Page 27 - InsuranceJournal147
P. 27
วิชาการ IPRB
ี
ตารางท่ 3 ตัวอย่างอัตราส่วนของทุนประกันภัยตามอัตราความประมาทของบุคคล
อัตราส่วนของทุนประกันภัยต่อทุนประกันภัยเต็ม
อัตราความประมาทของบุคคล
ทุนค่ารักษาพยาบาล ทุนค่าชดเชยกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ
00.00-39.99% 100% 100%
40.00-59.99% 80% 60%
60.00-79.99% 80% 40%
80.00-100.00% 80% 20%
ี
ื
ี
ี
ดังท่แสดงให้เห็นตามตารางท่ 3 ว่าบุคคลท่มีอัตราความประมาทสูง เพ่อดารงชีวิตและหาเล้ยงชีพต่อได้ในภายหน้า จึงควรมีความคุ้มครองท ่ ี
�
ี
ั
ั
จะมีการลดหล่นความคุ้มครองลงมา เช่น ผู้ท่มีอัตราความประมาท 85% ค่อนข้างสูง อาทิ 70 ถึง 90 เปอร์เซนต์ไทล์ของค่ารักษาท้งหมด เป็นต้น
ี
ี
น้นมสิทธิได้รับการชดเชยค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 80% ของวงเงิน
ั
ค่ารักษาพยาบาลเต็ม และหากเสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยไม่เกิน 20%
ี
ของวงเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต ท้งน้ อัตราการชดเชยในบรรทัดสุดท้าย
ั
ี
ื
ของตารางท่ 3 เปรียบเสมือนอัตราการชดเชยเบ้องต้นก่อนพิสูจน์ 2 เบยประกนภย
ั
ั
ี
้
ความผิดในกรมธรรม์ปัจจุบัน
ี
ี
ี
ี
หากกาหนดให้รถท่มีอัตราความประมาทสูงสุดในอุบัติเหตุเป็นฝ่าย เบ้ยประกันภัยต้องสอดคล้องกับต้นทุนท่เก่ยวข้อง
�
รับผิดชอบความเสียหายต่อผู้ประสบภัยทุกคน ไม่เกินทุนประกันภัยของบุคคล อัตราเบ้ยประกันภัยของรถแต่ละประเภทต้องมีการทบทวนและ
ี
ั
ุ
ี
ี
ั
ุ
หน่ง ๆ ท่หักลดตามอัตราความประมาทแล้วดังน้ จะช่วยให้มีความชัดเจน ปรบปรงให้เหมาะสมกบต้นทนความเสยหายและค่าใช้จ่ายในการรบ
ี
ึ
ั
�
ในหลักเกณฑ์พิจารณาการจ่ายสินไหมทดแทนและการกาหนดผู้รับผิด ประกันภัยเป็นประจา ตามหลักการกาหนดเบ้ยประกันภัยและหลักการ
�
ี
�
ี
การประกันภัยภาคบังคับ อย่างไรก็ดี การปรับปรุงท่ถ่เกินไปอาจสร้าง
ี
�
ควรมีเกณฑ์ในการวัดมูลค่าการสูญเสียรายได้ กรณีเสียชีวิต หรือ ความลาบากในทางปฏิบัติ และช่วงเวลาทบทวนท่ห่างเกินไปจะทาให้
ี
�
ี
ี
ั
ี
�
ี
สูญเสียสมรรถภาพในการทางาน ท่แน่ชัดและยอมรับได้ท่วไป เบ้ยประกันภัยไม่สะท้อนถึงต้นทุนท่เปล่ยนแปลงไปอย่างทันท่วงท ี
ั
ั
ี
การประกันภัยรถยนต์ในปัจจุบันน้น ยังไม่มีหลักการท่แน่ชัด ดังน้นช่วงเวลาในการทบทวนและเกณฑ์ในการปรับปรุงเบ้ยประกันภัย
ี
ั
ี
่
�
ั
ี
ู
ี
่
ี
ื
ิ
ู
