท่ปลอดภัย นี้ แต่มุมมองของความเสี่ยงที่บริษัทประกันภัยและประกันชีวิตต้องรับ
�
�
ื
เอ้ออานวยในการดาเนินชีวิต ตลอดจนความถ่ในการเกิดอุบัติเหต ไว้นั้น ตามความเห็นส่วนตัวและอ้างอิงจากผลการศึกษา เห็นได้ชัดว่า
ี
ุ
ั
บ่อยคร้งหรือไม่ ผลการวิเคราะห์เชิงสถิติจากการศึกษาพบว่า กลุ่มคนพิการ คนพิการสามารถช่วยเหลือตนเอง มีรายได้ ระมัดระวังรวมถึงม ี
สามารถช่วยเหลือตนเองและให้ความใส่ใจในเร่องของความปลอดภัย จิตใต้ส�านึกในการใช้ชีวิตด้วยความปลอดภัยและไม่ประมาท โดยรวม
ื
ต่อการด�าเนินชีวิตถึงร้อยละ 81.6 ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงมาก แล้วความเส่ยงไม่แตกต่างจากคนปรกติมากนัก อีกท้งคนพิการยังคง
ี
ั
ต้องการปัจจัยพ้นฐาน ความเสมอภาคทางสังคมรวมถึงหลักประกันและ
ื
ความมั่นคงในการด�าเนินชีวิตเฉกเช่นเดียวกับคนปรกติทั่วไป
ที่มา: ธมลธร ศักดิ์ดีชุมพล (2559). “ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อคนพิการ”.
แหล่งที่มาของผู้ตอบแบบสอบถาม: สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย สมาคมคนพิการทางการเคลื่อนไหวสากล และสมาคมส่งเสริมอาชีพคนพิการ
วารสารประกันภัย มกราคม - มีนาคม 2561 11