ในการวดมลคาความเสยหายตอชวต หรอสญเสยสมรรถภาพในการทางาน ควรจัดต้งให้อยู่ในกรอบท่เหมาะสม เช่น ช่วงเวลาทบทวนต้นทุนควรม ี
ื
�
ี
ึ
ั
อันเป็นผลให้ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจมักเกิดการโต้แย้งเร่องระดับ ปีละ 1 คร้ง เกณฑ์ในการปรับปรุงเบ้ยประกันภัยสาหรับรถประเภทหน่ง ๆ
ี
�
�
ค่าชดเชยท่ไม่เพียงพอต่อความสูญเสีย และทาให้การกาหนดทุนประกันภัย คืออัตราส่วนรวมคาดหวัง (Expected Combined Ratio) อยู่นอกช่วง
ั
ของประกันภัย พ.ร.บ. น้นไม่มีเกณฑ์อ้างอิงได้ว่าสามารถชดเชย 95-105% หรือ อัตราความเสียหายคาดหวัง (Expected Loss Ratio)
ั
ความเสียหายจริงได้พอเพียงเท่าใด ดังน้นควรมีการต้งเกณฑ์มาตรฐาน อยู่นอกช่วง 60-70% เป็นต้น
ั
เพ่อใช้ในการชดเชยความเสยหายต่อชวิต โดยคานึงถึงรายได้ท่สูญเสีย การทบทวนข้อมูลความเส่ยง นโยบายการปรับปรุงอัตราเบ้ยประกันภัย
ี
ื
ี
ี
�
ี
ี
ั
ั
ไป เช่น รายได้ต่อปี คูณ อายุขัยแรงงาน เป็นต้น จากน้นจึงกาหนดทุน พ.ร.บ. ตามระดับความเสียหายล่าสุด พร้อมท้งการเปิดเผยข้อมูลอุบัติเหต ุ
�
ั
ประกันภัยกรณีเสียชีวิตของประกันภัย พ.ร.บ. เป็นค่า ณ สัดส่วนหน่ง ๆ และการชดเชยต่อสาธารณชนอย่างโปร่งใสน้น จะเป็นกลไกท่ส่งผลดีต่อ
ี
ึ
ี
ของรายได้ท่สูญเสียเฉล่ยของประชากรในประเทศ อุตสาหกรรม เศรษฐกิจและสังคมได้นานัปการ อาท ิ
ี
ี
ั
้
ั
• ผู้ขบขได้รบเบยประกนภยทเป็นธรรมต่อระดบความเสยงในการ
่
ี
ั
ั
ี
่
ี
่
ั
ี
ทุนประกันภัยต้องเพียงพอท่จะชดเชยความเสียหายจริง ณ ระดับ เกิดอุบัติเหตุของรถตน
ี
�
ี
ึ
หน่ง ๆ • บริษัทประกันภัยได้รับการกาหนดเบ้ยประกันภัยท่เป็นธรรม
่
ั
ุ
ี
ี
้
ั
่
�
�
ุ
ิ
ทกครงทีมการปรบเปลยนวงเงนความค้มครอง ควรพจารณาจาก ต่อต้นทุนการประกันภัย ทาให้สามารถดาเนินธุรกิจและมอบความคุ้มครอง
ิ
ื
การกระจายตวของความเสยหายจรงแต่ละประเภท เพ่อให้รบรองได้ว่า ให้กับสังคมต่อไปได้
ั
ั
ี
ิ
ี
�
ทุนประกันภัยจะสามารถรองรับความเสียหายได้ในส่วนใหญ่โดยไม่ให้ • สามารถกาหนดค่านายหน้าได้ทางอ้อม ผ่านอัตราเบ้ยประกันภัย
ั
ี
ี
ิ
ื
ื
ภาระทางการเงินตกไปอยู่กับผู้ประสบภัยมากเกินควร ย่งประเภท ท่เหมาะสม เพ่อให้เบ้ยประกันภัยส่วนใหญ่น้นใช้เพ่อชดเชยให้แก่ประชาชน
ี
ึ
�
ี
ความเสียหายท่จาเป็นมากเท่าใดก็ควรมีระดับความคุ้มครองท่มากข้น ผู้ประสบภัย
ั
เท่าน้น เช่น ค่ารักษาพยาบาลเป็นการชดเชยท่จาเป็นต่อผู้ประสบภัย
ี
�
วารสารประกันภัย ฉบับที่ 147 27